- 26 มิ.ย. 2568
ตำรวจไซเบอร์รวบ 4 หนุ่มบัญชีม้ากดเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยตระเวนกดเงินเฉลี่ย 8-9 แสนต่อวัน สาวถึงระดับสั่งการ
วันที่ 26 มิ.ย. 2568 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. สั่งการให้ตำรวจไซเบอร์ และตำรวจชุดปฏิบัติการสืบสวนตรวจวิเคราะห์ฯ (ศปอส.ตร.) พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ ค 348/2568 เข้าค้นห้องพักในหอพักแห่งหนึ่ง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และจับกุม 4 หนุ่มบัญชีม้าตระเวนกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ วันละ 8-9 แสนบาทต่อวัน
นายนันทพงศ์ อายุ 24 ปี ชาว จ.แม่ฮ่องสอน นายจิรเดช อายุ 19 ปี ชาว จ.แม่ฮ่องสอน นายพัธกานต์ อายุ 21 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ และนายธานินทร์ อายุ 21 ปี ชาว จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมตรวจยึดของกลาง เงินสด 3,960 บาท โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง ไอแพด 1 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 6 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 16 ใบ สมุดจดบันทึกรายการการทำธุรกรรมทางการเงินและอื่นๆ รวม 40 รายการ
สำหรับปฏิบัติการในครั้งนี้ สืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวน กก.1 บก.สอท.2 และกำลังตำรวจชุดปฏิบัติการสืบสวนตรวจวิเคราะห์ฯ (ศปอส.ตร.) ร่วมกันทำการสืบสวนทราบว่ามีขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์รวมตัวกันเป็นกลุ่ม แอบมาเปิดห้องพักในพื้นที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยผู้ร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้ ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้ารับโอนเงินจากเหยื่อที่ถูกหลอกมาเข้าบัญชี จากนั้นได้ตระเวนกดเงินจากตู้เอทีเอ็มที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงที่พัก รวมทั้งมีการสแกนใบหน้าเพื่อทำการถอนเป็นเงินสดจำนวนมาก ก่อนที่จะนำเงินไปส่งต่อให้กับผู้ร่วมขบวนการอื่นอีกทอดหนึ่ง
ต่อมาทางตำรวจชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่หาข้อมูล จนทราบว่าผู้กระทำผิดในกลุ่มขบวนการนี้แอบมาเปิดห้องพักที่หอพักดังกล่าว จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายค้นห้องพักและจับกุมผู้กระทำผิดทั้ง 4 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางไว้ได้ทั้งหมด
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การยอมรับว่าได้เปิดบัญชีม้าให้กับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และสแกนใบหน้าเพื่อกดเงินสดออกจากตู้เอทีเอ็มตามคำสั่งของนายโรจน์ ผู้ร่วมขบวนการระดับหัวหน้าที่คอยสั่งการ ซึ่งเป็นคนไทย โดยจะกระจายกันตระเวนกดเงินรวมกันเฉลี่ย 8-9 แสนบาทต่อวัน มานานกว่า 2 ปี จากนั้นแต่ละคนจะรวบรวมเงินที่กดมาส่งมอบให้กับนายโรจน์เพื่อส่งต่อให้กับชาวจีนอีกทอดหนึ่ง โดยได้รับค่าตอบแทนคนละ 2,000 บาทต่อวัน นอกจากนี้ในการเปิดห้องพักแต่ละครั้ง จะพักอาศัยรอบละประมาณ 2 สัปดาห์ จากนั้นก็จะย้ายที่พักไปหาที่พักแห่งใหม่ เพื่อหลบเลี่ยงการถูกจับกุม ซึ่งตำรวจเตรียมขยายผลในการรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับนายโรจน์ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญ รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องในขบวนการนี้แล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา "ร่วมกันเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย กระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่และสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเป็นซ่องโจร หรือร่วมกันประชุมในที่ประชุมอั้งยี่หรือซ่องโจร" และ "เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาเพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด"






