กลาโหม ล่ามือฉก"พญาคชสีห์ฯ" เร่งตรวจสอบวงจรปิด สงสัยฝีมือคนในหรือคนนอก

   คืบหน้ากรณีรูปปั้นพญาคชสีห์ กลาโหม หาย โดยเป็น พญาคชสีห์ราชเสนีย์พิทักษ์ ซุ้มหน้าสำนักงาน สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ กระทรวงกลาโหม  ล่าสุดได้สั่งเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด สงสัยเป็นฝีมือคนนอกหรือคนใน  โดยพบว่าเมื่อช่วงเช้า 28 ก.ค.ที่ผ่านมาพญาคชสีห์ราชเสนีย์พิทักษ์ เนื้อโลหะ มีความสูงประมาณ 10 นิ้ว ยาว 8 นิ้ว ที่ประดิษฐานอยู่ในซุ้มด้านหน้าบริเวณทางเข้าของอาคารสำนักงาน 2 องค์ ได้หายไป 1 องค์
 

  คืบหน้าล่าสุดนั้น พลเอก คงชีพ ตันตระวาณิชย์  โฆษกกลาโหม ชี้แจงกรณีที่ พญาคชสีห์ราชเสนีพิทักษ์  ที่ประดิษฐานซุ้มหน้า อาคารสำนักงาน สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) กระทรวงกลาโหม เมืองทองธานี หายไป ว่า กำลังตรวจสอบจาก กล้องวงจรปิด ที่มีจำนวนมาก ในบริเวณนั้น โดยได้ประสานให้ตำรวจช่วยสืบสวนเเละสอบสวนในการหาตัวคนขโมย รูปปั้นพญาคชสีห์ราชเสนีพิทักษ์ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

   ในเบื้องต้น ต้องสอบสวนก่อนว่า เป็นการกระทำของคนในหรือคนนอก  ตรวจสอบพยานวัตถุและพยานบุคคล ที่เกี่ยวข้องทั้งนี้  นายสมเกียรติ พันชนะ อายุ 45 ปี รปภ.สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ  ได้แจ้งความต่อ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี  แล้ว ว่า  ขณะเข้าเวร ปฏิบัติหน้าที่สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ กระทรวงกลาโหม ภายในเมืองทองธานี ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ดนั้น ตรวจสอบว่า พญาคชสีห์ราชเสนีย์พิทักษ์ ที่ประดิษฐานอยู่ในซุ้มด้านหน้าบริเวณทางเข้าของอาคารสำนักงาน 2 องค์ ได้หายไป 1 องค์

   ทั้งนี้รูปปั้นพญาคชสีห์ราชเสนีพิทักษ์เป็น เนื้อโลหะ มีความสูงประมาณ 10 นิ้ว ยาว 8 นิ้ว  มี2 ตัว เพิ่อ เป็นสัญลักษณ์ ของกระทรวงกลาโหม เช่นเดียวกับ กลาโหม ที่สนามหลวงและที่ศรีสมาน

cr.Wassana Nanuam

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ thainewsonline