รู้หรือไม่ โรงพยาบาลพลเรือน คือเขตหวงห้าม อนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 4 ระบุชัดเจน

“กองทัพภาคที่ 2” โพสต์ข้อมูล อนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 4 (1949) มาตรา 18 พบกัมพูชาละเมิด เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และอาจเข้าข่ายเป็นอาชญากรรมสงคราม

 

อนุสัญญาเจนีวา เกี่ยวกับการคุ้มครองบุคคลพลเรือนในยามสงคราม หรือเรียกทั่วไปว่า อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่สี่ (อังกฤษ: Fourth Geneva Convention; ย่อ: GCIV) เป็นอนุสัญญาเจนีวาฉบับหนึ่งจากสี่ฉบับ มีการประกาศใช้ในเดือนสิงหาคม 1949 และมีผลใช้บังคับในเดือนตุลาคม 1950 อนุสัญญาเจนีวาสามฉบับแรกมีเนื้อหาเกี่ยวกับพลรบ ส่วนฉบับที่สี่นี้เป็นฉบับแรกที่ว่าด้วยการคุ้มครองพลเรือนทางมนุษยธรรมในพื้นที่สงคราม ปัจจุบันมีภาคี 196 ประเทศ

 

ในปี 1993 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติยอมรับรายงานจากเลขาธิการสหประชาชาติและคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญซึ่งสรุปว่าอนุสัญญาเจนีวาได้ผ่านเข้าเป็นประชุมกฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศแล้ว ซึ่งทำให้มีผลผูกพันกับผู้ที่มิได้เป็นภาคีอนุสัญญาฯ ไม่ว่าจะทำสงครามกันหรือไม่

 

จากกรณีทหารกัมพูชาใช้จรวดหลายลำกล้อง (BM-21) ยิงใส่พื้นที่เป้าหมายพลเรือนไทย กระสุนส่วนหนึ่งตกใส่โรงพยาบาลพนมดงรัก อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพผู้ป่วยอย่างโกลาหลนั้น

โดยอนุสัญญาเจนีวา ตามศึกสงคราม สถานพยาบาลเป็นสถานที่ต้องห้ามในการโจมตี ตามหลักพื้นฐานของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศนั้น การโจมตีต่อสถานพยาบาลหรือสถานที่ที่ใช้รักษาผู้บาดเจ็บเป็นสิ่งที่ต้องห้ามอย่างชัดแจ้ง เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวไม่ใช่เป้าหมายทางการทหาร มีกฎหมายระหว่างประเทศหลายฉบับที่กล่าวถึงการห้ามการโจมตีต่อสถานพยาบาลต่าง ๆ รวมถึงอนุสัญญาเจนีวาหลายฉบับ ซึ่งมีความตกลงระหว่างประเทศภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศหลายฉบับที่กล่าวถึงหลักการห้ามโจมตีสถานพยาบาล

 

โดยการโจมตีโรงพยาบาลถือเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรง และการกระทำโดยเจตนาถือเป็นอาชญากรรมสงคราม หากประเทศใดละเมิดข้อตกลงดังกล่าวซึ่งอาจจะถูกนำไปฟ้องร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในภายหลัง

 

นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข ยังโพสต์ถึงเหตุการณ์ที่กัมพูชายิงจรวดโจมตีโรงพยาบาลเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่า "รพ. เป็นพื้นที่คุ้มครองตามอนุสัญญาเจนีวา การโจมตี รพ. และประชาชนชาวไทย เป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และอนุสัญญาเจนีอย่างร้ายแรง ถือเป็น อาชญากรรมสงคราม (War Crime) ขอเรียกร้องให้ทุกชาติร่วมกันประณาม" รมว.สมศักดิ์ กล่าว