พ่อเจมส์บอนด์ ลั่น! ไม่ปล่อยให้ลูกตายฟรี "มาดามมาย" ต้องชดใช้ พบหนีหนี้ไปอยู่ กทม.

เรียกได้ว่าเป็นแฮชแท็กร้อนแรงในโลกออนไลน์ทั้ง #มาดามแมว #มาดามมาย กรณีที่สาวประเภทสองรายหนึ่งไปยืมเงินรุ่นพี่ ซึ่งรุ่นพี่ไปกู้นอกระบบมาให้ยืม แต่รุ่นพี่ต้องแบกรับดอกเบี้ยไม่มีเงินมาใช้หนี้แทน กระทั่งเครียดจบชีวิตตัวเองเพราะทนแบกรับภาระหนี้ไม่ไหว

นายประสิทธิ์ อายุ 50 ปี พ่อของนายวรพล หรือ เจมส์ อายุ 25 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากการจบชีวิตของตัวเองในห้องพัก ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น เดินทางมารับศพของลูกชายที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น



 

คุณพ่อ เปิดใจว่า ทราบเรื่องลูกชายเสียชีวิตจากตำรวจ จึงเดินทางมารับศพเพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศล แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ทำให้ยังไม่สามารถนำศพของลูกกลับ จ.อุบลราชธานี ได้ จำต้องหาวัดในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อจัดพิธีใน จ.ขอนแก่น

 
สำหรับการจากไปของลูกชาย ทราบจากเพื่อน ๆ ของลูกว่าเกิดจากปัญหาหนี้สินที่ลูกชายไปกู้เงินมามาจำนวน 97,800 บาท ให้เพื่อนซึ่งเป็นสาวประเภทสอง ซึ่งใช้ชื่อว่า มาดามมาย แล้วเพื่อนคนนี้ไม่ยอมใช้หนี้และหนีหายไป จนเกิดปัญหาที่ลูกชายต้องมารับผิดชอบแทน

โดยลูกชายต้องจ่ายดอกเบี้ยแทนสัปดาห์ละ 12,000 บาท แต่ลูกมีรายได้ไม่พอเพราะกำลังศึกษาอยู่ระดับปริญญาโท เงินที่ใช้จ่ายก็ได้มาจากพ่อและป้าส่งให้เท่านั้น เมื่อแก้ปัญหาไม่ได้ลูกชายก็คิดสั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่พ่อยังติดใจ เพราะลูกชายเป็นคนจิตใจดี อ่อนโยน มีน้ำใจ ไม่น่าจะคิดสั้น เพราะถ้าลูกขอเงินหรือปรึกษาพ่อ พ่อก็จะช่วยเหลือ แต่ลูกชายไม่เคยเล่าปัญหาต่าง ๆ ให้ฟัง พ่อจึงไม่รู้เรื่อง

ทั้งนี้ ตนจะไม่ปล่อยให้ลูกชายตายฟรี คนที่เกี่ยวข้องกับเงินที่ลูกชายยืมมา ต้องมารับผิดชอบ