หนุ่มข้องใจ อยู่บ้านเดิมที่พ่อแม่สร้างไว้ ไม่อยากซื้อบ้านใหม่ กลับถูกกล่าวหาเป็นคนขี้แพ้

หนุ่มข้องใจหนัก ตั้งกระทู้ระบายความในใจว่าตนเองอยู่อาศัยบ้านเดิมที่พ่อแม่สร้างไว้ ไม่อยากซื้อบ้านใหม่ กลับถูกคนกล่าวหาไปต่างนานาว่าเป็นคนขี้แพ้

เป็นเรื่องราวที่ได่รับความสนใจในโลกออนไลน์จำนวนมาก เมื่อมีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอมรายหนึ่ง ได้ตั้งกระทู้ที่มีหัวข้อว่า "การที่อยู่บ้านเดิมของพ่อแม่สร้างไว้ ไม่อยากซื้อบ้าน คอนโด นี่ถือว่า Loser หรือครับ" ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวถูกคนกล่าวหาลักษณะว่าเป็นคนขี้แพ้ เพียงเพราะไม่ยอมซื้อบ้านใหม่ ยังอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกับพ่อแม่ ซึ่งเขาได้มีการระบุข้อความทั้งหมดดังนี้ 

 

หนุ่มข้องใจหนัก อยู่บ้านเดิมที่พ่อแม่สร้างไว้ ไม่อยากซื้อบ้านใหม่ กลับถูกกล่าวหาเป็นคนขี้แพ้

 

"ผมอายุ 30 กว่า มีงาน มีแฟนที่มาอยู่ด้วยกันแล้วหลายปีแล้ว เอาจริงๆก็คืออยู่กันฉันผัวเมียนั่นแหละ แค่ไม่ได้แต่ง ไม่ได้มีลูก สมบัติของตัวเองก็มีแค่รถญี่ปุ่น 1 คันที่ยังผ่อนอยู่ แฟนก็ไม่เคยกดดันอะไร พ่อแม่ก็ไม่ได้บอกแกออกไปซะ กลับดีด้วยซ้ำที่อยู่ด้วยกัน เอาจริงบ้านหลังนี้ก็คือบ้านย่า ย่าเสียก็กลายเป็นของพ่อ และ อนาคตมันก็คือบ้านของผมนั่นแหละ ผมจะไปดิ้นรนทำไมเรื่องบ้าน แต่ในชีวิตนี้ ผมเคยมีคนพูดกับผม 4-5 คน เรื่องอายุเริ่มมี ควรไปหาที่อยู่ใหม่ อยู่กับแฟน ผมเคยมีคนพูดกับผมลักษณะว่าถ้าไม่มีบ้านของตัวเองคือ Loser ด้วยซ้ำ

 

หนุ่มข้องใจ อยู่บ้านเดิมที่พ่อแม่สร้างไว้ ไม่อยากซื้อบ้านใหม่ กลับถูกกล่าวหาเป็นคนขี้แพ้

ผมก็เอ๊ะขนาดนั้นเชียว ลองมาคิดดูนะครับ ซื้อบ้านในยุคปัจจุบัน 3 ล้านอย่างต่ำ 3ล้านนี่คืออยู่นอกเมืองนู่นนนน ลาดปลาดุก ไทรน้อย หรือพุทธมณฑล สาย 3 4 5 ในขณะที่บ้านผมอยู่ฝั่งธน แต่กลางเมือง ปากซอยมีรถไฟฟ้าพึ่งขึ้นไม่นาน (แต่ก็ขึ้นเป็นๆปีแล้ว) ลงรถไฟฟ้าเดินเข้าซอยไม่ลึกก็ถึงบ้านแล้วไม่ต้องนั่งวินด้วยซ้ำ แถวบ้านมีตลาดนัดตอนเย็น เช่น ตลาดนัดวัดหนัง ตลาดบางขุนศรี ไปบางขุนนนท์ วังหลัง หรือไปตลาดพลู วงเวียนใหญ่ก็ไม่ไกล ไปห้างนั่งรถ10นาทีถึงแมคโคร , 20 นาทีถึงเซ็นทรัลปิ่นเกล้า , 20 นาที เดอะมอลล์ท่าพระ ไปสยาม 40 นาที และตอนนี้นั่งรถไฟฟ้าไปฝั่งพระนครสบาย ผมนั่ง MRT ไปลงวัดมังกรซื้อของกินประจำ


สมมุติว่าผมอยากหาที่อยู่ใหม่ อยากได้ในเมืองใช่มั้ย 3-5 ล้าน ก็คงเป็นคอนโด ก็เป็นห้องชุดสองห้อง ห้องน้ำห้องนึง แต่ถ้าเอาบ้านเป็นหลัง พื้นที่เท่าบ้านผม คงสัก 8 ล้าน+ แถมทำเลคงไม่ดีเท่าบ้านผมหรอก แล้วบ้านแล้วคอนโด กว่าผ่อนหมดคือ แก่ แล้วถ้าผมซื้อบ้าน บ้านหลังนี้ถ้าพ่อแม่ผมตายหมดล่ะ ขายเหรอ แล้วไปอยู่นอกเมืองเนี่ยนะ ผมว่ามีบ้านอยู่ก็ดีถมแล้ว ประชากรกว่า 70% ของประเทศนี้ไม่มีสินทรัพย์อสังหาของตัวเองด้วยซ้ำ เช่าบ้านอยู่จนตาย ถึงรุ่นลูกรุ่นหลานก็ยังไม่ได้ครอบครองอสังหาสักแปลงด้วยซ้ำ ในขณะที่ราคาที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในทุกๆปี แต่รายได้คนในประเทศก็ยังค่าแรงขั้นต่ำไม่ต่างจากเมื่อ 10 ปีที่แล้ว

ผมไม่เข้าใจว่า บางทีสิ่งที่มีอยู่ก็ดีแล้ว ไม่เห็นต้องดิ้นรนขนาดนั้น ดิ้นรนไปใช่ว่าจะดีเท่าที่เดิมรึเปล่า ผมไม่เข้าใจบางคนมองว่าเราไม่คิดอยากมีบ้าน หรือคอนโด ไม่อยากย้ายไปไหน ถึงมองว่าเราไม่ก้าวหน้า บางคนว่าเรา Loser ด้วยซ้ำ ที่เราไม่อยากไปไหน อีกอย่างผมติดถิ่นฐานด้วย ผมมีเพื่อนในซอยนี้ ผู้หลักผู้ใหญ่ในซอยรู้จักหมดตั้งแต่ลุงสามล้อ จนไปถึงแม่ค้าผัดไทย นั่นสิ จะต้องดิ้นรนไปทำไม"

 

หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ต่างบอกเจ้าของกระทู้ว่าไม่ควรไปใส่ใจกับคนจำพวกแบบนี้ อาทิ ใครใคร่มีเพิ่มก็มีไป เราแค่พอใจในสิ่งที่มีอยู่ ไม่เห็นต้องสนคำคน ที่พ่อแม่มีอยู่นี่ยังดูแลไม่ทั่วถึงเลย ต่อไปตกเป็นของเราก็ดูไม่ไหวแล้ว ยังไงก็ต้องขายเพื่อลดภาระ แล้วจะไปสร้างภาระเพิ่มอีกทำไม? และที่ทำเลใหม่ก็อีกหลายปีกว่าจะดีเท่าทำเลที่อยู่มานาน ซื้อเก็งกำไรก็ไม่เวิร์คอยู่ดี , เก็บเงินสดลงทุนจะดีกว่า มีแต้มต่ออยู่แล้วไม่ต้องซื้อบ้าน จะดิ้นรนเป็นหนี้สินเพื่ออะไร (หนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ด้วย) เป็นต้น

 

หนุ่มข้องใจหนัก อยู่บ้านเดิมที่พ่อแม่สร้างไว้ ไม่อยากซื้อบ้านใหม่ กลับถูกกล่าวหาเป็นคนขี้แพ้

 

หนุ่มข้องใจหนัก อยู่บ้านเดิมที่พ่อแม่สร้างไว้ ไม่อยากซื้อบ้านใหม่ กลับถูกกล่าวหาเป็นคนขี้แพ้

 

หนุ่มข้องใจ อยู่บ้านเดิมที่พ่อแม่สร้างไว้ ไม่อยากซื้อบ้านใหม่ กลับถูกกล่าวหาเป็นคนขี้แพ้