- 08 ก.ย. 2568
"โรคไข้ดิน" ซึ่งเกิดจากแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในดินและน้ำ และสามารถคร่าชีวิตผู้ป่วยได้หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที
รู้จัก "โรคไข้ดิน" ภัยเงียบหน้าฝนที่คนอีสานต้องระวัง
ในช่วงฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับโรคที่มาพร้อมกับน้ำท่วมหรือความชื้น แต่ยังมีอีกหนึ่งโรคอันตรายที่หลายคนไม่รู้จัก นั่นก็คือ "โรคไข้ดิน" ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่คนไทยไม่ค่อยรู้จักและสามารถคร่าชีวิตผู้ป่วยได้หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที
โรคไข้ดินคืออะไร? ดร.อาภาลักษณ์ ปาติยเสวี อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเมลิออยโดสิส หรือโรคไข้ดิน ได้อธิบายว่า โรคนี้เกิดจากแบคทีเรียชื่อ Burkholderia pseudomallei ซึ่งพบได้มากในดินและน้ำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการทำการเกษตรและมีน้ำขังบ่อยครั้งอย่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ทำไมถึงพบมากในฤดูฝน? โดยปกติแล้วแบคทีเรียชนิดนี้จะอยู่ในชั้นใต้ดิน แต่ในช่วงฤดูฝนที่น้ำพัดพาหน้าดินออกไป ทำให้แบคทีเรียที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาสู่ผิวดิน คนจึงมีโอกาสติดเชื้อได้มากขึ้นจากการสัมผัสทางผิวหนัง การดื่มน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน หรือการสูดละอองฝุ่นที่มีเชื้อเข้าสู่ร่างกาย
อาการเป็นอย่างไร และทำไมถึงอันตราย? โรคไข้ดินได้รับการขนานนามว่าเป็น "โรคขี้เลียนแบบ" เพราะอาการมีความคล้ายคลึงกับโรคอื่นๆ เช่น วัณโรค หรือโรคปอด ทำให้วินิจฉัยได้ยาก ผู้ป่วยจะมีอาการตั้งแต่มีไข้ธรรมดาไปจนถึงไข้สูง ไอ ปวดเมื่อยตัว หายใจเหนื่อยหอบ และอาจมีฝีขึ้นตามอวัยวะต่างๆ เช่น ผิวหนัง ปอด ตับ หรือม้าม
ที่น่ากังวลคือ หากผู้ป่วยมีโรคประจำตัวอย่างเบาหวาน ไตวายเรื้อรัง หรือปอดบวมร่วมด้วย ก็จะยิ่งทำให้อาการรุนแรงขึ้น และอาจลุกลามเข้าสู่กระแสเลือดจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยปัจจุบันมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงกว่า 30% จึงเป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวังอย่างยิ่ง
ขอบคุณข้อมูลจาก: กรุงเทพธุรกิจ






