"บิ๊กท็อป วราวุธ"สวนกลับ พวกหาว่าไม่ทำงาน เหตุเพลิงไหม้"หมิงตี้เคมีคอล"ทำไมไม่โผล่หน้าไป

   บิ๊กท็อป นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เคลื่อนไหวด้วยการโพสต์ผ่านเพจ  TOP Varawut - ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา ชี้เเจงเกี่ยวกับเหตุเพลิงไหม้โรงงานกิ่งเเก้ว  บริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ที่ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ย้ำสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงระดับนี้ หน้างานมีภาระล้นมือมากแล้ว ไม่ควรต้องแบ่งกำลังมาคอยต้อนรับนักการเมืองอีก  ไม่โผล่หน้าไป ไม่ใช่ไม่ทำงาน 

"ไม่โผล่หน้าไป ไม่ใช่ไม่ทำงาน" แต่สถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงระดับนี้ หน้างานมีภาระล้นมือมากแล้ว ไม่ควรต้องแบ่งกำลังมาคอยต้อนรับนักการเมืองอีก  จึงขอแจ้งให้พี่น้องทุกท่านทราบว่า ผมได้มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษ นำรถตรวจวัดคุณภาพอากาศในบรรยากาศแบบเคลื่อนที่ (Mobile Unit) ไปติดตั้งบริเวณเขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  เพื่อติดตามเฝ้าระวังผลกระทบจากไฟไหม้โรงงาน หมิงตี้ เคมีคอล ตั้งแต่ทันทีที่เกิดเหตุ 

หลายท่านจึงอาจไม่เห็นรถของหน่วยงานเราในที่เกิดเหตุ เพราะการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ไม่มีความจำเป็นต้องไปแย่งพื้นที่สื่อมวลชน - พื้นที่จอดรถ ที่ควรจะเก็บไว้ให้คนที่ปฏิบัติงานหน้างานครับ  

สำหรับ สถานการณ์คุณภาพอากาศจังหวัดสมุทรปราการ หลังเหตุไฟไหม้ โรงงานหมิงตี้ เคมิคอล จำกัด โดย สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบอัตโนมัติของกรมควบคุมมลพิษ 5 สถานี ได้แก่ 
1) ต.ทรงคะนอง อ.พระประแดง 
2) ต.บางโปรง อ.เมือง 
3) ต.ตลาด อ.พระประแดง  
4) ต.ปากน้ำ อ.เมือง 
5) ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง 

พบอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน โดยสรุปได้ดังนี้ 

PM2.5 เฉลี่ย 24 ชม. ตรวจวัดได้อยู่ในช่วง 5 – 22 มคก./ลบ.ม. 
PM10 เฉลี่ย 24 ชม. ตรวจวัดได้ในช่วง 11 – 36 มคก./ลบ.ม. 
O3 เฉลี่ย 8 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ในช่วง 30-46 ppb 
CO เฉลี่ย 8 ชม. ตรวจวัดได้ในช่วง 0-0.52 ppm 
NO2 เฉลี่ย 1 ชม. ตรวจวัดได้ในช่วง 5-10 ppb 
SO2 เฉลี่ย 1 ชม. ตรวจวัดได้ในช่วง 0-7 ppb 

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และแอปพลิเคชัน Air4Thai หากมีความคืบหน้าที่สำคัญ ผมจะคอยรายงานเป็นระยะครับ 

รายงานความคืบหน้า ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ วันที่ 6 ก.ค.2564 เวลา 8.00 - 12.00 น ผลการตรวจวัดไอระเหยสารเคมี เหตุโรงงานระเบิด ดังนี้ครับ 
1) บริเวณจุดเกิดเหตุโรงงานฯ ตรวจพบสารสไตรีน อยู่ในเกณฑ์ปกติ มีค่าอยู่ในช่วง 1-8.4 ppm (ค่ามาตรฐาน 20  ppm) และฟอร์มาลดีไฮด์ มีค่าอยู่ในช่วง 1- 2.19 ppm (ค่ามาตรฐาน 0.9 ppm) ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในบริเวณจุดเกิดเหตุ ต้องสวมใส่หน้ากากประเภทป้องกันไอสารอินทรีย์ในขณะปฏิบัติงาน 
2) บริเวณชุมชนใกล้เคียงโรงงานรัศมี 1-2 กิโลเมตร ตรวจพบสารสไตรีน อยู่ในเกณฑ์ปกติ มีค่าอยู่ในช่วง 0-0.8 ppm (ค่ามาตรฐาน 20 ppm) และฟอร์มัลดีไฮด์ อยู่ในเกณฑ์ปกติมีค่าอยู่ในช่วง 0-0.01 ppm (ค่ามาตรฐาน 0.9 ppm) 

โดยขณะนี้ กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง อยู่ระหว่างการติดตั้ง หน่วยตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเคลื่อนที่  ( Mobile Unit) เพื่อติดตามและเฝ้าระวังสารมลพิษต่างๆ จำนวน  6 ชนิด  ได้แก่ CO O3 SO2 NO2 PM10 PM2.5 H2S บริเวณวัดกิ่งแก้ว ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม. เพื่อติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่ โดยเบื้องต้น ผลการตรวจวัด tVOCs ในบริเวณโรงงาน เปรียบเทียบ 2 ช่วงเวลา พบว่าจุดที่ 1 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนจุดที่ 2 และ 3 มีแนวโน้มลดลงครับ 
ข้อมูลทั้งหมด กรมควบคุมมลพิษ ได้ส่งรายงานให้แก่ทาง จ.สมุทรปราการ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดฯ จะประกาศมาตรการและแนวทางปฏิบัติ แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่อไปครับ 

หมายเหตุ: เทียบค่าขีดจำกัดการรับสัมผัสทางการหายใจ โดยกรมควบคุมมลพิษ 

cr.
TOP Varawut - ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา