พรรคก้าวไกล ชงผุดกมธ.ตรวจสอบกรณีขบวนเสด็จฯ  ตามแนวปิยบุตร เคยตั้งธงสงสัย

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุว่าในสัปดาห์หน้า พรรคก้าวไกลเสนอญัตติด่วน ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในข้อบกพร่องการกำหนดเส้นทางเสด็จ แ ละการถวายความปลอดภัยของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2563


ท่ามกลางสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง  ประเด็นหนึ่งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักก็คือการคุกคาม จาบจ้วง สถาบันเบื้องสูง  โดยเฉพาะเหตุกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมบุกประชิดรถพระที่นั่ง  และมีพฤติกรรมในลักษณะเป็นอันตราย กระทั่งนำไปสู่การออกหมายจับ   นายเอกชัย หงส์กังวาน ,  นายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง  และ นายสุรนาถ แป้นประเสริฐ   ในข้อหาประทุษร้ายต่อเสรีภาพของพระราชินี  ตามประมวลอาญา   มาตรา 110 วรรค 2   "ผู้ใดกระทำการประทุษร้ายต่อพระองค์ หรือเสรีภาพของพระราชินีหรือรัชทายาท หรือต่อร่างกายหรือเสรีภาพของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบหกปีถึงยี่สิบปี ผู้ใดพยายามกระทำการเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน"


พร้อมกันนี้  พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.  ได้มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.อคฝ. และพล.ต.ต.ปราศัย จิตสนธิ ผบก.น.1 ⁣⁣ เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ผอ.ศปก.ตร. มอบหมาย  มีผลตั้งแต่ 14 ต.ค. 2563   จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง


ล่าสุด    นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร   ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล   ระบุว่าในสัปดาห์หน้า  พรรคก้าวไกลเสนอญัตติด่วน  ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในข้อบกพร่องการกำหนดเส้นทางเสด็จ แ ละการถวายความปลอดภัยของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เมื่อวันที่ 14  ต.ค. 2563   ทั้งนี้เพื่อทำความจริงในทุกแง่มุมให้ปรากฏ พร้อมหลักฐานอย่างสิ้นข้อสงสัย เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกล่าวหากันไปมา โดยที่ยังไม่มีกระบวนการในการสืบหาข้อเท็จจริง 

 

พรรคก้าวไกล ชงผุดกมธ.ตรวจสอบกรณีขบวนเสด็จฯ  ตามแนวปิยบุตร เคยตั้งธงสงสัย


ทั้งนี้   นายวิโรจน์   กล่าวว่า   การทำให้ข้อเท็จจริงปรากฏ ส่วนตัวเชื่อว่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งทำให้ความขัดเเย้งในประเด็นดังกล่าวลดลง  และเบื้องต้นเชื่อว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาจรับทราบว่ามีความเป็นไปได้ว่าเกิดจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบในการจัดเส้นทางขบวนเสด็จ   การเตรียมเส้นทางเสด็จ และการถวายความปลอดภัย ไม่เช่นนั้นคงไม่มีการสั่งย้ายตำรวจที่เป็นข้าราชการระดับสูง ในระดับพลตำรวจตรีถึง 3 นาย   เรื่องนี้จึงต้องขอวิงวอนให้ฝ่ายรัฐบาลร่วมกันตั้ง กมธ.วิสามัญฯ ชุดนี้ขึ้น เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ และทำความจริงให้ปรากฎ

 

ส่วนการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ  เพื่อเปิดโอกาสให้มีการอภิปรายทั่วไป  โดยไม่มีการลงมติตามมาตรา 165 ของรัฐธรรมนูญ   นายวิโรจน์  กล่าวว่า   พรรคก้าวไกลจะอภิปรายโดยเคารพข้อบังคับอย่างแน่นอน  โดยเฉพาะการกล่าวถึงสถาบันพระมหากษัตริย์  ซึ่งจะกระทำไม่ได้ตามข้อบังคับ   แต่เนื่องจากกรณีนี้ ญัตติที่รัฐบาลเสนอมามีการระบุถึง ข้อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบัน  รวมถึงประเด็นเกี่ยวข้องกับกรณีขบวนเสด็จฯ  ดังนั้นกรอบการอภิปรายที่อยู่ในกรอบญัตติที่รัฐบาลเสนอมา จึงเป็นเรื่องที่สามารถอภิปรายได้ ไม่ขัดกับข้อบังคับแต่อย่างใด

ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2563   นายปิยุบตร  แสงกนกกุล  เลขาธิการคณะก้าวหน้า  ได้เคยออกมาชี้ประเด็นดังกล่าวในลักษณะตั้งข้อสงสัย  สรุปใจความสำคัญได้ว่า 

1.รัฐบาลจงใจเปลี่ยนเส้นทางขบวนเสด็จฯจนอาจเป็นชนวนปราบการชุมนุมหรือไม่  เนื่องจากมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว และใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ ตั้งข้อหาที่มีโทษสูงเป็นความผิดร้ายแรง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 110

"เมื่อมาพิจารณาดูเหตุการณ์ในวันนั้น ไม่มีการข่มขืนใจจนพระราชินีต้องกระทำการหรือไม่อาจกระทำการใดได้ ไม่มีการกักขังหน่วงเหนี่ยวพระราชินีใดๆ ทั้งสิ้น ประชาชนเพียงยืนชุมนุมรอบๆ แล้วชูสามนิ้ว ตะโกนบ้าง แต่ข้อเท็จจริงทั้งหมด ไม่มีข้อเท็จจริงใดๆ เลยที่เป็นการประทุษร้ายต่อเสรีภาพของพระราชินี"


รวมถึงหากลองกลับมาพิจารณาช่วงเวลาของหมายกำหนดการเสด็จพระราชดำเนินของพระราชินี  ซึ่งเปิดเผยในวันที่ 9 ต.ต. 2563 ว่าจะมีการเสด็จพระราชดำเนินในวันที่ 14 ต.ค. แต่หลังจากนั้นจึงมีการเปลี่ยนหมายกำหนดการจากเสด็จจากเวลา 17.00 น. เป็น 16.00 น. ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการกำหนดการชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค. กำหนดกันมาก่อนแล้ว ก่อนที่จะมีหมายกำหนดการเสด็จพระราชดำเนิน จึงต้องให้ความเป็นธรรมว่าผู้ชุมนุม ที่ประกาศแล้วว่าจะมีการชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค. แล้วจึงมีหมายกำหนดการเสด็จตามออกมา 


2. ต้องสืบสวนให้กระจ่างชัดในข้อเท็จจริง ว่าเป็นข้ออ้างใส่ร้ายป้ายสีปลุกปั่นความโกรธให้ประชาชนเหมือนเหตุกรณี 6 ตุลา 2519  หรือไม่   เพราะถ้าหากจะตั้งข้อกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสี   สมควรที่จะต้องสืบสวนข้อเท็จจริงให้ชัดว่าที่ขบวนเสด็จพระราชดำเนิน  เลือกเส้นทางผ่านนางเลิ้งและสะพานชมัยมรุเชษฐ เจ้าหน้าที่ทราบมาก่อนหรือไม่ ทำให้เรื่องนี้กระจ่างชัดแล้วเราก็จะได้ข้อเท็จจริงออกมา 

 

พรรคก้าวไกล ชงผุดกมธ.ตรวจสอบกรณีขบวนเสด็จฯ  ตามแนวปิยบุตร เคยตั้งธงสงสัย

 

"สิ่งที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่งและไม่ควรเกิดขึ้นซ้ำอีก คือผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง 6 ตุลา 19  ต้องการให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลับมาฉายภาค 2 อีกครั้งหรือไม่ สิ่งที่เกิดขึ้น เสมือนว่ามีคนบางกลุ่มต้องการให้เหตุการณ์เกิดขึ้นอีก และต้องการเอาเรื่องขบวนเสด็จพระราชดำเนินมาเป็นชนวน เพื่ออ้างประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่เหมือนการประกาศยึดอำนาจ อ้างดำเนินคดีข้อหารุนแรงกับประชาชน เอามาใช้ปลุกปั่นให้ประชาชนเกิดความโกรธแค้นกันเอง"

 

พรรคก้าวไกล ชงผุดกมธ.ตรวจสอบกรณีขบวนเสด็จฯ  ตามแนวปิยบุตร เคยตั้งธงสงสัย

 

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2563  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน พุทธศักราช 2563 ที่วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลราชกุมาร โดยเสด็จในการนี้ด้วย

 

พรรคก้าวไกล ชงผุดกมธ.ตรวจสอบกรณีขบวนเสด็จฯ  ตามแนวปิยบุตร เคยตั้งธงสงสัย

 

ประเด็นสำคัญคือ  นายนันท์สกร นพรัตน์วิมล  อาสาเฉพาะกิจ  สายการแพทย์  ได้โพสต์วิดีโอคลิป  พร้อมทั้งเล่าลำดับเหตุการณ์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวความว่า "#14 ตุลา ผมเสียใจที่ไม่ได้ใส่เสื้อเหลือง #บันทึกความจริงเหตุการณ์สะพานชมัยมรุเชฐ 

 

"14 ตุลาคม 2563 ที่กลุ่มผู้ชุมนุมบิดเบือนว่า ในขณะที่พวกตนเองกำลังชุมนุมอยู่  แล้วขบวนเสด็จพยายามขับฝ่ากลุ่มผู้ชุมชุมนั้นไม่เป็นความจริง ชมคลิปหลักฐานที่ผมได้ถ่ายไว้ ก่อนเกิดเหตุ ความจริงจะปรากฏ #จากเหตุการณ์  กลุ่มผู้ชุมนุมประชาชนปลดแอก ชูสามนิ้ว ด่าทอ เข้าขัดขวางขบวนเสด็จของสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ ที่สะพานชมัยมรุเชฐ 


"ผมอยู่ในเหตุการณ์โดยตลอด ซึ่งทำให้ผมเสียใจมากที่สุด คิดถึงทีไรน้ำตาไหลทุกที ด้วยความคับแค้นอัดแน่นในใจ แม้กระทั่งการเขียนบันทึกนี้ผมต้องใช้เวลานานมาก พิมพ์ไปน้ำตาไหล ต้องหยุดพิมพ์ พิมพ์หยุดๆ กว่าจะเสร็จ ตรวจทานเพื่อความถูกต้อง รวมเวลาเกือบ 4 ชั่วโมง "

 

"....ผมได้ยินกลุ่มผู้ชุมนุม ตะโกนขึ้นมาว่า  "ขบวนเสด็จ ขบวนเสด็จ อย่าให้ผ่านไปได้ อย่าให้ผ่านไปได้" ผมจำไม่ได้ว่าเป็นขบวนเสด็จของพระบรมราชินี และพระองค์ทีปังกร หรือไม่ สิ้นเสียงตะโกน กลุ่มผู้ชุมนุมก็วิ่งกรูจากทุกสารทิศเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ด้านหน้า และขนาบซ้ายขวารถพระที่นั่ง ทั้งสองฝั่งถนน ที่ขับมาอย่างช้าๆ เพื่อขัดขวางขบวนเสด็จ พร้อมกับชูสามนิ้ว ด่าทอ ขบวนเสด็จ ด้วยคำที่หยาบคาย 

 

และยังด่าถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 บางส่วนใช้กำลังเข้าผลักดันตำรวจทางด้านหน้า เพื่อไม่ให้ขบวนเสด็จเดินหน้าต่อไป ผมเห็นกลุ่มคนไทยรักในหลวงเกือบ 20 คน ประสานมือกับตำรวจสร้างกำแพงกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมที่พยายามจะฝ่าเข้า ไปให้ถึงรถพระที่นั่ง"

 

พรรคก้าวไกล ชงผุดกมธ.ตรวจสอบกรณีขบวนเสด็จฯ  ตามแนวปิยบุตร เคยตั้งธงสงสัย

 

( คลิกอ่านข่าวประกอบ :  เปิดความจริงม็อบคุกคามรถพระที่นั่ง จิตอาสาแพทย์ เห็นเหตุการณ์ ถ่ายคลิปเล่าหมด เอ่ยคับแค้นใจน้ำตาไหล )

 

พรรคก้าวไกล ชงผุดกมธ.ตรวจสอบกรณีขบวนเสด็จฯ  ตามแนวปิยบุตร เคยตั้งธงสงสัย

Hot Sale ลาซาด้า ยกขบวนสินค้า ลดกระหน่ำทุกรายการ สูงสุด 90%