อดีตพนักงานบริษัทดัง พ้อตั้งใจทำงาน รักเหมือนบ้าน สุดท้ายได้ชดเชย 16%

อดีตพนักงานบริษัทดัง ตัดพ้อหลังบริษัทปิดกิจการบางส่วน ลั่นตั้งใจทำงาน รักเหมือนบ้าน สุดท้ายได้ชดเชย 16% ถามจะรอดถึงสิ้นเดือนไหม

จากกรณีที่ บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด หรือ JSL ได้ชี้แจงเรื่องการยุติการดำเนินงานบางส่วนลงนับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป เนื่องจากเผชิญหน้าหนี้สินล้นพ้นบริษัทแบกไม่ไหวต้องตัดสินใจจบ เผยช่วง 8 ปีที่ผ่านมานั้นได้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมสื่ออย่างมาก ทำให้มีพนักงานได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก

 

อดีตพนักงานบริษัทดัง พ้อตั้งใจทำงาน รักเหมือนบ้าน สุดท้ายได้ชดเชย 16%

ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 65  ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นอดีตพนักงานของบริษัทดังกล่าว ได้ออกมาโพสต์ข้อความตัดพ้อ หลังทางบริษัทจะจ่ายเงินชดเชยให้พนักงานเพียง 16 เปอร์เซ็นต์ โดยระบุว่า "เมื่อมีการประกาศปิดบริษัททันที ไม่มีปี่มีขลุ่ย ทั้งที่แต่ละคนยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานกันอยู่ ไม่มีสัญญาณใดๆ ที่บอกว่าเราไปต่อไม่ได้แล้ว เพราะเรายังคงเตรียมงานที่จะเกิดขึ้นต่อไปในเดือนหน้า เมื่อประกาศปิดปุ๊บ สายตาของแต่ละคนที่หันมองกัน ว่า แล้วจะยังไงกันต่อดี จะทำยังไงละทีนี้ จะบอกครอบครัวยังไง จะหาเงินจากไหนมาเลี้ยงครอบครัวต่อไป สมองตื้อไปหมด


พี่ๆ หลายคนทำงานอยู่ที่นี่มานานมาก พอๆ กับอายุของบริษัท หลายคนทำงานมาตั้งแต่วัยหนุ่มสาว จนถึงวันนี้กำลังเข้าสู่รุ่นสูงวัย ที่คิดว่าท้ายสุดจะได้เงินเก็บก้อนนี้ไปใช้ชีวิตบั้นปลายได้อย่างมีความสุข


ถามว่าทำไมถึงทำงานที่นี่นานขนาดนี้ ตอบได้เลยว่า เพราะเราได้รับความเชื่อที่ถูกปลูกฝังมาโดยตลอดจากผู้บริหาร ที่บอกว่า เราจะทำงานไปด้วยกัน เราจะสู้ไปด้วยกัน เราอยู่กันแบบครอบครัวที่อบอุ่น และเราคิดว่าที่นี่คือ "บ้าน" ของเรา เราร่วมกันฝ่าฟันมาทุกวิกฤตทางเศรษฐกิจเพื่อให้ "บ้าน" ของเราอยู่รอดให้ได้ ยอมลดเงินเดือน ยอมหักโอที และตั้งใจทุ่มเททำงานให้บ้านหลังนี้ต้องรอดต่อไปให้ได้ ในวันนี้ วันที่บริษัทประกาศปิดกิจการ เรารู้สึกเสียใจที่บ้านหลังนี้ ที่เราเคยอยู่ร่วมกันมาเกินกว่า 20-30 ปี กำลังจะปิดลง น้ำตาไหลในอกโดยไม่รู้ตัว ใจหาย และได้แต่มองหน้ากัน และปลอบประโลมกันไป

เอาน่า พวกเรายังมีเงินชดเชยที่พอจะเอาไปเลี้ยงดูครอบครัวได้สักระยะหนึ่ง พอให้เราได้ลืมตาอ้าปาก ตั้งต้นทำอะไรได้บ้าง เจ้าของบ้านหลังนี้มีความอบอุ่นและเมตตามาโดยตลอด


และเมื่อถึงเวลาที่เราต้องลาจากบ้านหลังนี้ กับความหวังเล็กๆ ของเรา กลับเป็นสิ่งเล็กๆ เล็กมากเสียจนต้องหันมามองหน้ากันว่า เราจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง หันไปเห็นน้ำตาของเพื่อนๆ พี่ๆ ที่คิดไม่ออกหนักกว่าเดิมว่าจะไปทำอะไรได้บ้างกับเงินชดเชยเพียง 16% หลายคนเริ่มร้องไห้ แววตามีแต่ความวิตกกังวล จะทำยังไงต่อล่ะทีนี้ เงินเดือนต่อไปก็ไม่มีแล้ว จะเอาเงินชดเชย 16% ไปต่อชีวิตก็น้อยเหลือเกิน จะอยู่ให้รอดถึงสิ้นเดือนนี้มั้ย ค่านมลูก ค่าผ้าอ้อมลูก ผ้าอ้อมแม่ ค่าหยูกยาของพ่อ และจะใช้ชีวิตต่อไปยังไงดี ก็ได้แต่ภาวนาอ้อนวอนให้ทุกคนเข้มแข็งและไม่คิดทำร้ายตัวเองนะ"

 

อดีตพนักงานบริษัทดัง พ้อตั้งใจทำงาน รักเหมือนบ้าน สุดท้ายได้ชดเชย 16%