- 01 ส.ค. 2568
ผลไม้ 6 อย่าง ผู้ป่วยโรคไตจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมอาหารเป็นพิเศษ เพราะการได้รับแร่ธาตุบางชนิดมากเกินไปอาจเป็นอันตรายได้
“ผลไม้ 6 อย่าง” ผู้ป่วยโรคไตจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมอาหารเป็นพิเศษ เพราะการได้รับแร่ธาตุบางชนิดมากเกินไปอาจเป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะผลไม้ 6 อย่างนี้ที่ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัดปริมาณ
ผลไม้ 6 อย่าง ที่ผู้ป่วยโรคไต ควรหลีกเลี่ยง หรือจำกัดปริมาณ ระวังอันตราย ผลไม้ที่ผู้ป่วยโรคไตควรหลีกเลี่ยง ผู้ป่วยโรคไตจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องอาหาร เพราะไตที่ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ จะไม่สามารถขับของเสียและแร่ธาตุส่วนเกินออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ โพแทสเซียม (Potassium) ซึ่งหากมีปริมาณสูงเกินไปในเลือด จะส่งผลเสียต่อการทำงานของหัวใจและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ดังนั้น การเลือกรับประทานผลไม้จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ผู้ป่วยโรคไตจึงควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัดปริมาณผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง ดังต่อไปนี้
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : ผัก ผลไม้ โพแทสเซียมสูง โรคไต ห้ามกิน
ผลไม้ที่ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัดปริมาณ
กล้วย: ถือเป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูงมาก โดยเฉพาะกล้วยหอม การรับประทานกล้วยเพียงผลเดียวก็อาจทำให้ร่างกายได้รับโพแทสเซียมในปริมาณที่เกินความจำเป็นของผู้ป่วยโรคไตได้
ทุเรียน: ได้ชื่อว่าเป็น "ราชาแห่งผลไม้" แต่สำหรับผู้ป่วยโรคไตแล้ว ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีทั้งโพแทสเซียมและฟอสฟอรัสสูงมาก จึงเป็นอันตรายอย่างยิ่งและควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด
ขนุน: เป็นผลไม้อีกชนิดที่มีรสหวานและมีปริมาณโพแทสเซียมสูง การบริโภคขนุนมากเกินไปอาจทำให้ไตต้องทำงานหนักขึ้นและเสี่ยงต่อภาวะโพแทสเซียมสูง
มะพร้าว: ทั้งในส่วนของเนื้อมะพร้าวและน้ำมะพร้าว ล้วนมีปริมาณโพแทสเซียมสูงมาก จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคไตที่ต้องควบคุมระดับโพแทสเซียม
ลำไย ลิ้นจี่ และมะม่วงสุก: ผลไม้เหล่านี้มีปริมาณน้ำตาลและโพแทสเซียมสูง การรับประทานในปริมาณมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้
ผลไม้แห้ง: ไม่ว่าจะเป็นลูกเกด พรุน หรือผลไม้อบแห้งต่างๆ การแปรรูปให้เป็นผลไม้แห้งนั้นจะทำให้ปริมาณโพแทสเซียมเข้มข้นขึ้นมาก จึงต้องหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด
ผลไม้ที่ปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยโรคไต
ในทางกลับกัน ผู้ป่วยโรคไตยังสามารถรับประทานผลไม้ได้ตามปกติ โดยควรเลือกผลไม้ที่มีโพแทสเซียมต่ำ เช่น ชมพู่ สับปะรด แตงโม แอปเปิล มังคุด สาลี่ และองุ่น แต่ก็ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากจนเกินไป
คำแนะนำที่ดีที่สุดคือผู้ป่วยโรคไตควรปรึกษาแพทย์และนักโภชนาการ เพื่อวางแผนการรับประทานอาหารให้เหมาะสมกับสภาวะของโรคในแต่ละบุคคล ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถดูแลสุขภาพไตได้อย่างปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น






