อุ๊งอิ๊ง ชินวัตร เปิด 10 นโยบายพลิกฟื้นประเทศไทย ดันค่าแรงขั้นต่ำวันละ 600

อุ๊งอิ๊ง ชินวัตร เปิด 10 นโยบายพลิกฟื้นประเทศไทย ดันค่าแรงขั้นต่ำวันละ 600 เข้มข้นอย่างหนักหน่วงสำหรับการ เปิดแคมเปญเลือกตั้งของ อุ๊งอิ๊ง ชินวัตร บุตรสาวคนสุดท้องของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่ง อุ๊งอิ๊ง ได้ เปิด 10 นโยบายพลิกฟื้นประเทศ ปี 2570 ในงานประชุมใหญ่วิสามัญ ภายใต้แนวคิด คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน Think Big, Act Smart, For All Thais เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคแทนตำแหน่งที่ว่าง และกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. 

 

โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยได้แสดงวิสัยทัศน์ อนาคตประเทศไทยอีก 4 ปีข้างหน้า หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ว่าที่ผ่านมาประเทศไทยถอยหลังและยังไม่มีที่ยืนในเวทีโลก วันนี้จึงมีการเปลี่ยนแคมเปญจากพรุ่งนี้เพื่อไทย เป็นคิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน พร้อมเปิด 10 นโยบาย สำหรับการเลือกตั้ง

 

อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ยกตัวอย่างอีกด้วยว่า เช่น ด้านเศรษฐกิจ จะใช้หนึ่งครอบครัวหนึ่ง Soft power เป็นการดึงศักยภาพ เปิดศูนย์บ่มเพาะศักยภาพทั่วประเทศ 800 แห่งตั้งแต่ระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ สายงาน 20 ล้านตำแหน่ง มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาทต่อปี ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน ปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน ที่สำคัญคือจะต้องล้างหนี้ประชาชนให้หมดไป บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกโรคทั่วประเทศ ไม่เสียค่าใช้จ่าย

ส่วนยาเสพติดต้องหมดไป จะต้องปราบปรามยาเสพติดอย่างเต็มรูปแบบ ควบคู่กับการบำบัดผู้เสพผู้ป่วย อีกทั้งสร้างระบบจัดการน้ำท่วมประเทศป้องกันน้ำท่วมผมทะเลสร้างแผ่นดินใหม่ทำเขตเศรษฐกิจพิเศษ สร้างรถไฟความเร็วสูงจีน-ไทย-สิงคโปร์ และรถไฟฟ้ากรุงเทพและปริมณฑล ตั๋วร่วม 20 บาท ตลอดสายภายในปี 2570 ในปี 2570 กติกา รัฐธรรมนูญ จะเป็น กติกา แบบเต็มใบ นายกรัฐมนตรี จะต้องถูกเลือก โดยสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากประชาชน 

 

ทั้งนี้ อุ๊งอิ๊ง ชินวัตร กล่าวทิ้งท้ายว่าเราไม่ต้องย้ายประเทศแค่มาร่วมมือกันและเปลี่ยนผู้นำง่ายกว่า จากนี้จะเป็นช่วงเวลาที่พลิกฟื้นประเทศให้กลับมามีเกียรติและศักดิ์ศรี การคิดใหญ่ทำเป็นจะทำให้ประเทศและคนไทยมีชีวิตที่พลิกฟื้นกลับมาได้ราวปาฏิหาริย์ การมีการเมืองที่มีเสถียรภาพจะทำให้ทวงคืนหนึ่งทศวรรษที่เสียไปให้กลับคืนมา ขอประชาชนมาร่วมกันคิดใหญ่ โดยการเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคเพื่อกำหนดอนาคตของเราในวันเลือกตั้งที่จะถึงนี้

ขณะเดียวกัน นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยประกาศปักธงลงทุกพื้นที่เพื่อเเลนส์สไลด์ทั้งแผ่นดิน ชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลายให้ได้ 250 คนขึ้นไป และต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เพราะหากทำไม่ได้ประชาชนจะเหมือนตายทั้งเป็นเช่น 8 ปีที่ผ่านมา 

 

"การประกาศแลนด์สไลด์ไม่ใช่ฝัน แต่เป็นการแสวงหาจุดร่วมกับประชาชนเพื่อเดินทางสู่เป้าหมาย การเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทยจนถึงเพื่อไทยชนะทุกครั้ง แต่ครั้งล่าสุดจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ทำให้ประชาชนแพ้ไปด้วย ดังนั้นครั้งนี้จึงจำเป็นจะต้องชนะแบบถล่มทลายเพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้ได้"

 

พรรคปรับปรุงและพัฒนาตัวเองเพื่อให้เกิดความพร้อมการเลือกตั้งและตอบโจทย์พี่น้องประชาชน การชนะแบบแลนสไลด์ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้เพื่อไทยจะมีกระแส มีความนิยม แต่เขามีกระสุน มีอำนาจรัฐ พรรคเพื่อไทยไม่หวั่นไหว เพราะชัยชนะและอำนาจที่แท้จริงอยู่ที่ประชาชน ที่จะเอาชนะกระสุนและอำนาจรัฐ อำนาจเงิน วันนี้เราจึงมาประกาศปักธงทุกพื้นที่ เรามีเวลาอยู่ไม่มาก ฉะนั้น เราต้องทำงานอย่างเข้มแข็งและอดทน 

 

พรรคเพื่อไทยพร้อมจับมือกับประชาชนเพื่อไปสู่เป้าหมายให้ได้ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการรบ ครั้งนี้เราจะแพ้ไม่ได้ ถ้าเแพ้ประชาชนจะตกอยู่ในอำนาจรัฐและอำนาจเงินอย่างโงหัวไม่ขึ้น ต้องร่วมมือกัน ก้าวไปด้วยกัน การรบครั้งนี้ต้องชนะเพื่อนำพาโอกาสและความหวังมาสู่พี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทยนอกจากจะเป็นความหวังและโอกาสของประชาชนแล้ว 

ว่าที่นายกรัฐมนตรีของพรรคยังเป็นคนรักประชาธิปไตย เข้าใจประชาชน เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน พรรคเพื่อไทยแพ้ไม่ได้ เราเคยคิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อไทยทุกคน ครั้งนี้เราจะคิดใหญ่ ทำเป็น ทำให้เห็น เพื่อไทยทุกคน

อย่างไรก็ตามยังมีแกนนำพรรคมาร่วมงานอย่างคับคั่ง รวมถึงครอบครัวของ น.ส.แพทองธาร มาให้กำลังใจในการแสดงวิสัยทัศน์ครั้งนี้ด้วย ทั้ง นายพานทองแท้ ชินวัตร ซึ่งเป็นที่ปรึกษา ศูนย์ปฎิบัติการเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย รวมถึง เอม น.ส.พินทองทา ชินวัตร และ นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีก็มาให้กำลังใจด้วย

ภาพจาก พรรคเพื่อไทย
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline