"อ.เจษฎ์"แจงชัด ปมเตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะเส้นมีสารกันบูดเกินขนาด

"อ.เจษฎ์" ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาชี้แจงหลังมีการเตือน ให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว โดยเฉพาะเส้นเล็ก เส้นหมี่ และเส้นใหญ่ เพราะมีสารกันบูดเยอะ

"อ.เจษฎ์" ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ระบุว่า 

แชร์มั่วเรื่อง "แพทย์เตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว โดยเฉพาะเส้นเล็ก เส้นหมี่ และเส้นใหญ่ เพราะมีสารกันบูดเยอะเกินเกณฑ์มาก อันตรายต่อตับไต" กลับมาอีกแล้วนะครับ ... ไม่จริงนะครับ !!

จริงๆ แล้ว ภาพที่แชร์กันนั้น เป็นผลการตรวจสอบเก่า ตั้งแต่ปี 2550 ในจังหวัดอุบลฯ เพียงครั้งนั้นครั้งเดียว ซึ่งประเด็นปัญหาของ "สารกันบูด" ในเส้นก๋วยเตี๋ยวนั้น อาจเกิดขึ้นจากความมักง่ายของพ่อค้าในบางพื้นที่ที่อยู่ห่างไกล โดยกลัวว่าเส้นก๋วยเตี๋ยวสด (เช่น เส้นใหญ่ และเส้นเล็ก) จะบูดเสียได้ง่าย เลยใส่สารลงไปเกินปริมาณที่อนุญาต (ใส่ได้ แต่ห้ามใส่เกิน)

ถ้าติดตามข่าวเกี่ยวกับการตรวจหาสารกันบูดในเส้นก๋วยเตี๋ยวในรอบอื่นๆ จากพื้นที่อื่น ๆ ก็ได้ผลแตกต่างกันไป บางครั้งก็เส้นเล็ก ที่พบเยอะสุด บางครั้งก็เส้นใหญ่ที่พบเยอะสุด

ซึ่งจากการที่เอาผลการตรวจเฉพาะจุดนั้น มันแชร์กันไปทั่วไปประเทศ ทำให้ในปี 2561 ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เลยออกมาชี้แจงอีกครั้ง โดยระบุว่าผลตรวจจากทั่วประเทศ ไม่ได้พบว่ามีสารกันบูดอยู่ในเส้นก๋วยเตี๋ยวมากเกินไป และสารพวกนี้ก็ถูกทำลายได้ด้วยความร้อน ขออย่าให้แตกตื่นเกินไปครับ

-----------

"อ.เจษฎ์"แจงชัด ปมเตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะเส้นมีสารกันบูดเยอะ

(รีโพสต์) จาก "อย่าแตกตื่น ฟอร์เวิร์ดเมล์เก่า เรื่อง อันตรายจากเส้นก๋วยเตี๋ยว"

กลับมาแชร์กันใหม่อีกครั้งเรื่อง "แพทย์เตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว โดยเฉพาะเส้นเล็ก เส้นหมี่ และเส้นใหญ่ เพราะมีสารกันบูดเยอะเกินเกณฑ์มาก อันตรายต่อตับไต" ?!

... ความจริง เป็นผลการตรวจสอบเก่า ปี 50 ในจังหวัดอุบลฯ ขณะที่ผลตรวจล่าสุดจากทั่วประเทศในปัจจุบันนั้น สารกันบูดไม่ได้สูงเกินไปนัก และสารก็ถูกทำลายได้ด้วยความร้อน อย่าแตกตื่นเกินไป

1. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ออกมาชี้แจงเรื่อง "การใช้วัตถุกันเสียในเส้นก๋วยเตี๋ยว" ว่า เป็นข้อมูลเก่าจากปี 2550 ของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ. อุบลราชธานี ที่ตรวจพบว่ามีการใช้วัตถุกันเสียในเส้นก๋วยเตี๋ยวเกินเกณฑ์ที่กำหนด ... นั่นคือ ตรวจเจอ 34 ตัวอย่าง 92 ตัวอย่าง (ร้อยละ 36) แล้วที่ตกใจกันเพราะมีเจอสูงถึง 17,250 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ในบางตัวอย่าง

2. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เลยลงมาตรวจติดตามการใช้วัตถุกันเสียในเส้นก๋วยเตี๋ยว อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2555 – 2559 ... พบว่า จาก 370 ตัวอย่าง พบใช้วัตถุกันเสียเกินกำหนด 71 ตัวอย่าง (ร้อยละ 19.2) โดยปริมาณที่พบอยู่ระหว่าง 10.6 – 3,995 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม โดยเฉพาะเส้นก๋วยจั๊บ เส้นใหญ่ และเส้นผัดไทชนิดแห้ง

3. เมื่อเทียบปี 2550 พบว่า จำนวนตัวอย่างที่ตรวจพบการใช้วัตถุกันเสียเกินมาตรฐานกำหนด "ลดลง" (จาก 36% เหลือเพียง 19.2%) และปริมาณวัตถุกันเสียสูงสุด "ลดลง" (จาก 17,250 เหลือเพียง 3,995 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) โดยที่ค่ามาตรฐานกำหนด ให้พบได้ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

4. กรดเบนโซอิคและกรดซอร์บิค ที่ใช้เป็นวัตถุกันเสียนั้น เมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะถูกขับออกทางปัสสาวะได้ และยังมีความเป็นพิษต่อคนและสัตว์น้อยมาก .... สารทั้ง 2 ชนิดนี้ ยังไม่ทนความร้อนด้วย จะสลายตัวได้เมื่อเอาไปหุงต้ม

5. ดังนั้น ผู้บริโภคไม่ควรตื่นตระหนก .. ขอเพียงแค่ไม่รับประทานอาหารชนิดเดียวซ้ำๆ และบริโภคในปริมาณที่มาก

6. สำหรับร้านก๋วยเตี๋ยว ควรเลือกซื้อเส้นก๋วยเตี๋ยวจากแหล่งที่เชื่อถือได้ มีสถานที่ผลิตที่แน่นอน สามารถสอบย้อนกลับได้

"อ.เจษฎ์"แจงชัด ปมเตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะเส้นมีสารกันบูดเยอะ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainewsonline