เค ร้อยล้าน เตรียมถูกส่งรักษา ย้อนวีรกรรมเคยทำไรไว้บ้าง

สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ผู้ที่พบเจอเหตุการณ์ สำหรับกรณีของ ฉายา เค ร้อยล้าน คลุ้มคลั่งอาละวาดประวัติเข้ารับการรักษาทางจิตเวช พนักงานสอบสวน ถ้าศาลเห็นว่า การปล่อยตัวผู้ที่มีจิตบกพร่อง อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสังคม ศาลอาจสั่งให้ส่งตัวไปรักษาในสถานพยาบาลได้

เรียกว่าเป็นเรื่องที่สร้างความตื่ยตระหนกให้แก่ผู้ที่พบเจอเหตุการณ์ สำหรับกรณีของ  นายคเณศพิศณุเทพ จักรภพมหาเดชา นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ฉายา "เค ร้อยล้าน" คลุ้มคลั่งอาละวาดภายในศูนย์การค้า ย่านปทุมวัน โดย "เค ร้อยล้าน" นั้น มีการก่อความวุ่นวายหลายครั้ง และประวัติเข้ารับการรักษาทางจิตเวช พนักงานสอบสวน ในท้ายคำร้องของสำนวนคดี อาจเสนอต่อศาลให้ดำเนินการตามวิธีการเพื่อความปลอดภัย และถ้าศาลเห็นว่า การปล่อยตัวผู้ที่มีจิตบกพร่อง อันตราย ฟั่นเฟือน อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสังคม ศาลอาจสั่งให้ส่งตัวไปรักษาในสถานพยาบาลได้ แต่ต้องรอแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและแพทย์ที่ทำการรักษา ลงความเห็นอีกครั้งหนึ่ง 

เค ร้อยล้าน เตรียมถูกส่งรักษา ย้อนวีรกรรมเคยทำไรไว้บ้าง

ซึ่งจากกรณีที่ "เค ร้อยล้าน" ถูกส่งไปรักษานั้น ทางไทยนิวส์ออนไลน์จากพาไปย้อนวีรกกรม "เค ร้อยล้าน" ซึ่งเจ้าตัวนั้นประกอบอาชีพ เป็นนักธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ทั้งยังเป็นเจ้าของร้านตัดสูทให้โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง เคยเปลี่ยนชื่อมาแล้วถึง 5 ครั้ง โดยใช้ชื่อกลับกันไปมา และเปลี่ยนนามสกุลอีก 1 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2546

เค ร้อยล้าน เตรียมถูกส่งรักษา ย้อนวีรกรรมเคยทำไรไว้บ้าง

โดยชื่อที่ นายคเณศพิศณุเทพ เคยเปลี่ยน ได้แก่ ณัฐศักดิ์ธาน, ณัฐศักดิ์ญาณ, พงศ์พิษณุเทพ, กันต์ฐพงศ์ จนมาถึงชื่อปัจจุบัน

โดยเมื่อปี 2549  ที่มีการทำรัฐประหาร "เค ร้อยล้าน ได้ขับรถเก๋ง BMW ซีรีส์ 7  ที่มีการพ่นข้อความ ด้วยสีสเปรย์ สีแดง เป็นข้อความสนับสนุนการทำรัฐประหาร มาจอดที่หน้า สำนักงานเลขานุการกองทัพบก (สลก.ทบ.) ซึ่งนั้นเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นพฤติกรรมของ "เค ร้อยล้าน"

เค ร้อยล้าน เตรียมถูกส่งรักษา ย้อนวีรกรรมเคยทำไรไว้บ้าง

ต่อมาเมื่อปี 2551  เค ร้อยล้าน เข้าแจ้งความกับ ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ว่า ถูกมือปืนขับรถยนต์ไล่ยิง โดยอ้างว่า เป็นพยานให้กับ คตส. คดีทุจริตซื้อที่ดินโครงการบ้านเอื้ออาทร ลาดกระบัง แต่เมื่อตำรวจจะสอบปากคำ  เค ร้อยล้าน เจ้าตัวบอกว่าไม่พร้อม ก่อนถูกสาวใหญ่แจ้งความข้อหา“ฉ้อโกง”

เค ร้อยล้าน เตรียมถูกส่งรักษา ย้อนวีรกรรมเคยทำไรไว้บ้าง

ต่อมา ปี 2562   ชื่อของ "เค ร้อยล้าน" กลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง เมื่อเขา  ขับรถยนต์เบนซ์ สีดำ ป้ายแดง มาจอดกลางถนนราชดำริ หน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์  ใช้อาวุธมีดกรีดแขนตัวเอง และศีรษะ  จากนั้นเขา พยามยามจะปล่อยงูเห่า และโปรยกลีบดอกไม้  ก่อนจะถูกตำรวจนครบาลลุมพินีควบคุมตัวไป ซึ่งจากการสอบปากคำในครั้งนั้น "เค ร้อยล้าน" หรือ นายคเณศพิศณุเทพ ได้ให้การแบบวกไปวนมา แต่จับใจความได้ว่า เขามาประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อส่วนบุคคล ก่อนหน้านี้ได้เดินทางมาจาก จ.นครสวรรค์ เพื่อไปพบภรรยาที่ย่านพระประแดง แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุก็ได้จอดรถ และก่อเหตุดังกล่าวตามความเชื่อ 

เค ร้อยล้าน เตรียมถูกส่งรักษา ย้อนวีรกรรมเคยทำไรไว้บ้าง

ก่อนที่ล่าสุดนั้น  "เค ร้อยล้าน" ก่อเหตุอีกครั้ง  หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ จากนั้นขับรถเดินลงมา นำดอกไม้มาโปรย และเทงูเห่า ลงบนถนน 2-3 ตัว ก่อนที่จะปาขวดน้ำแดงลงบนถนน ด้วยอาการคลุ้มคลั่งนอกจากนั้นยังได้ใช้มีดยาวพยายามปาดที่บริเวณลำคอของตัวเอง กรีดแขน จนเลือดไหลนองพื้นถนน แล้วล้มตัวลงนอน สร้างความแตกตื่นกับประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าว 

ต่อมาในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 "เค ร้อยล้าน" ได้ไปโผล่ที่ ห้างดังย่านปทุมวัน โดยมีการถือพระบรมฉายาลักษณ์ของของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกมือถือขวดน้ำแดง ราดลงไปที่ศีรษะ พร้อมตะโกนลั่นห้าง ก่อนจะปาขวดลงไปที่พื้นอย่างแรง จนขวดแตกกระจายไปถูกประชาชนที่มาใช้บริการของห้าง 

เค ร้อยล้าน เตรียมถูกส่งรักษา ย้อนวีรกรรมเคยทำไรไว้บ้าง

นอกจากนี้ ยังพบว่า เค ร้อยล้าน ยังโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก และเช็กอินที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จำนวน 2 ครั้ง โดยเป็นข้อความเชิงข่มขู่ ทั้งยังปล่อยภาพงูพิษ จำนวน 2 คลิปอีกด้วย

เค ร้อยล้าน เตรียมถูกส่งรักษา ย้อนวีรกรรมเคยทำไรไว้บ้าง

และอีกหนึ่งเหตุการณ์ โดยเป็น คลิปที่ เค ร้อยล้าน ถูกชายปริศนาทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยครั้งนั้นเจ้าตัวตั้งรางวัลแก่ผู้ที่แจ้งเบาะแสชายปริศนา เป็นเงิน 1 แสนบาท

จากการประสานไปยังญาติของผู้ก่อเหตุ ทราบว่า ขณะนี้ ไม่สามารถติดต่อผู้ก่อเหตุได้ ซึ่งตำรวจจะดำเนินการติดตามตัวต่อไป ส่วนทางญาติ จะเข้าข่ายปล่อยปละละเลย หรือต้องถูกดำเนินคดีหรือไม่ ยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานอีกครั้ง รวมถึง พูดคุยหาแนวทาง เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ก่อเหตุ กระทำลักษณะดังกล่าวอีก และยังไม่ได้รับรายงานว่า ผู้ก่อเหตุ มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองหรือไม่ ต้องตรวจสอบอีกครั้ง