พ่อหนุ่มไรเดอร์เดือด ปรี่หาสาวหึงโหด "ผมอยากดูหน้ามัน ลูกผมยังไม่เคยตี"

คืบหน้ากรณีสาวหึงโหดขอมอบตัวหลังก่อเหตุแทงตัดขั้วหัวใจแฟนหนุ่มไรเดอร์คาที่นอน ต่อมา เวลา 22.30 น.ที่ สน.ท่าข้าม ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ท่าข้ามควบคุมตัว นางสาวสลิลทิพย์ ขวัญศิริโรจน์ อายุ 23 ปี (ผู้ก่อเหตุ) จากห้องสืบสวนเพื่อนำตัวสอบปากคำต่อพนักงานสอบสวน ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาตามขั้นตอนของกฎหมาย ขณะเดียวกันที่นาย สมพงศ์ สง่ารังสีสกุล อายุ54 ปี (พ่อของผู้ตาย) ยืนเฝ้ารอดูหน้าผู้ก่อเหตุอยู่ที่หน้าห้องฝ่ายสืบสวน ก่อนทำท่าทีจะปรี่เข้าไปหานางสาวสลิลทิพย์ (ผู้ก่อเหตุ)โดยมีเจ้าหน้าที่คอยบล็อคเพื่อไม่ให้พ่อผู้ตายเข้าไปทำร้ายผู้ก่อเหตุ จนทำให้นายสมพงศ์(พ่อผู้ตาย) เกิดความไม่พอใจ พร้อมโกนโวยวายใส่เจ้าหน้าที่
 

พ่อหนุ่มไรเดอร์เดือด ปรี่หาสาวหึงโหด "ผมอยากดูหน้ามัน ลูกผมยังไม่เคยตี"  โดยพ่อหนุ่มไรเดอร์พูดกับเจ้าหน้าที่ว่า 

"กูอยากดูหน้ามัน ลูกกูยังไม่เคยตีเลยไอ้.. อยากจะดูหน้ามึx วันนั้นที่มึxนั่งแดxที่โต๊ะวันที่แม่มันตายอะ " นายสมพงศ์ กล่าว 

กระทั่งเจ้าหน้าที่ต้องเข้าห้ามปรามพร้อมกล่าวว่า "พอแล้วๆ เข้าไม่ได้นะ " เพื่อไม่ให้นายสมพงศ์เข้าไปภายในห้องสอบสวนของโรงพัก

โดยก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวนสน.ท่าข้าม เชิญตัว นายสมพงศ์ สง่ารังสีสกุล วัย 54 ปี พ่อของนายสหวัฒน์ สง่ารังสีสกุล  หรือ ฟอร์ด ที่ถูก นางสาวสลิลทิพย์ ขวัญศิริโรจน์ วัย 23 ปี หรือ นาใช้มีดแทงบริเวณหน้าอกเสียชีวิต ภายในคอนโดย่ายพระราม 2 มาสอบปากคำ ที่สน.ท่าข้าม

นายสมพงศ์ เล่าว่า ที่ผ่านมา ผู้ตาย และผู้ก่อเหตุ ทั้งสองทะเลาะกันบ่อยครั้ง โดยส่วนใหญ่ ฟอร์ด มักจะเป็นผู้ถูกทำร้าย อาทิ ถูกผู้ก่อเหตุตบในวันงานเลี้ยงบริษัท จนบาดเจ็บ ยอมรับ เคยยุยงให้ ฟอร์ด เลิกรากับผู้ก่อเหตุ เนื่องจากทนพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุที่ชอบใช้ความรุนแรงไม่ได้ ยืนยันแม้จะให้อภัยและยินยอมให้ ผู้ก่อเหตุมาขอขมาศพ แต่ก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หลังมีความเห็นว่าผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมโหดเหี้ยมเกินไป

ทางด้าน พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 เผยถึงผลการสอบปากคำ น.ส.สลิลทิพย์ ขวัญศิริโรจน์ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาใช้มีดแทงแฟนหนุ่ม จนถึงแก่ความตายในห้องพักว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาเดินทางมามอบตัวด้วยตนเอง โดยให้เหตุผลว่ามีปัญหาทะเลาะกันกับฝ่ายชาย ห้องดังกล่าวเป็นห้องพักที่เช่าเอาไว้แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันเป็นประจำ

โดยหลังเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้โทรศัพท์ปรึกษา และเดินทางไปหาบิดาและมารดา รวมถึงแจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่นิติบุคคลขึ้นไปดูอาการแฟนหนุ่มบนห้องพักด้วย เนื่องจากยังมีความผูกพันกันอยู่

ในชั้นการสอบสวนเชื่อว่าไม่มีบุคคลที่ 3 อยู่ในห้องที่เกิดเหตุ ส่วนอาวุธมีดและหลักฐานอื่นๆ ที่พบก็มีอยู่ในห้องอยู่แล้ว ชนวนเหตุเกิดจากการทะเลาะเบาะแว้งของคนสองคนซึ่งคบหากัน ขออนุญาตไม่ลงรายละเอียด การสอบสวนลึกไปมากกว่านี้บอกได้เพียงว่าส่วนหนึ่งมีประเด็นเรื่องการหึงหวง

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline