"ไพศาล"ลั่น ทักษินทำหน้าพสกนิกรในการพิทักษ์สถาบัน ชัดเจนกว่าพวก คำก็จงรักภักดี สองคำก็จงรักภักดี

"ไพศาล พืชมงคล" เผย วันนี้ท่านทักษินทำหน้าพสกนิกรในการพิทักษ์สถาบันอย่างชัดเจน

นาย "ไพศาล พืชมงคล" อดีตที่ปรึกษาพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุ 

ด่วนมาก

วันนี้ท่านทักษินทำหน้าพสกนิกรในการพิทักษ์สถาบันอย่างชัดเจน!!!

"ไพศาล"ลั่น ทักษินทำหน้าพสกนิกรในการพิทักษ์สถาบัน ชัดเจนกว่าพวก คำก็จงรักภักดี สองคำก็จงรักภักดี

ไพศาล ทักษิณ

ดีกว่าบางพวก ที่คำก็จงรักภักดี สองคำก็จงรักภักดี

แต่ปล่อยให้สถาบันถูกย่ำยีโดยไม่เคยปกป้องและไม่เคยปริปากพูดถึงเลยแม้แต่ครั้งเดียว***

วันนี้ต้องขอต้อนรับท่านทักษิณ มาร่วมกันพิทักษ์ปกป้องพระบรมเดชานุภาพ ทำให้การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขมีความมั่นคงสถาพรในพระราชอาณาจักรนี้สืบไป***

การใช้คำว่า"เจ้านาย" ในครั้งนี้ ผมเชื่อว่า ได้สะท้อนถึงความลึกซึ้งในใจ และคงทราบแน่ชัดแล้วว่าใครทำให้เกิดความผิดใจกันในยุคนั้น! ซึ่งจะมีผลต่อสถานการณ์ในบ้านเมืองนับแต่นี้ไปด้วย!!!!

ไพศาล ทักษิณ

โดยก่อนหน้านี้ นายทักษิณ ชินวัตร ได้ออกมาโพสต์ข้อความดังนี้ 

2-3 วันนี้ได้ฟังดราม่าเกี่ยวกับเรื่องมาตรา 112 จากทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในการที่จะแก้ไขหรือยกเลิก ผมขอแสดงความคิดเห็นในฐานะที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรีมา และผ่านการปรึกษาในเรื่องมาตรา 112 มาหลายครั้ง

ผมขอเล่าเป็นประสบการณ์ มาตรา112 มีมานานตั้งแต่สมัยจอมพลสฤษฎ์ น่าจะประมาณปี 2500 ตัวกฎหมายเองไม่เคยเป็นปัญหา แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ มันเกิดจากการปฎิบัติที่ไม่ถูกต้อง เพราะว่าบุคคลในกระบวนการยุติธรรมอาจจะเกิดจากความกลัวหรืออาจจะเกิดจากความอยากแสดงความจงรักภักดีโดยไม่ยึดหลักนิติธรรม แล้วเกิดการใช้อำนาจในทางที่ผิดหรือ Abuse of Power เพื่อหวังผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางรัฐบาล เพื่อหวังผลทางการเมือง เลยทำให้เกิดความไม่พอใจ และยิ่งใช้มากก็ยิ่งเกิดความไม่พอใจมาก ซึ่งในสมัยก่อนสนง.ตำรวจแห่งชาติ จะมีคณะกรรมการพิจารณาเรื่องที่ร้องเรียนขึ้นมาว่าเป็นเรื่องของการจงใจที่จะละเมิดมาตรา112 จริงหรือเปล่า และจำนวนคดีก็มีน้อย และทุกอย่างก็เป็นไปตามกระบวนการพิจารณาทางอาญา (Due Process of Law) 

ฉะนั้นปัญหาก็น้อย แต่ช่วงนี้ปัญหาเยอะมาก ยิ่งใช้อีกฝ่ายหนึ่งก็มีความโกรธเคืองแล้วก็ไปโทษกันต่างๆ นาๆ ซึ่งผมเคยบอกแล้วว่า รัฐบาลน่าจะจับเข่าคุยกับกลุ่มเยาวชนที่เห็นต่างในทุกวันนี้ เราก็จะได้แนวทางที่อยู่ร่วมกันระหว่างคนในวัยที่ต่างกัน ถ้าจะเริ่มติดกระดุมใหม่ที่ติดผิดเม็ด ก็โดยการที่ปรับกระบวนการในการดำเนินคดีของ 112 เสียใหม่ ให้เหมือนในอดีตที่ทำอย่างเป็นระบบระเบียบ ไม่กลั่นแกล้ง ไม่หาเรื่อง แล้วก็ปล่อยผู้ถูกกล่าวหาให้ได้รับการประกันและใช้กระบวนการยุติธรรมทางอาญาและดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญาไป และพูดคุยกับเด็กๆ จะได้เข้าใจตรงกัน เราจะอยู่ร่วมกันต้องมีกติกา กติกาอะไรที่มันยอมรับกันได้ทุกฝ่ายเป็นเรื่องสำคัญ 

เพราะฉะนั้นก่อนที่จะบอกว่ายกเลิกมาตรา112 เพราะอารมณ์โกรธ จากอารมณ์โกรธ หรือบางคนก็ต้องการจะยกเลิกโดยไม่มีเหตุผล หรือไม่ยกเลิกมาตรา112 ไม่เอาเด็ดขาด ซึ่งแน่นอนมันมี Yes and No แต่ขณะเดียวกันนั้น การพูดคุยกันน่าจะดีกว่า และการจัดระเบียบให้เป็นระเบียบเสียจะดีกว่า วันนี้บ้านเมืองเหมือนกับอยู่ในภาวะที่ไม่มีการจัดการ ไม่มีการบริหาร บ้านเมืองเปรียบเสมือนอยู่ในภาวะไม่มีการบริหารการจัดการ คงเลือกใช้แต่ Law and Order ซึ่งมันเป็นการขัดหลักที่จะให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างสามัคคีไม่แตกแยก

ดังนั้นสรุป ผมขอแนะนำว่าก่อนจะมาบอกว่าจะแก้มาตรา 112 หรือไม่ ขอให้ไปเริ่มย้อนคิดว่า เมื่อตัวกฎหมายไม่เคยมีปัญหา แต่คนที่เป็นปัญหาคือคนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมและคนที่นำประเด็นนี้มาสร้างความแตกแยกในสังคมต่างหาก ถ้ามีการจัดระเบียบให้ถูกต้องและมีการพูดคุยกับผู้เห็นต่างบ้าง ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นทีดี และนำไปสู่การรักษากฎหมายที่เป็นธรรม และก็จะไม่มีใครเดือดร้อน แต่วันนี้ ขอย้ำอีกครั้งว่าประเทศขาดการบริหารการจัดการ เลือกที่จะใช้ Law and order เท่านั้น ขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดดราม่า หายใจยาวๆ มาเริ่มต้นใหม่ตามที่ผมแนะนำเบื้องต้น เพื่อความรัก เพื่อการถวายความจงรักภักดีที่ถูกต้อง ถูกทาง ไม่ให้เจ้านายต้องถูกครหาโดยที่ไม่รู้

"ไพศาล"ลั่น ทักษินทำหน้าพสกนิกรในการพิทักษ์สถาบัน ชัดเจนกว่าพวก คำก็จงรักภักดี สองคำก็จงรักภักดี