ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบสาวบัญชีม้าหลอกกู้เงิน เอี่ยวคดีพ่อฆ่ายกครัว 3 ศพ จ.สมุทรปราการ พบหมายจับติดตัว 3 หมายด้วยกัน

วันที่ 25 มีนาคม 2567 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.ธานุพันธ์ สุระสะ สว.กก.1 บก.ปทส. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. ร่วมกันจับกุม นางสาวอภิษฎา อายุ 24 ปี เป็นผู้ต้องหา 3 หมายจับ สาวบัญชีม้าหลอกกู้เงิน เอี่ยวคดีพ่อฆ่ายกครัว 3 ศพ จ.สมุทรปราการ ในข้อหา

 

รวบแล้วสาวบัญชีม้าหลอกกู้เงิน เอี่ยวคดีพ่อฆ่ายกครัว 3 ศพ จ.สมุทรปราการ

รวบแล้วสาวบัญชีม้าหลอกกู้เงิน เอี่ยวคดีพ่อฆ่ายกครัว 3 ศพ จ.สมุทรปราการ

 

1. ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 775/2566 ลงวันที่ 25 กันยายน 2566  ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” ( สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ) ค่าเสียหาย ประมาณ 1.7 ล้านบาท (จับกุมตามหมายจับดังกล่าว)

2. หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.313/2567 ลง 29 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” (สภ.พร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ) ความเสียหาย ประมาณ 2 แสนบาท

3. หมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 228/2567 ลง 20 มีนาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” (สภ.เมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ) ความเสียหาย ประมาณ 1.1 ล้านบาท
 
สถานที่จับกุม บริเวณที่พักแห่งหนึ่งใน ต.สนามจันทร์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม

รวบแล้วสาวบัญชีม้าหลอกกู้เงิน เอี่ยวคดีพ่อฆ่ายกครัว 3 ศพ จ.สมุทรปราการ

 

พฤติการณ์ เมื่อประมาณเดือน ส.ค.2566 ผู้เสียหายพบคนร้ายโพสต์โฆษณาหลอกลวง โดยอ้างว่าสามารถปล่อยเงินกู้ให้ได้เป็นเงินจำนวน 5 เท่าของเงินเดือน ผู้เสียหายเกิดความสนใจที่จะกู้เงินจึงได้กดลิงค์ใต้โพสต์โฆษณาที่คนร้ายโพสต์หลอกลวงไว้ แล้วกรอกข้อมูลส่วนตัวผ่านแพลตฟอร์มของคนร้าย พร้อมแจ้งความประสงค์ยื่นกู้เงิน จำนวน 100,000 บาท 

 

รวบแล้วสาวบัญชีม้าหลอกกู้เงิน เอี่ยวคดีพ่อฆ่ายกครัว 3 ศพ จ.สมุทรปราการ

 

หลังจากที่กรอกข้อมูลลงทะเบียนเสร็จแล้ว ต่อมาไม่นานกลุ่มคนร้ายแจ้งว่า เงินกู้ได้รับการอนุมัติแล้ว และได้ส่งเงื่อนไขในการกู้เงินให้ผู้เสียหายทราบ โดยให้โอนเงินจำนวน 10% ของยอดเงินที่ยื่นกู้ หรือจำนวน 10,000 บาท เพื่อสร้างเครดิตในระบบธนาคาร จึงจะสามารถถอนเงินได้ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินตามคำแนะนำของคนร้าย แต่แล้วกลุ่มคนร้ายไม่โอนเงินกู้ให้กับผู้เสียหายแต่อย่างใด อีกทั้งยังหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินไปแก้ไขข้อขัดข้องของระบบอีกหลายครั้งผู้เสียหายได้โอนไปให้อีกตามคำหลอกลวง สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถกู้เงินได้จริง และเชื่อแน่ว่าจะต้องถูกหลอกลวงได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวน 1,700,320.59 บาท พนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานก่อนขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา

​ทั้งนี้จากเหตุการณ์ฉ้อโกงดังกล่าว เป็นเหตุให้เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2566 สามีของผู้เสียหายตัดสินใจก่อเหตุใช้มีดอีโต้ปลิดชีพคนใครอบครัว เป็นภรรยา (ผู้เสียหาย) อายุ 45 ปี และลูกชายทั้ง 2 คน รวม 3 ศพ ภายในบ้านพัก ในพื้นที่ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ก่อนจะลงมือกับตัวเองหวังตายตาม แต่อาการสาหัส ซึ่งสาเหตุเกิดจากปัญหาหนี้สินที่ฝ่ายสามีไปค้ำประกันรถยนต์ของอดีตนายจ้างและเจ้าของรถไม่ยอมส่งรถ จนโดนฟ้องร้องถึงขั้นถูกกรมบังคับคดีจะมายึดบ้านขายทอดตลาด ก่อนที่สุดท้ายจะเคลียร์กันได้ ทางครอบครัวเตรียมหาเงินไปจ่าย แต่ต้องมาประสบปัญหากรณีที่ภรรยาไปกู้เงินในแอปฯ เพื่อต้องการเงินแค่ 1 แสนบาท แต่กลับถูกหลอกให้โอนเงินไปหลายครั้ง สูญเงินไปประมาณ 1.7 ล้านบาท จนต้องไปกู้เงินเพื่อน รวมทั้งเงินเก็บที่เตรียมไว้เคลียร์หนี้จากการถูกฟ้องร้องดังกล่าว

​ต่อมามีการตรวจสอบเหตุฉ้อโกง พบว่ากลุ่มของคนร้ายคือ นางสาวอภิษฎา ผู้ต้องหา ที่มีหมายจับฉ้อโกง อีก 2 หมายจับ ของสภ.พร้าว จังหวัดเชียงใหม่ และ สภ.เมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น รวมมูลค่ากว่า 1.3 ล้านบาท ​ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปทส. จะทำการสืบสวนจนพบว่า นางสาวอภิษฎาฯ ผู้ต้องหาได้พักอาศัยในพื้นที่จ.นครปฐม พร้อมนำกำลังเข้าจับกุมดังกล่าว นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการเพื่อดำเนินคดีต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้หลอกลวง ไม่ทราบว่าตนเองมีหมายจับ แต่ให้การว่าช่วงประมาณกลางปี 2566 ตนได้เดินไปทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้าน มีบุคคลชักชวนให้ เปิดบัญชีธนาคาร โดยมีค่าเช่าเพื่อตอบแทนในราคา 500 บาทต่อบัญชี