หนุ่มร้องแทบขาดใจ เตือนเมียติดโซเชียล สุดท้าย เมียหอบลูกหนี วอนช่วยตามหา

หนุ่มร่ำไห้ตัดพ้อ เตือนเมียติดโซเชียลหนัก เล่นเฟซ และ TikTok เมียไม่พอใจหอบลูกหนี เผยทั้งน้ำตาวอนตำรวจช่วยติดตาม

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ บัณฑิต พานิชกุล ได้โพสต์ภาพภรรยาและลูกชายวัย 3 ขวบ พร้อมข้อความสุดสะเทือนใจว่า ขออนุญาตตามหาแฟนกับลูกครับตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครปากเกร็ดแล้วหายไปในหมู่บ้านราชพฤกษ์(ซอยวัดกู้)คืนวันที่ 7 กันยายนเวลาประมาณ 2:30 น ตอนนี้เป็นห่วงเด็กมากครับยังไม่สามารถติดต่อได้เลยตั้งแต่วันที่ 7หายพร้อมเเม่ แม่สูงประมาณ 160 เซนติเมตรผิวขาวรูปร่างอ้วนผมประบ่าที่หลังมือบริเวณนิ้วโป้งขวาสักรูปดอกกุหลาบ เด็กผิวขาวอายุ 3 ขวบผมทรงสกินเฮดห้อยเหรียญหลวงปู่เอี่ยมข้าวหลามตัดลายธงชาติ ท่านใดพบเห็นหรือเคยเห็นรบกวนแจ้งเบาะแสที่เบอร์โทร 0873532919 เอก หรือสามารถทักแชทโดยตรงได้เลยตลอด 24 ชั่วโมงครับ กราบขอบพระคุณทุกท่านที่ช่วยเหลือครับ แม่ชื่อ ฐิติกร รอบุญ เบียร์ เด็กชื่อ บัณฑัต พานิชกุล หรือน้องบลู 

หนุ่มร้องแทบขาดใจ เตือนเมียติดโซเชียล สุดท้าย เมียหอบลูกหนี วอนช่วยตามหา

หนุ่มร้องแทบขาดใจ เตือนเมียติดโซเชียล สุดท้าย เมียหอบลูกหนี วอนช่วยตามหา

ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 ก.ย.66 ที่สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายบัณฑิต พานิชกุล อายุ 39 ปี อาชีพ โชเฟอร์แท็กซี่ ผู้โพสต์เฟซบุ๊ก ได้เดินทางติดตามความคืบหน้าคดีโดยนำหลักฐานกล้องวงจรปิดขณะที่ภรรยาพาลูกชายวัย 3 ขวบ เดินหนีหายออกจากหมู่บ้านมิตรภาพ ซ.วัดกู้ ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เวลา 02.00 น. เมื่อวันที่ 7 ก.ย.66 ที่ผ่านมา มอบให้กับร.ต.ต.สุรชัย สายชลนิรันดร์ รองสว.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด แจ้งความไว้ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.66 คดีไม่มีความคืบหน้า 

นายบัณฑิต กล่าวทั้งน้ำตาว่า   ตนนอนกับแฟนอยู่ด้วยกันตามปกติ ช่วงนี้แฟนติดโลกออนไลน์ ติดเกมติด Facebook และติด tiktok พอตนไปเตือนเลยมีปัญหากันตนมีลูกทั้งหมด 3 คนอาศัยอยู่รวมกัน 5 คน รวมทั้งภรรยา โดยอยู่ที่บ้านพักคลิง7 ปทุมธานี  หลังจากมีปัญหากัน เมียกับลูกคนเล็ก(น้องบลู)อายุ 3 ขวบแยกไปอยู่บ้านแม่ยายที่ปากเกร็ดเมื่อประมาณสิ้นเดือนสิงหาคม

หนุ่มร้องแทบขาดใจ เตือนเมียติดโซเชียล สุดท้าย เมียหอบลูกหนี วอนช่วยตามหา

หลังจากนั้นประมาณ 9 วัน ตนไปรับลูกกับแฟนไปทานอาหารและไปให้อาหารปลาตามปกติ ตนขอดูโทรศัพท์แฟนปรากฏว่ามี การใช้ Line ผิดปกติ มีการแชทคุยแต่ไม่รู้คุยกับใคร ทำให้มีปากเสียงแต่ไม่ถึงกับรุนแรง หลังจากนั้นตนจึงแยกกันอยู่กับภรรยาโดยไปส่งลูกคือน้องบลูวัย 3 ขวบกับเมียที่บ้านแม่ยายแถวปากเกร็ด จนมาถึงวันที่ 7 เวลาประมาณ  01.38 น. ตนได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับแฟนวางสายไป ประมาณ 02.05 น. ตนมาดูวงจรปิดย้อนหลังเห็นแฟนของตนแอบพาลูกหนีออกจากบ้านไป ตนกังวลใจว่าจะหลงกลในโลกออนไลน์หรืออาจจะโดนหลอก แฟนของตนไม่ค่อยทันคนและไม่ค่อยมีเพื่อน ตอนแฟนตนออกไปได้เอาทรัพย์สินติดตัวไปด้วยบางส่วนเป็นทองคำหนัก 2 บาทเงินสดไม่ทราบจำนวน ตนโทรไปไม่รับสายเลยโทรหาน้องชายของแฟนให้ไปดูแต่ไม่เจอ ตนเลยให้แม่ยายช่วยดูกล้องวงจรปิดถึงเห็นว่าหนีออกไปจากบ้าน ก่อนไปขึ้นแท็กซี่ไปลงที่หมู่บ้านราชพฤกษ์ ตอนนี้แฟนออกจากระบบไลน์ออกจากระบบ Facebook ปิดเบอร์โทรศัพท์ ทางญาติไม่มีใครสามารถติดต่อได้ ลูกของตนอายุ 3 ขวบ แฟนไม่มีงานทำลูกก็ยังเล็ก เป็นห่วงเด็กมากจะอยู่จะกินยังไง เขาเป็นคนไม่ทันคน ตนกลัวเรื่องความปลอดภัย จากที่ดูกล้องวงจรปิดขึ้นแท็กซี่ไปลงแถวบ้านของแม่ห่างไปแค่ 1 กิโลเมตร และหาร่องรอยต่อจากตรงนั้นไม่เจอ ตนพยายามไปดูกล้องวงจรปิด และประชาสัมพันธ์คนในหมู่บ้านช่วยตามหาก็ยังไม่มีใครเห็น 

นายบัณฑิต กล่าวต่ออีกว่า ตนอยากทางภรรยามาคุยกันไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ถ้ารักลูกอยากให้มาคุยเรื่องปัญหาว่าจะหาจุดลงตัวตรงไหน เรื่องของผู้ใหญ่ให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ควรจะเป็นห่วงเด็ก ปีหน้าลูกต้องเข้าโรงเรียนไม่ควรจะมาเร่ร่อนแบบนี้ แจ้งความตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.66 จนวันนี้วันที่ 22 ก.ย.66 ยังไม่มีอะไรคืบหน้า มันอาจจะดูเป็นเคสเล็กๆสำหรับต.ร.แต่สำหรับคนที่เป็นพ่อคน มันดูยิ่งใหญ่มาก ต้องมาเดินหาเบาะแสและวงจรปิดคนเดียว อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยหาภรรยากับลูกสาวตนเป็นพ่ออยากเจอลูกมากเลี้ยงมาตั้งแต่ 1 เดือน กลางคืนขับรถแท็กซี่กลางวันเลี้ยงลูกต้องกัดฟันสู้มาตลอด