เปลืองภาษีประชาชนหรือไม่?? "สารวัตรหนุ่ย" หิ้วถุงช๊อปปิ้งตามก้น"ยิ่งลักษณ์" ทำเสื่อม..ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์??

ตกเป็นข่าวทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์อีกครั้ง สำหรับนายตำรวจรูปหล่อหน้ามนอย่าง พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัยหรือ “ผู้กำกับหนุ่ย” ผกก.ฝ่ายวิจัยและพัฒนา ศูนย์พัฒนาด้านการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล บอร์ดี้การ์ดตระกูลชิน หลังจากที่สังคมออนไลน์แชร์ภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งหลบหนีความผิดจากกรณีโครงการรับจำนำข้าวอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ขณะกำลังเดินเข้าโรงแรมแห่งหนึ่ง  แต่ภาพดังกล่าวกลับมีชายคนหนึ่งกำลังเดินตามคณะของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้าไปในโรงแรมที่พัก ซึ่งมีลักษณะคล้าย พ.ต.อ.วทัญญู  กำลังถือถุงช๊อปปิ้งห้างดัง บนถนนออกซ์ฟอร์ด

ทำให้เกิดคำครหาต่างๆมากมาย อาทิเช่น " ตำรวจไทยถือเดินตามก้นนักโทษหนีคดี มิหน้ำซ้ำยังถือถุงช๊อปปิ้งให้กันอีก"

หรือ ...

"ตำรวจนายนี้รับเงินเดือนจากภาษีประชาชน แต่ไปรับใช้นักโทษหนีคดีที่โกงเงินจากภาษีประชาชน"

หรือ...

"พูดไม่ออกเลย สำนักงานตำรวจฯ รู้สึกขายหน้ามั่งหรือเปล่า ที่มีลูกน้องหยั่งงี้
ส่วนตน รู้สึกเสียดายภาษีที่จ่ายให้ไอ้ผู้กำกับคนนี้ว่ะ เป็นตำรวจเสียเปล่า ไม่รู้อะไรควรทำไม่ควรทำ
ถ้ารักจะตามตูดเขาอย่างนี้ ก็ลาออกไปเถอะ"

ทางด้านพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ก่อนหน้านี้ได้ระบุ พ.ต.อ.วทัญญู ได้ยื่นลาราชการระหว่างวันที่ 25 มิ.ย.ถึง 13 ก.ค.61 โดยระบุว่าลาไปจัดการเรื่องที่เรียนของบุตรที่ประเทศอังกฤษ พร้อมสั่งการให้ระงับการลาของ พ.ต.อ.วทัญญู และให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วนั้น

ล่าสุด พล.ต.ต.อัตชัย ดวงอัมพร รอง ผบช.ส. รักษาราชการแทน ผบช.ส. มีบันทึกข้อความด่วนที่สุด ถึงรอง ผบก.ศูนย์พัฒนาด้านการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล(ศพข.บช.ส.) เรื่องยกเลิกการลาและให้สืบสวนข้อเท็จจริง ระบุว่า ตามบันทึก บช.ส.ลงวันที่ 8 มิ.ย.2561 ท้ายหนังสือฝ่ายธุรการกำลังพล บก.อก.บช.ส.ที่0028.112/726 ลงวันที่ 7 มิ.ย.2561 เรื่องข้าราชการตำรวจขออนุญาตลาไปต่างประเทศ ซึ่ง บช.ส.ได้อนุญาตให้ พ.ต.อ.วทัญญู ลาพักผ่อนไปต่างประเทศ เพื่อไปดูสถานที่ศึกษาให้แก่บุตร ณ สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 25 มิ.ย.-13 ก.ค.2561 มีกำหนด 19 วัน(15 วันทำการ)

แต่เนื่องจากปรากฏภาพ ดังกล่าวขึ้น ซึ่งเป็นการไม่เหมาะสม บช.ส.จึงยกเลิกการลาของ พ.ต.อ.วทัญญู นับแต่เวลานี้ และให้ติดต่อ พ.ต.อ.วทัญญู เดินทางกลับที่ตั้งทันที พร้อมให้ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงในพฤติกรรมดังกล่าวตามระเบียบ แล้วสำเนาคำสั่งให้ทราบภายในวันที่ 28 มิ.ย.2561 ก่อนเวลา 12.00 น.โดยให้รายงานผลการสืบสวนข้อเท็จจริงให้ บช.ส.ทราบภายใน 7 วัน

อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่สังคมให้ความสนใจ จับตามองเป็นอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นนายเวรประวัติศาสตร์ที่ตามอดีตผู้นำประเทศมาแล้วถึง 2 คืออดีตนายกฯพี่ชายอย่างนายทักษิณ ชินวัตร กับอดีตนายกฯน้องสาวน.ส.ยิ่งลักษณ์ แถมยังถือเป็นตำรวจในบ้านในตระกูล “ชินวัตร” อย่างแท้จริง เพราะรู้จักมักจี่กับทุกคนทั้งหมด แถมเติบโตตั้งแต่เป็นผู้กองหนุ่ย สารวัตรหนุ่ย มาจนเป็นผู้กำกับหนุ่ยก็เหราะตามฝากตัวรับใช้ “นาย” มาตลอด 

แม้พ.ต.อ.วทัญญูจะถูกวิพากษ์ วิจารณ์อย่างหนักสำหรับพฤติกรรมต่างๆที่ผ่านมาในหฃายๆเรื่อง แต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่ถูกลงโทษหรือ มีคดีติดตัวใดๆ พ.ต.อ.วทัญญูถือว่ามีประวัติที่ใสสะอาด แตกต่างจากคนรอบกายอดีต2นายกตระกูลชินวัตรรายอื่นๆ 

อาทิ ”พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์" ผู้พา น.ส.ยิ่งลักษณ์หนีออกนอกประเทศ ก็ถูกออกจากราชการสังเวยคดี ผิดวินัยร้ายแรง พร้อมตั้ง กก.พิจารณาโทษเสนอ สตช.

กลับมาที่ประเด็นของพ.ต.อ.วทัญญูจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตามแต่ ไม่ว่าจะเป็นข้ออ้างว่าอยู่ในต่างประเทศ ที่ไม่มีอำนาจจับกุม แต่ก็เป็นเรื่องสมควรหรือไม่ ที่นายตำรวจ  ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ผู้มีหน้าที่ เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย รับเงินเดือนจากภาษีของประชาชน แต่กลับเดินเคียงข้าง นักโทษหนี อย่างน.ส.ยิ่งลักษณ์ คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว  ที่สร้างความเสียหายให้แก่ชาติบ้านหลายแสนล้านบาท

แบบนี้จะยังสมควรอยู่ในราชการอยู่หรือไม่?