จับตาเกมรุก “ระบอบทักษิณ-ปลุกแก้รธน.” จะเบี้ยวปชช.อีก หรือไม่? จับตา "คสช." แก้หมากเกมนี้อย่างไร ?

จับตาเกมรุก “ระบอบทักษิณ-ปลุกแก้รธน.” จะเบี้ยวปชช.อีก หรือไม่? จับตา "คสช." แก้หมากเกมนี้อย่างไร ?

     สืบเนื่องจากพฤติกรรมลูกชาย “โอ๊ค พานทองแท้”  ขยับมาที่บุคคลผู้เป็นพ่อที่เปิดหน้าออกมาชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับพฤติกรรมของ “ทักษิณ ชินวัตร”  และเครือข่ายซึ่งมีแนวทางและยุทธวิธีต่าง แต่จุดประสงค์เดียวกัน คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้มีโอกาสเป็นใหญ่ทางการเมือง เพื่อหาลู่ทางแก้ไขกฎหมายให้ตนเองและเครือญาติพ้นผิดคดีอาญา  โดยเฉพาะปฏิกิริยาแสดงความเห็นหลัง คสช.ประกาศปลดล็อกทางการเมืองเตรียมเลือกตั้ง

 


เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา "นายทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันหลบหนีอยู่ต่างแดน ได้มีการโพสต์เฟซบุ๊คพร้อมภาพชู3นิ้ว โดยเนื้อหาระบุว่า "วันนี้การที่คสช.จำต้องปลดล็อกไม่ใช่เขามีความกรุณาต่อเรา แต่เป็นการเอาสิทธิขั้นพื้นฐานของเราที่เขาช่วงชิงจากเราไปเป็นระยะเวลาเกือบ 5 ปี คืนกลับมาให้บางส่วนต่างหาก แต่อย่างไรก็ตาม ต้องขอแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวไทยด้วย นะครับ ที่วันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความหวังที่เราจะได้รับสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคกลับคืนมา ถึงแม้ว่าอาจไม่เหมือนเดิมเหมือนเมื่อครั้งได้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ปี 2540 เพราะรัฐธรรมนูญนี้ตั้งใจควบคุมและจำกัดสิทธิของประชาชนตามมาตรฐานสากล

 

ดังนั้นเราต้องร่วมกันแก้รัฐธรรมนูญฉบับถ่วงความเจริญของประเทศฉบับนี้โดยเริ่มต้นก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน ด้วยความรัก ความสามัคคีของ คนไทยที่หัวใจเป็นไทอย่างแท้จริง และจุดมุ่งหมายที่วางไว้ คงไม่ไกลเกินมือของพวกเรา ขอเป็นกำลังใจให้คนไทยทุกคนและผมจะขอทำหน้าที่ในฐานะที่เคยรับใช้ประเทศไทยมาและใจก็ยังไม่ได้จากไปไหนครับ.."

 

จับตาเกมรุก “ระบอบทักษิณ-ปลุกแก้รธน.” จะเบี้ยวปชช.อีก หรือไม่? จับตา "คสช." แก้หมากเกมนี้อย่างไร ?

 


    ทั้งนี้ พฤติกรรมที่เกิดขึ้นมีการตั้งธงของ “ทักษิณ” ว่าจะต้องร่วมกันแก้รัฐธรรมนูญฉบับถ่วงความเจริญ ท่าทีดังกล่าวนั้นเห็นได้ชัดว่ามีเจตนาแฝงเร้นเป้าหมายทางการเมืองชัดเจน ...ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าแท้จริงแล้วตัว “ทักษิณ” ต้องการอะไร ??  สำหรับการเคลื่อนไหวในครั้งนี้น่าติดตามว่าจะเป็นพยายามจุดชนวนให้เกิดการลุกฮือของประชาชนให้ลุกลามบานปลายหรือไม่? เพราะหากย้อนกลับไปดูพฤติกรรมของ “ทักษิณ” โดยเขามักชอบออกมาปลุกเล้าแต่ท้ายที่สุดเหมือนเป็นการหลอกประชาชนครั้งแล้วครั้งเล่า...

 


ยกตัวอย่าง เช่น การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เริ่มต้นขึ้นใน 26 มีนาคม 2552 เพื่อล้ม"รัฐบาลอภิสิทธิ์" และ "พาทักษิณกลับบ้าน" ซึ่งมีความเข้มข้นขึ้นทุกขณะ และนายทักษิณเอง ก็ปลุกระดมมวลชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยคำพูดที่ว่า"พี่น้องผมบอกได้เลย ถ้าเมื่อไร เสียงปืนแตก ทหารยิงประชาชน ผมจะเข้าไปนำพี่น้องเดินเข้ากรุงเทพทันที ผมจะไม่ยอมอีกแล้ว แล้วเราจะเดินกันทุกสาย ไม่ว่าจะรถอีแต๋น รถปิคอัพ รถเก๋ง รถบรรทุก ทุกสายจะเดินเข้ากรุงเทพให้หมด และจะมีผมอยู่ตรงนั้นด้วย..."
นี่เป็นเพียงกรณีหนึ่งจากอีกหลายๆกรณีที่ “ทักษิณ” หลอกใช้ประชาชนว่าจะออกมาเดินนำ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้มาเหมือนที่ตนลั่นวาจาไว้...

 

จับตาเกมรุก “ระบอบทักษิณ-ปลุกแก้รธน.” จะเบี้ยวปชช.อีก หรือไม่? จับตา "คสช." แก้หมากเกมนี้อย่างไร ?

 

 
ทำให้เดาได้หรือไม่ว่า ในครั้งนี้จะทำเช่นเดิมอีกหรือเปล่า? "เขากำลังจะหลอกประชาชน ชวนให้มาร่วมกันแก้รัฐธรรมนูญ ผ่านกระบวนการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร เพื่อเข้าไปช่วยกันพัฒนาบ้านเมือง และเตรียมการพระราชพิธีสำคัญสูงสุดของคนไทย" อย่าไรก็ดี “นายทักษิณ” เคยคิดหรือไม่ว่า "รัฐธรรมนูญที่ตนเองชักธงรบมีประชาชนลงประชามติรับหรือให้ความเห็นชอบกว่า 16 ล้านเสียง" ฉะนั้นหากย้อนดูกันที่ "การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญไทย 7 สิงหาคมพ.ศ. 2559" ซึ่งผลสรุปในการลงประชามติครั้งนั้น มีผู้เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ 16,820,402 คน หรือ 61.35% และ มีผู้ไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ 10,598,037 คน หรือ 38.65%หากดูตามตัวเลขผู้ที่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้นกว่า 16 ล้านเสียงยิ่งปรากฏชัดว่า ตัวตนที่แท้จริงของ “ทักษิณ” ที่อ้างแต่เรื่องประชาธิปไตย จริงหรือไม่ว่าเขาไม่เคยคิดถึงเรื่องตัวเอง  

 

 

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะยังมีเหตุการณ์   "นิรโทษกรรมสุดซอย"...คำนี้กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองส่งท้ายปี 2556  เพราะร่างพ.ร.บ.นี้ มีเป้าหมายชัดเจนในการนำพา “ทักษิณ” กลับบ้านได้ ?? ขณะเดียวกัน "พ.ร.บ.นิรโทษกรรม" หรือ "พ.ร.บ.ลักหลับ" สุดท้ายพรรคร่วมทักษิณก็ดันทุรังให้ผ่านไปได้ จนถึงขั้น วุฒิสภามีมติเอกฉันท์ 141 เสียง คว่ำร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ส่งคืนสภาผู้แทนราษฎร ก่อน"น.ส.ยิ่งลักษณ์" แถลงให้ถอน ซึ่งสายเกินไปแล้ว

 

จับตาเกมรุก “ระบอบทักษิณ-ปลุกแก้รธน.” จะเบี้ยวปชช.อีก หรือไม่? จับตา "คสช." แก้หมากเกมนี้อย่างไร ?

 

หลายคนยังจำได้ในช่วงเดือนสิงหาคม "นายวรชัย เหมะ" สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และนักเคลื่อนไหวร่วมกับ นปช. เป็นผู้เสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน การนิรโทษกรรมที่เรียกว่า "เหมาเข่ง" หรือ "สุดซอย" ที่เป็นการเซตซีโร่ (Set Zero) นั้น แม้จะทำให้ "นายทักษิณ" เดินทางกลับประเทศไทยได้ แต่ก็ยังมีอานิสงส์ไปถึงผู้สั่งการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อกลางปี 2553 พ้นข้อกล่าวหาไปด้วย และไม่สามารถนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ เพราะทุกอย่างเป็นโมฆะไปหมดแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ นปช. ยอมรับไม่ได้

 

จับตาเกมรุก “ระบอบทักษิณ-ปลุกแก้รธน.” จะเบี้ยวปชช.อีก หรือไม่? จับตา "คสช." แก้หมากเกมนี้อย่างไร ?

 

ประเด็นดังกล่าวเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมาก กระทั่งนำมาซึ่งการชุมนุมต่อต้านการนิรโทษกรรมสุดซอย รวมทั้งการแสดงออกในเชิงต่อต้านรูปแบบต่าง ๆ  ทั้งนี้ ในวันที่ 7 พ.ย. 2556 ที่ผ่านมา รัฐสภา ได้มีการเชิญเจ้าของร่าง พ.ร.บ.ปรองดองและร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทั้ง 6 ฉบับ มาหารือ โดยได้รับแจ้งว่าทุกคนยินยอมถอนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวออกจากระเบียบวาระการประชุมสภาฯ โดยเจ้าของร่าง พ.ร.บ. ทุกฉบับได้ลุกขึ้นเสนอญัตติขอถอนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ทุกฉบับออกจากระเบียบวาระการประชุมสภาฯ โดยที่ประชุมมีมติ 310 ต่อ 1 เสียง ถอนร่างพ.ร.บ.ทั้ง 6 ฉบับ ออกจากวาระการประชุมสภาฯ จากนั้นนายเจริญได้สั่งปิดการประชุม

 

 

ขณะที่ในวันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีขณะนั้น กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจุดมุ่งหมายต้องการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลพวงการรัฐประหารเท่านั้น  ในเมื่อวันนี้ทุกฝ่ายก็ประกาศเจตนารมณ์ชัดเจน สภาผู้แทนราษฎรก็มีมติถอนร่าง พ.ร.บ.ทุกฉบับออกหมดแล้ว  หากย้อนกลับไปดูว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ ผ่านทะลุซอยได้จริง ๆ จะมีผู้ที่เกี่ยวข้องในทางการเมืองรายใดได้รับผลประโยชน์จากกฎหมายฉบับนี้กันบ้าง ทว่า..ในส่วนของ "นายทักษิณ" จะได้รับประโยชน์จากข้อความที่ระบุว่า "ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำความผิดโดยคณะบุคคลหรือองค์กรที่จัดตั้งขึ้นภายหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 รวมทั้งองค์กรหรือหน่วยงานที่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวสืบเนื่องต่อมาที่เกิดขึ้นระหว่าง พ.ศ. 2547 ถึงวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556" 

 

จับตาเกมรุก “ระบอบทักษิณ-ปลุกแก้รธน.” จะเบี้ยวปชช.อีก หรือไม่? จับตา "คสช." แก้หมากเกมนี้อย่างไร ?
 

 

-คดีทุจริตปล่อยกู้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงค์) ให้กับรัฐบาลพม่า วงเงิน 4,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการโทรคมนาคมของพม่า
-คดีทุจริตหวยบนดิน จากการทุจริตโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 และ 3 ตัว (หวยบนดิน) 
-คดีทุจริตออกพระราชกำหนดแปลงค่าภาษีสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิต เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจบริษัทชินคอร์ป 
-คดีทุจริตประมูลซื้อที่ดินรัชดาภิเษก มูลค่า 772 ล้านบาท ที่อัยการสูงสุดยื่นฟ้อง ทักษิณ เนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐมีอำนาจในการกำกับดูแลหน่วยงานของรัฐ แต่กลับไปทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ซึ่งไม่สามารถกระทำได้ 

 


-คดีร่ำรวยผิดปกติ โดยอัยการสูงสุดเห็นว่า ทรัพย์สินของ ทักษิณ ได้มาเนื่องจากการกระทำที่เป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวมขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

 

จับตาเกมรุก “ระบอบทักษิณ-ปลุกแก้รธน.” จะเบี้ยวปชช.อีก หรือไม่? จับตา "คสช." แก้หมากเกมนี้อย่างไร ?

 

ไม่ว่าจะอย่างไร ท้ายที่สุดภาพที่ปรากฏเกิดขึ้น ล้วนแต่เป็นเหตุให้นำมาซึ่งเหตุการณ์ความจราจลและความวุ่นวายในสังคมรวมถึงประเทศชาติ  สำหรับประชาชนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ที่ได้มาร่วมชุมนุม เพราะถูกปลุกระดมว่าเป็นการช่วยเหลือให้"นายทักษิณ กลับประเทศ" ต้องได้รับบาดเจ็บและบางคนก็เสียชีวิต และสุดท้ายการผลักดัน นิรโทษสุดซอย ไม่เกิดผลจนเป็นที่มาของประชาชนออกมาชุมนุมอีกครั้งหนึ่งในนาม"กปปส." ทำให้กองกำลังทหารต้องออกมายึดอำนาจเพื่อหยุดยั้งความรุนแรง รบราฆ่าฟันในหมู่คนไทยด้วยกันเอง นับเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจที่สุด ...

 

จับตาเกมรุก “ระบอบทักษิณ-ปลุกแก้รธน.” จะเบี้ยวปชช.อีก หรือไม่? จับตา "คสช." แก้หมากเกมนี้อย่างไร ?