เปิดคำวินิจฉัย"ตุลาการศาลรธน."เสียงข้างน้อย ให้"พล.อ.ประยุทธ์ "พ้นนายกฯ

หลุดคำวินิจฉัย เอกสารความเห็น"นายนภดล เทพพิทักษ์" ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เสียงข้างน้อย ให้ "ลุงตู่"สิ้นสภาพนายกฯ 24 ส.ค. 65

  วันที่ 4ต.ค.65 หลุดเอกสารความเห็นปมนายกฯ8ปี ของ "นายนภดล เทพพิทักษ์" ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เสียงข้างน้อย ซึ่งมีความยาว 7 หน้า ถูกเผยแพร่ บนโลกโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565 
 


   สำหรับ มติ 6 ต่อ 3 ของ ศาลรัฐธรรมนูญ ให้นายกรัฐมนตรีมีวาระดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ทำให้ "พล.อ.ประยุทธ์" ได้ไปต่อ โดย ตุลาการเสียงข้างมาก ได้แก่ 1.นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ 2.นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม 3.นายบรรจงศักดิ์  วงศ์ปราชญ์  4.นายปัญญา  อุดชาชน 5. นายจิรนิติ หะวานนท์  6. นายวิรุฬห์ แสงเทียน 

เปิดคำวินิจฉัย"ตุลาการศาลรธน."เสียงข้างน้อย ให้"พล.อ.ประยุทธ์ "พ้นนายกฯ

 ด้านตุลาการเสียงข้างน้อย 3 เสียง ประกอบไปด้วย   1.นายนครินทร์​ เมฆไตรรัตน์ 2.นายทวีเกียรติ​ มีนะกนิษฐ์ เเละ3.นาย​นภดล เทพพิทักษ์  โดยล่าสุดมีการเปิดคำวินิจฉัยส่วนตนของ​"นภดล เทพพิทักษ์"ตุลาการศาลรธน.เสียงข้างน้อยท่านนี้ กล่าวไว้อย่างน่าสนใจ  กรณีที่รธน.ปี 2557 (ฉบับชั่วคราว) ไม่มีการระบุวาระดำรงตำแหน่งไว้อย่างชัดเจนในรัฐธรรมนูญ แต่ได้พิจารณาตามประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  ซึ่งปรากฎ อยู่ใน มาตรา 5 ของรธน.ฉบับชั่วคราวไว้เช่นกัน  


   โดยมีการระบุไว้ดังนี้ " ทั้งนี้การนำหลักการจำกัดระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาใช้กับระบอบการปกครองประเทศนับแต่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 มาตรา 171 วรรคสี่ และตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 171 วรรคสี่  แม้ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 จะไม่มีบทบัญญัตว่าด้วยการจำกัดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไว้อย่างชัดเจนก็ตามแต่เพราะหลักการของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวจะมีเนื้อหาสั้นกะทัดรัด บทบัญญัติและข้อห้ามต่างๆจึงไม่มีการลงรายละเอียดที่ชัดเจน แต่ก็ปรากฏอยู่ในมาตรา 5 วรรคหนึ่งที่บัญญัติ  "เมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้กระทำการนั้นหรือวินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยทรงเป็นประมุข แต่ประเพณีการปกครองดังกล่าวต้องไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญนี้"

 

จึงถือว่าหลักการจำกัดระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกินกว่า 8 ปีมิได้ จึงยังคงดำรงอยู่จนถึงปัจจุบันรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 158 วรรคสี่  จึงถือเอาระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายรัฐมนตรีตามความเป็นจริง 

 

ดังนั้น แม้บุคคลใดจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่มิได้มีที่มาตามวิธีการของรัฐธรรมนูญนี้แต่หากโดยความเป็นจริงแล้ว บุคคลนั้นดำรงตำแหน่งภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรี เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการใช้อำนาจทางการเมืองในฐานะของฝ่ายบริหารตามรัฐธรรมนูญแล้วไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีที่มาตามรัฐธรรมนูญฉบับใดก็ตามระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของบุคคลนั้นในทุกช่วงเวลาที่ผ่านมาจึงต้องนับรวมเป็นระยะเวลาการดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 วรรคสี่   การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557  จึงอยู่ในบังคับของรัฐธรรมนูญมาตรา 158 วรรคสี่

 

นอกจากนี้ ในความเห็นของ ตุลาการศาลรธน.เสียงข้างน้อยท่านนี้ ยังได้ตีตกคำชี้แจงของ"นายมีชัย ฤชุพันธุ์" อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ที่เคยอ้างว่า บันทึกรายงานการประชุมกรธ.ครั้งที่ 500 / 2561  ไม่มีการรับรองรายงานการประชุม เป็นการบันทึกคลาดเคลื่อนไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งตุลาการศาลรธน.เสียงข้างน้อย ระบุในความเห็นส่วนตนว่า  "ไม่อาจรับฟังได้" เนื่องจาก ข้อเท็จจริงมีการรับรองรายงานการประชุมกรธ.ที่ 501 / 2561 แล้ว 

เปิดคำวินิจฉัย"ตุลาการศาลรธน."เสียงข้างน้อย ให้"พล.อ.ประยุทธ์ "พ้นนายกฯ

"ระยะเวลาในการดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีของบุคคลนั้นในทุกช่วงเวลาที่ผ่านมาจึงต้องนับรวมเป็นระยะเวลาการดำ รงตำแหน่ง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 วรรคสี่ การดำรงตำ แหน่งนายกรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องตามรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 จึงอยู่ในบังคับของรัฐธรรมนูญมาตรา 158 วรรคสี่ สอดคล้องกับบันทึกการประชุมของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญครั้งที่500 วันศุกร์ที่ 7 กันยายน 2561 ซึ่งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้มีมติรับรองบันทึกการประชุมดังกล่าวในคราว ประชุมครั้งที่ 501 วันอังคารที่ 11 กันยายน 2561 แต่ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้ชี้แจงว่า คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญยังมิได้ตรวจรับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 500 ดังกล่าวซึ่งไม่สอดคล้อง กับข้อเท็จจริงจึงมีน้ำหนักน้อยไม่อาจรับฟังได้"

 

 

  กล่าวโดยสรุป ผู้ถูกร้อง "พล.อ.ประยุทธ์" ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) ปี 2557 มาตรา 19 ซึ่งประกาศ ณ วันที่ 24 ส.ค. 2557 ต่อมา ได้ดำรงตำแหน่งนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 264 ของบทเฉพาะกาล มิให้ฝ่ายบริหารขาดตอน นับแต่วันที่ 6 เม.ย. 2560 ซึ่งเป็นวันที่รัฐธรมนูญประกาศใช้

 

เห็นว่า การกำหนดระยะเวลา 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 วรรคสี่ เริ่มนับตั้งแต่วันแรกที่ดำรงตำแหน่ง คือ วันที่ 24 ส.ค. 2557 และครบกำหนด ในวันที่ 23 ส.ค. 2565 ดังนั้น ความเป็นรัฐมนตรีของนายกฯ ในฐานผู้ถูกร้องจึงสิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 2565

 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่  THAINEWS