เปิดประวัติ "สำเร็จลุน" บรมครูผู้วิเศษ แห่งนครจำปาศักดิ์ อายุยืนยาวคอยโปรดผู้มีศรัทธา เช่นเดียวกับ "หลวงปู่เทพโลกอุดร"

สำเร็จลุนตำนานผู้วิเศษเหนือโลกแห่งประเทศลาว                                        

                หนึ่งในพระอภิญญาที่มีความเข้าใจกันว่าท่านคือหลวงปู่เทพโลกอุดร ก็คือ “สำเร็จลุนแห่งนครจำปาศักดิ์” สำเร็จลุนนั้นเป็นพระที่ทรงอภิญญา มีปฏิปทาทางพระโพธิสัตว์ หวังพุทธภูมิเป็นเบื้องหน้าคือ ท่านไม่ได้หวังเอานิพพานในปัจจุบันชาติ แต่ท่านหวังจะสำเร็จเป็นพระสัพพัญญูสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในภายภาคหน้า ประวัติความเป็นมาของท่านลี้ลับยิ่งนัก บางคนเชื่อว่าท่านมีอายุยืนยาวมานานนับพันปี การตายของท่านนับเป็นการตายหลอกๆ เท่านั้น มีความเชื่อกันว่าท่านมีตัวยาอายุวัฒนะ ที่ทานเข้าไปแล้วจะมีอายุขัยยาวนาน ได้ถึง ๓ พันปี บางท่านกล่าวว่าสำเร็จลุนท่านใช้อำนาจทางอภิญญาสมาบัติเดินไต่ไปบนผิวน้ำ ข้ามแก่งลี่หลี่ผีสีทันดร จนถึงต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกว่า “ต้นไทรมณีโครธ” เป็นไม้ใหญ่อายุนับพันปี อยู่กลางแก่งหลี่ผี มีกิ่งใหญ่สามกิ่ง กิ่งหนึ่งชี้มาทางไทย กิ่งซ้ายชี้ไปทางลาว กิ่งขวาชี้ไปทางเขมร เนื้อไม้มีสามสี คือสีเหลือง ชมพูและม่วง เมื่อผู้มีบุญมาเกิดจะเกิดผลขึ้นสามผลจากกิ่งทั้ง ๓ ผลจากกิ่งด้านซ้ายทานเข้าไปแล้วกลายเป็นลิง ผลจากกิ่งด้านขวาทานเข้าไปแล้วกลายเป็นนกกระยาง ผลจากกิ่งกลางทานเข้าไปแล้วจะกลายร่างเป็นเทพบุตร

           ตามตำนานพื้นบ้านเล่าว่าเมื่อถึงคราวพระโพธิสัตว์ลงมาบำเพ็ญบารมีใน เมืองมนุษยมีเหตุกรรมบันดาลพลัดบ้านพลัดถิ่นไปพบพระฤๅษี ชี้ทางไปยังหลี่ผีสีทันดร ครั้นแล้วด้วยอำนาจกรรมนำพาไปจนถึงกลางเกาะแก่งหลี่ผีได้พบ “ผลหมากไม้มณีโคตร” ตามที่ฤๅษีบอกชี้แนะทุกประการ พระโพธิสัตว์จึงกินผลแรกกลายร่างเป็นลิงเที่ยวเลาะไปตามป่าจนสุดที่ทะเลกว้างจึงทานผลที่สองกลายร่างเป็นนกกระยางบินไปจนสุดขอบฟ้า ได้พบพานมหาปราสาทมีเจ้าหญิงคู่บุญบารมีอยู่บนยอด เมื่อไปเกาะหน้าต่างแล้วจึงทานผลที่สามกลายร่างเป็นเทพบุตรรูปงาม ได้พบรักและครองคู่กันกับเจ้าหญิงนั่นแล นี่คือเรื่องเกี่ยวกับพระโพธิสัตว์ที่จะได้พบกับหมากไม้มณีโคตร ส่วนที่เชื่อกันมากคือผู้มีบุญจึงได้กินผลหมากไม้มณีโคตรจากลำกลางต้น ได้กินผลนี้แล้วย่อมมีอายุยาวนานได้พันปี และเป็นที่เชื่อกันเหลือเกินว่า “สำเร็จลุน” ท่านนั้นเป็นผู้มีบุญญาวาสนาได้ทานหมากไม้มณีโคตรจากผลกลางลำนั้นเอง

                เรื่องราวของสำเร็จลุนนั้นถูกเล่าขานกันอย่างยิ่ง ถึงปาฏิหาริย์ความลี้ลับ มหัศจรรย์ เช่นว่าท่านจะมากราบพระธาตุพนมทุกปี เวลามานั้นบ้างทีก็เดินมาบนผิวน้ำ บางทีก็ล่องหนหายตัวมา และจะเนรมิตบิดเบือนกายแสดงเป็นเณรมากที่สุด “หลวงปู่ทองทิพย์” พระโพธิสัตว์แห่งวัดสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตรเล่าว่า “ท่านมักแปลงมาเป็นเณร ต้องสังเกตที่หูจะยานมากเหมือนคนมีบุญและที่มือและเท้ามักใหญ่ คล้ายคนโบราณ”

                เนื่องจากสำเร็จลุนเนรมิตรบิดเบือนกายได้หลากหลายและมีอิทธิฤทธิ์ยากแท้หยั่งถึง ในทุกวันนี้หลายๆ คนยังเชื่อว่าท่านยังไม่ตาย และจะอยู่โปรดบรรดาผู้ศรัทธาอยู่เสมอ เช่นเดียวกันกับ “หลวงปู่โลกอุดร”

 สำเร็จลุนแห่งนครจำปาศักดิ์ยังได้ทิ้งมรดกด้านตำรายาอันวิเศษ เป็นตำรายาพิสดารไว้ให้ผู้มีบุญดังนี้

            “ยาวิเศษอันประเสริฐ” ให้เอาไฟเดือน ๕ ๑ ตำลึง สลัดไดทั้ง ๕ ๑ ตำลึง ขิงแห้ง ๑ ตำลึง ผักหนอก(ใบบัวบก) ๑ ตำลึง ใบเขือบ้า (ใบต้นลำโพง) ๑ ตำลึง กาสลัก ๑ ตำลึง มาตำเป็นผงผสมกัน เอาน้ำอ้อยแดงมาละลาย ปั้นเป็นลูกกลอนเท่าเมล็ดฝ้าย ไว้กินวันละ ๓ หน คือ เช้าก่อนอาหาร ๑ เที่ยง ๑  บ่ายเย็น ๑  โรคในกายทุกจำพวกหายสิ้นไปหมด  ถ้ากินถึง ๓ เดือน อยู่อาวุธ  ถึง ๗ เดือน มีผิวพรรณเหมือนพระจันทร์เพ็ญเต็มดวง ถึง ๘ เดือน เดินน้ำได้  ถึง ๑๑ เดือน ปัญญามโหสถ  ถ้าถึง  ๑ ปี เดินไปถึงเขาพระสุเมรุก็ได้ ตำรานี้ได้มาจากสำเร็จลุนท่านมีอายุ ๓ พันปี ถึงแม้จะแก่แล้วก็หนุ่มคืน ยานี้เป็นยาแรง ถ้ามีความสามารถแล้ว จึงทดลองดูเถิด จึงจะรู้ได้ดีแล

ตำรายานี้เป็นของโบราณ พระผู้คัดลอกไว้คือ “พระเดชพระคุณหลวงปู่ลี กุสลธโร” อริยเจ้าแห่งวัดป่าภูผาแดง จ.อุดรธานี พระผู้องค์หลวงตามหาบัวยกย่องว่าท่านเป็น “เศรษฐีธรรม” คำนี้ก็หมายตรงๆ ว่าเป็นพระอรหันต์ท่านหนึ่งที่สำเร็จสูงสุดในบวรพระพุทธศาสนานั่นเอง