ลูกค้าล้มทั้งยืน เห็นสภาพรถ พนง.ศูนย์เอาไปชน เจ็บใจกว่าเดิมรู้ค่าเยียวยา

สาวล้มทั้งยืน เห็นสภาพรถ หลังพนักงานศูนย์เอารถลูกค้าไปชนหนักมา ให้เยียวยาค่าทำขวัญ 3 หมื่น ส่งค่าซ่อมให้ประกันจัดการ ...

เมื่อไม่นานนี้เฟซบุ๊กแฟนเพจ  “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 3” ได้ออกมาโพสต์แชร์เรื่องราวของผู้ใช้เฟซบุ๊กสาวรายหนึ่งหลังเธอได้โพสต์ข้อความเรียกร้องความเป็นธรรมให้ตัวเองในฐานะลูกค้า  โดยข้อความระบุว่า “#ผู้บริโภคร้องเรียน เอารถลูกค้าไปชนหนักขนาดนี้ ความรู้สึกที่เสียไปมันต้องเยียวยาอย่างไร เดาว่า นิสสัน กม.21 ที่เป็นศูนย์ใหญ่และโรงงานไม่ทราบเรื่อง โพสต์นี้อยากจะขอแรงเพื่อนๆ ในโซเชียลช่วยเราแชร์เรื่องที่เกิดขึ้นกับเราเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมช่วยเราหน่อยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่าเรานำรถเข้าเคลมสีที่ศูนย์บริการนิสสันแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา (ซื้อรถและเข้าบริการที่นี่มาโดยตลอด) เนื่องจากพนักงานที่ศูนย์ฯ นี่แหละถอยรถเราไปชนกับรถอีกคันหนึ่งเมื่อครั้งที่เราเอารถเข้าตรวจเช็คสภาพ ตอนนั้นทางศูนย์ยินดีรับผิดชอบทำสีให้ใหม่แต่เราไม่ได้ส่งเคลมภายในวันเกิดเหตุ”

 

ลูกค้าล้มทั้งยืน เห็นสภาพรถ พนง.ศูนย์เอาไปชน เจ็บใจกว่าเดิมรู้ค่าเยียวยา

 

 

วันที่ 30 ก.ค. 65 ทางศูนย์โทรแจ้งเราช่วงเย็นว่ารถเราเกิดอุบัติเหตุโดนชนท้าย ซึ่งพอเราเห็นรูปรถก็แทบล้มทั้งยืน เพราะสภาพรถเราถูกอัดก๊อปปี้เสียหายทั้งด้านหน้าและด้านหลัง (ตามภาพประกอบ) ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ผจก.ศูนย์ และ ผจก.ใหญ่ศูนย์ โทรแจ้งให้เราสบายใจได้เพราะทางศูนย์จะรับผิดชอบอย่างแน่นอน ตอนนั้นเราอยู่ต่างอำเภอเลยนัดเคลียร์กันวันหลัง หลังจากนั้นมีการนัดเคลียร์และยื่นข้อเสนอ/เจรจากันไป 2 ครั้ง (ผู้บริหารที่มีอำนาจในการตัดสินใจไม่เคยมาเจรจา) จนมาถึงวันนี้ทางศูนย์สรุปเสนอเงินเยียวยาที่รวมเป็นค่าเสื่อมของรถ ค่าทำขวัญ ค่าเสียเวลา ฯลฯ ให้เราเป็นเงินจำนวน 30,000 บาท และรับประกันตัวรถเพิ่มจากวารันตีที่รถเรามีอยู่แล้วให้อีก 2 ปี ส่วนการซ่อมรถนั้นประกันชั้น 1 ที่เราซื้อไว้เป็นผู้ดำเนินการ”

 

ลูกค้าล้มทั้งยืน เห็นสภาพรถ พนง.ศูนย์เอาไปชน เจ็บใจกว่าเดิมรู้ค่าเยียวยา

 


 

ข้อเสนอที่เรายื่นต่อศูนย์ไปมี 3 ข้อ ดังนี้ (โดนปฎิเสธทั้งหมด)

1. ขอเปลี่ยนรถคันใหม่ เนื่องจากสภาพรถพังยับเยินมาก และรถเราซื้อป้ายแดงมา (ตัว v รองท็อป) เพิ่งผ่อนไป 16 งวด เลขไมล์เกือบๆ 18000
2. ให้ศูนย์นำรถคันที่พังไปจัดการหลังบ้านเองเลย โดยปิดไฟแนนซ์ และคืนเงินดาวน์กับเงินผ่อนให้เรา
3. ถ้าทางศูนย์ยืนยันจะให้ซ่อมรถใช้ต่อจริงๆ เราขอค่าเสื่อมของรถ ค่าเสียเวลา และค่าเสียสุขภาพจิต เป็นเงินจำนวน 500,000 บาท (เผื่อต่อ)

“ขอความกรุณาทุกท่านในการแสดงความคิดเห็นรวมถึงผู้รู้ช่วยชี้แนะทีค่ะว่าศูนย์บริการเยียวยาเราเท่านี้มันคุ้มค่ากับค่าเสื่อมของรถเราที่ถูกชนหนักแล้วหรือยัง และเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องหรือไม่ หรือถ้าเราต้องการมากกว่านี้เป็นหน้าที่เราที่ต้องไปเสียเวลาฟ้องร้องหรอคะ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้มีส่วนผิดในเหตุการณ์นี้เลย ช่วยเป็นสื่อกลางในการเรียกร้องความเป็นธรรมช่วยหนูด้วยนะคะ”

 

ลูกค้าล้มทั้งยืน เห็นสภาพรถ พนง.ศูนย์เอาไปชน เจ็บใจกว่าเดิมรู้ค่าเยียวยา

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ thainewsonline