กระจ่าง!!"สุชาติ"โดดอุ้ม"อดีต3พรหม"ฉาวเงินทอนวัด-ถึงเวลาที่ชาวพุทธต้องทำความเข้าใจจริงๆแล้วพระพุทธศาสนาคืออะไร??

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ความหมายของ“พระพุทธศาสนา”  ในปัจจุบันแค่คนนุ่งเหลืองห่มเหลือง และให้คำนิยามว่า “พระ” เท่านั้นหรือ? ประชาชนร่วมทั้งภาครัฐไม่ต้องทำหรือมีส่วนร่วมตัดสินใจแบบนั้นหรือ ตามที่คนบางพวก พระบางกลุ่มต้องการใช่หรือไม่

 

ในข้อเท็จจริงแล้วคงเป็นไปเช่นนั้นไม่ได้ เพราะองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสเอาไว้ชัดเจน ตัวแทนของพระพุทธเจ้าคือ “พระธรรม” คำสั่งสอน โดยแกนแท้นั้นคือ  สรรพสิ่งล้วนเกิดขึ้น-ตั้งอยู่-เปลี่ยนแปลง-แล้วดับไปทั้งสิ้น เป็นอนิจจัง-ทุกขัง-อนัตตาและอนิจจัง

อนิจจัง เที่ยงแท้ยังไม่เป็น ไปได้นั่น เกิดข้นแล้ว ตั้งอยู่ ดับไปพลัน ไม่มีใครสามารถควบคุมได้ ทุกอย่างเป็นไปเช่นนั้น แม้แต่ร่างกายเราเอง จึงเป็นที่มาของคำว่า “ปล่อยวาง”

 

 

ประเด็นต่อมาองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสถึงผู้ที่ทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบต่อไปอันได้แก่ พุทธบริษัททั้ง 4 คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา  ดังนั้นการจะทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ทั้งฝ่ายประชาชน ภาครัฐ ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการรักษาดูแล

 

 

อดีตที่ผ่านมาชัดเจนได้มีการชำระสะสางพระที่บกพร่องในพระวินัย แต่ละยุคแต่ละสมัยอย่างชัดเจน และเห็นเป็นรูปธรรม อาทิในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์  ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่4 ครั้นพระชนมายุ ๒๐ พรรษา ได้ทรงผนวช ทรงพระนามว่า พระวชิรญาณเถระ และเสด็จไปจำพรรษา ณ วัดสมอราย (วัดราชาธิวาส) ต่อมาพระบรมชนกนาถเสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงขึ้นครองราชย์ พระองค์จึงทรงอยู่ในสมณเพศต่อมาถึง ๒๗ พรรษา

 

 

ได้ทรงศึกษาพระไตรปิฎกอย่างแตกฉานทำให้มีพระวิจารณญาณเกี่ยวกับความเป็นมาของพระพุทธศาสนา และความประพฤติปฏิบัติของพระภิกษุสามเณรได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ในครั้นนั้นทรงเห็นถึงความหย่อนยานทางพระวินัยของพระภิกษุสงฆ์ในขณะนั้น เมื่อทรงพบกับพระสุเมธมุนี (ซาย พุทธวํโส) พระเถระแห่งรามัญนิกายที่มีข้อวัตรปฏิบัติที่น่าเลื่อมใส จึงก่อให้เกิดธรรมยุติกนิกาย อันได้รับแรงบันดาลใจมาจากรามัญนิกาย และสีหลนิกาย ที่ทรงเชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดของคณะสงฆ์นิกายเถรวาททั้งปวง ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในคณะสงฆ์ครั้งสำคัญ ตามแนวความคิดของพระองค์ขึ้น

 

นี่คือสิ่งที่เห็นชัดว่าการเข้าไปเปลี่ยนแปลงในคณะสงฆ์ เพราะความเหลวไหลที่เกิดขึ้นจากคณะสงฆ์บางกลุ่ม มาถึงปัจจุบันข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในคณะสงฆ์ไทย เกิดการทุจริต การฉ้อโกงเงินงบประมาณ หรือที่เรียกกันติดปากว่าเงินทอนวัด  ที่ร่วมมือกันทั้งพระชั้นผู้ใหญ่ ทั้ง ฆราวาส โกงกินอย่างเป็นระบบเป็นขบวนการยาวนานอย่างต่อเนื่อง สร้างความเสียหายให้กับชาติบ้านเมืองมหาศาลนับหลายร้อยล้านบาท  ซึ่งทางเจ้าหน้าที่รัฐ นำโดย พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) รวมมือกับหลายภาคส่วน บุกทลายวงจรอุบาท ขุดรากถอนโคน จนทำให้อดีตพระชั้นผู้ใหญ่ถูกจับสึกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอดีต3พระพรหม ที่เข้าไปเกี่ยวข้อง

 

 

อดีตพระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร ,อดีตพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม และอดีตพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร

ไม่กี่วันที่ผ่านมาปรากฏว่ามีนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรมว.ศึกษาธิการ และอดีตรมว.คลัง ในยุครัฐบาลระบอบทักษิณ ยังเป็นอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเคลื่อนไหวกรณีเงินทอนวัดหลังมีการเข้าจังกุมพระผู้ใหญ่ไปหลายรูป โดยมองว่าเป็นทำลายศาสนา

 

ทั้งนี้นายสุชาติโพสต์ดข้อความในเฟซบุ๊ก  Suchart Thada-Thamrongvech มาต่อเนื่องนับแต่วันเกิดกรณีเงินทอนวัด  โดยเขาระบุว่า...

พระพุทธศาสนาเป็นสถาบันหลักของชาติไทย อยู่คู่กับคนไทยมานานนับพันๆปี

ขณะนี้เกิดอาเพศ เกิดเหตุผิดปกติวิสัย คณะสงฆ์ สถาบันสงฆ์ และพระพุทธศาสนา ถูกคุกคามอย่างไม่สมเหตุสมผลมีความรุนแรงอย่างมาก

พี่น้องประชาชนไทยทั่วโลกครับ ร่วมกันช่วยดูแลปกป้อง ค้ำจุนพระพุทธศาสนาของเรากันนะครับ....

2-3 วันมานี้ มีจนท.รัฐ บุกไปค้นบ้านคน 2 แห่ง แล้วออกข่าวว่า พระผู้ใหญ่ทำผิดเรื่องเงินทอนวัด

ทั้งๆ วัดมีหลักฐานเอกสารสัญญาจ้างงานถูกต้อง แต่คนเหล่านี้ไม่พูดถึง ใส่ร้ายพระผู้ใหญ่ไปก่อน ให้มีมลทินในสังคมไปก่อน...

ขณะนี้ พระพุทธศาสนาได้ถูกกระทำในด้านลบอย่างมากมาย ตั้งแต่การบุกปิดล้อมวัดฯไม่ให้เข้าออก การรื้อทำลายวัดป่า การสั่งไม่ให้ราชการอุดหนุนเงินวัด การเล่นงานพระระดับสมเด็จฯ โดยให้ข่าวให้ร้ายให้เสื่อมเสีย ทั้งหมดนี้เป็นขบวนการของพวกมารศาสนา

พี่น้องประชาชนไทยครับช่วยกันดูแลศาสนาพุทธ ของเรานะครับ...

พระเดชพระคุณพระพรหมทั้ง 3 ท่าน และพระผู้ช่วย ไม่รู้เรื่องเลยว่า รัฐฯ จะจับท่าน ไม่เคยมีหมายเรียกให้ไปชี้แจงเรื่องที่กล่าวหา จู่ๆ ก็นำตำรวจไปจับ คัดค้านการประกันตัว ดูแล้วผิดปกติมาก

พี่น้องประชาชนไทยครับ

ช่วยกันปกป้องสถาบันสงฆ์

ช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนา นะครับ...

 ก็ต้องมาดูว่า

 

 

ดังนั้นก็ต้องมาดูข้อเท็จจริงที่ว่า ทั้ง3อดีตพระพรหมนั้นได้มีพฤติกรรมอย่างไร

อดีตพระพรหมสิทธิ และพวกพบมีการโอนเงินอุดหนุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา 69 ล้านบาท ไปยังบัญชีบุคคลอื่นกว่า 10 บัญชีเจ้าหน้าที่อายัดบัญชีส่วนตัวของอดีตพระพรหมสิทธิ 10 บัญชี ยอดเงินรวมกว่า 130 ล้านบาทไว้ตรวจสอบ

 

อดีตพระพรหมดิลกและพวกถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม 5 ล้านบาท โดยโอนเงินไปบัญชีอื่น 6 บัญชี

และอดีตพระพรหมเมธี ถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม 5 ล้านบาท โดยโอนเงินไปบัญชีอื่น 3 บัญชี

ไม่นับรวมการพบซีดีภาพลามกอนาจาร เสพเมถุน หรือธุรกิจให้เช่าที่ดิน ที่ปรากฏหลักฐานชัดเจน ดังนั้นจึงเป็นคำถามว่าและเพราะเหตุใดนายสุชาติ ที่ได้กระโดดสุดตัวมาปกป้องมากมายถึงเพียงนี้ วันนี้เริ่มเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น

 

 

โดยเว็บไซต์ alittlebuddha.com ระบุในหัวข้อว่า “สุชาติสวมบทหัวหมู่กัลยาณมิตร ออกหน้าชนพงศ์พรและรัฐบาล คสช.ประณาม มารศาสนา ! ปลุกระดมมวลชนป้องสายธรรมกาย” พร้อมทั้งลงรูปประกอบ นายสุชาตินั้นร่วมกิจกรรมกับทางวัดพระธรรมกาย ระบุว่า...

 

กระจ่าง!!"สุชาติ"โดดอุ้ม"อดีต3พรหม"ฉาวเงินทอนวัด-ถึงเวลาที่ชาวพุทธต้องทำความเข้าใจจริงๆแล้วพระพุทธศาสนาคืออะไร??

 

“อา..ถ้าจะให้สมกับถ้อยคำอันเปี่ยมคุณค่าของ "พระเดชพระคุณพระเทพญาณมหามุนี" หรือท่านธัมมชโย ที่ประกาศว่า "หลงพ่อจะมอบตัวก็ต่อเมื่อประเทศเป็นประชาธิปไตย" แล้วคุณสุชาติก็น่าจะประกาศนโยบายพรรคเพื่อไทยว่า "ถ้าได้เป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้ง จะประกาศนิรโทษกรรมธัมมชโย สาวกพระธรรมกายที่ต้องคดี และอดีตพระที่ถูกจับสึกในรัฐบาล คสช. ทุกรูป ยกเว้นพุทธะอิสระ"

 

 

กระจ่าง!!"สุชาติ"โดดอุ้ม"อดีต3พรหม"ฉาวเงินทอนวัด-ถึงเวลาที่ชาวพุทธต้องทำความเข้าใจจริงๆแล้วพระพุทธศาสนาคืออะไร??

 

จึงไม่น่าแปลกใจนักการที่นายสุชาติออกมาป้องอดีตพระพรหมทั้ง3รูปนั้น ก็เป็นเพราะทั้ง3รูปนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับพระธัมมชโย และวัดพระธรรมกายทั้งสิ้น

...ถึงบางอ้อ...