ลูกช้างติดหล่ม นั่งตาแป๋วรอจนท.ช่วย ขึ้นมาได้ใจฟู ขอบคุณนะพี่นุด

เรื่องราวน่ารักๆที่จะทำให้คุณใจฟู เมื่อลูกช้างป่าติดหล่มโคลนขึ้นมาเองไม่ได้ นั่งหน้าซึมตาแป๋วรอเจ้าหน้าที่มาช่วย พอขึ้นมาได้ก็เลยเกิดเป็นภาพชวนอมยิ้ม เจ้าตัวเล็กเหมือนพยายามจะขอบคุณที่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือให้ขึ้นมาได้ สุดท้ายกลับโขลงอย่างปลอดภัย

 

 

 

 

วันที่ 16 มกราคม 2567 ที่ผ่านมาเพจเฟซบุ๊ก สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) โพสต์เหตุการณ์ช่วยเหลือลูกช้างป่าติดบ่อโคลน แม่ช้างพยายามช่วยเหลือแล้วแต่ก็ไม่สามารถช่วยลูกน้อยขึ้นมาได้ เจ้าหน้าที่จึงได้รอจังหวะที่แม่ช้างอยู่ห่างออกไปรีบเข้าไปช่วยลูกช้างน้อยขึ้นมา

ภาพที่เห็นสุดน่าเอ็นดู ลูกช้างนั่งอยู่ในบ่อโคลนตาแป๋วเหมือนกำลังบอกว่าช่วยหนูด้วย เจ้าหน้าที่เฝ้ารออยู่สักพักจนแม่ช้างถอยออกไปจึงรีบเข้าไปช่วยเหลือ

เจ้าตัวเล็กขึ้นมาได้เหมือนจะซาบซึ้งรีบเข้ามาอ้อนเจ้าหน้าที่ยกใหญ่

 

 

ทางเพจโพสต์รายงาน วันที่ 15 มกราคม 2567 นายรณรัตน์ ศิริมากร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาดหมอก รายงานว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ที่ ตม.1 (โนนมะเกลือ) ปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนแบบบูรณาการ ตามแผนการลาดตระเวนกลุ่มป่าภูเขียว-น้ำหนาว ประกอบด้วยอุทยานแห่งชาติตาดหมอก อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว 

 

 

โดยได้รับรายงานจากหัวหน้าชุดลาดตระเวนหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ที่ ตม.1 (โนนมะเกลือ) ว่าเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 14.00 น. ในขณะลาดตระเวนมาถึงบริเวณป่าพรมน้ำใส (โป่งบง) ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว รอยต่ออุทยานแห่งชาติตาดหมอก ท้องที่ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ พบลูกช้าง 1 ตัวจมปลักอยู่ในโคลน และพบแม่ช้างวนเวียนอยู่ใกล้ๆ กัน เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์เป็นระยะเวลาหนึ่ง จนกระทั่งแม่ช้างได้ถอยห่างออกไป ประเมินสถานการณ์แล้วว่าปลอดภัยเจ้าหน้าที่จึงได้ตัดสินใจทำการช่วยเหลือลูกช้าง และพักแรมเพื่อเฝ้าดูโขลงช้างที่วนเวียนอยู่ไม่ไกลกลับมารับลูกช้าง

 

 

ต่อมาวันที่ 12 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 9.00 น. ได้สังเกตพบว่าได้มีโขลงช้างเข้ามาใกล้บริเวณจุดพักและจุดที่ลูกช้างอยู่ ห่างประมาณ 100 เมตร จึงได้รีบถอนกำลังออกจากจุดดังกล่าว เพื่อให้โขลงช้างมารับลูกช้าง เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าสังเกตการณ์จนกระทั่งโขลงช้างเคลื่อนตัวเข้าป่า มั่นใจว่าแม่ช้างเดินกลับมารับลูก จึงออกลาดตระเวนต่อไป 

ขอบคุณเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทุกหน่วยงาน และคนรักช้างทุกคน

 

ขอบคุณ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก)