ว่อนเตือน "ผู้หญิงห้ามยืนฉี่ตอนอาบน้ำ" ล่าสุด ความจริงชัดแล้ว

อ.เจษฎ์ ชี้ชัด! ข่าวลือ “ยืนฉี่ตอนอาบน้ำทำกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแอ” เป็นข้อมูลเท็จ ยันไม่มีหลักฐานทางการแพทย์รองรับ

"อ.เจษฎ์ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ข้อ ระบุว่า

"ยืนฉี่ตอนอาบน้ำ ไม่ได้ทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน อ่อนแอ "

มีรายงานข่าวเกี่ยวกับสาวคนหนึ่ง โพสต์คลิปเตือนว่า ตัวเองป่วยเป็น “โรคกระเพาะปัสสาวะไวเกิน” เพราะชอบยืนฉี่ตอนอาบน้ำตั้งแต่เด็ก ดังนั้น ผู้หญิงจึงห้ามยืนฉี่แบบผู้ชาย

ซึ่งไม่จริงนะครับ ! เคยมีการเตือนกันมาก่อนนี้แล้ว ว่าที่เชื่อกันว่า "ห้ามผู้หญิงยืนฉี่ตอนอาบน้ำ เพราะจะทำให้กล้ามแนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแอ" นั้นเป็นข่าวปลอมครับ ... และถึงแม้ว่า "โรคกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน" จะมีจริง แต่ก็ไม่ได้มีการระบุไว้ว่าสาเหตุมาจากการยืนฉี่ตอนอาบน้ำครับ (แถมมีแพทย์ในต่างประเทศ ยืนยันว่าสามารถทำได้ ไม่มีปัญหา)

#คลิปติ๊กต๊อกอ้างเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะจากการยืนฉี่

- ผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง ออกมาเตือนว่า “หยุดยืนฉี่ตอนอาบน้ำ ก่อนจะสายเกินไป” โดยเล่าประสบการณ์การเป็น “โรคกระเพาะปัสสาวะไวเกิน” ซึ่งอ้างว่า มีสาเหตุหลักจากการชอบยืนฉี่ตอนอาบน้ำ ทำแบบนี้มาตั้งแต่เด็กจนโต

- หมอวินิจฉัยเธอว่า เป็นโรคกระเพาะปัสสาวะไวเกิน คือ ฉี่บ่อย ฉี่ทุก 2-3 ชั่วโมง หรือแม้แต่เพิ่งฉี่ไป แต่ก็ยังปวดอีก .. เวลาได้ยินเสียงน้ำ ก็ปวดฉี่ ฝนตกก็ปวดฉี่ อะไรที่เป็นเสียงน้ำไหล ก็มักจะปวดฉี่ ... ทุกตี 3 – ตี 4 ต้องลุกขึ้นมาฉี่ตลอด เป็นแบบนี้มานาน 2 ปี จึงต้องตัดสินใจไปหาหมอ และคุณหมอบอกว่า ควรมาให้เร็วกว่านี้ และโชคดีที่รักษาทัน

#ข่าวปลอมเรื่องห้ามยืนฉี่เวลาอาบน้ำ

- ตามที่มีข้อมูลคำเตือน "ให้ระวังกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแรง หากยืนฉี่ตอนอาบน้ำ สมองจดจำฉี่เมื่อได้ยินเสียงน้ำ" ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

- คำแนะนำดังกล่าว ไม่มีการยืนยันทางวิชาการทางการแพทย์ว่า สาเหตุดังกล่าว จะทำให้เกิดกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแรง และการอ้างถึงว่า สมองจดจำการฉี่เมื่อได้ยินเสียงน้ำ ก็เป็นการอนุมานเทียบเคียงจากการศึกษาอื่น ที่ไม่ได้เป็นการศึกษาจากสาเหตุการยืนปัสสาวะ ขณะอาบน้ำโดยตรง

- ดังนั้น ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าว ต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ

#สาเหตุของโรคกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน

-ภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน หรือโอเอบี (overactive bladder หรือ OAB) เป็นอาการผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง (Lower urinary tract symptoms) ที่เกิดขึ้นได้กับทั้งเพศชายและเพศหญิง

- โดยทั่วไปพบ 2 กลุ่มอาการ คือ

1. อาการผิดปกติในการเก็บน้ำปัสสาวะ ผู้ป่วยเก็บน้ำปัสสาวะได้ไม่นาน หรือเก็บน้ำปัสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะเล็ด ราด

2. กลุ่มอาการขับน้ำปัสสาวะออกได้ลำบาก ทำให้ผู้ป่วยต้องใช้เวลาในการปัสสาวะแต่ละครั้งนาน ออกลำบาก และมีความรู้สึกเหลือค้าง

- จัดเป็นกลุ่มโรคเรื้อรัง ผู้ป่วยยังคงต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง หากได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างถูกต้องและเหมาะสม พบสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ ผู้ป่วยก็อาจจะมีโอกาสหายขาดได้

#สาเหตุของภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน

สาเหตุที่แน่ชัดยังไม่ทราบ แต่เชื่อกันว่าน่าจะเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

- การควบคุมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะไม่พัฒนา การขับถ่ายปัสสาวะจึงยังเป็นเหมือนของทารกหรือเด็กอ่อน ซึ่งอาจเป็นความผิดปกติที่สมอง ไขสันหลังหรือที่กระเพาะปัสสาวะเอง

- การเสื่อมสภาพการควบคุมการถ่ายปัสสาวะตามอายุ เนื่องจากโรคนี้พบมากในคนสูงอายุ

- กล้ามเนื้อที่รองรับอวัยวะในอุ้งเชิงกรานและท่อปัสสาวะ มีการทำงานที่ผิดปกติ

- ตัวกล้ามเนื้อของกระเพาะปัสสาวะเอง มีการทำงานที่ผิดปกติ

- มีการอุดกั้นทางเดินของน้ำปัสสาวะที่บริเวณคอของกระเพาะปัสสาวะ

เกิดขึ้นเองภายหลังการผ่าตัดในอุ้งเชิงกราน โดยเฉพาะการผ่าตัดรักษาภาวะปัสสาวะเล็ด

#แพทย์ต่างประเทศชี้ผู้หญิงฉี่ตอนอาบน้ำได้ แถมมีข้อดี

- ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะ ชาวต่างชาติบางคน ได้ออกมาสนับสนุนให้ผู้หญิงปัสสาวะในขณะที่อาบน้ำ เนื่องจากน้ำอุ่นสามารถผ่อนคลายกล้ามเนื้อหูรูด และลดแรงกดทับในกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งว่ากันว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ

- ตามรายงานของสื่อต่างประเทศ CNN ระบุว่า “Karyn Eilber” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะจากศูนย์การแพทย์ Cedars-Sinai ในลอสแอนเจลิส ได้ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับข่าวลือที่ว่า การปัสสาวะขณะอาบน้ำจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเขาได้วิเคราะห์จากมุมมองทางสุขภาพว่า การปัสสาวะขณะอาบน้ำไม่มีผลเสียต่อสุขภาพ และส่วนใหญ่แล้ว มันสะดวกมาก

- เช่นเดียวกับ “David Shusterman” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะอีกท่านหนึ่งจากนิวยอร์ก กล่าวว่า สภาพแวดล้อมที่อบอุ่นในขณะอาบน้ำ ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย และทำให้ปัสสาวะออกได้ตามธรรมชาติ ซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงการปัสสาวะที่ต้องออกแรง ซึ่งอาจทำให้กล้ามเนื้อและกระเพาะปัสสาวะได้รับความกดดัน

- เมื่อคนเราปัสสาวะ กล้ามเนื้อหูรูดในท่อปัสสาวะและกล้ามเนื้อหูรูดภายนอก จะทำหน้าที่ควบคุมการไหลของปัสสาวะจากกระเพาะปัสสาวะ การออกแรงอาจทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหดตัว และทำให้ปัสสาวะออกได้ยาก ดังนั้น การปัสสาวะในสภาพแวดล้อมที่อุ่นและผ่อนคลาย จึงดีต่อสุขภาพมากกว่า

- แต่ผู้เชี่ยวชาญยังเน้นย้ำว่า มีกรณีหนึ่งที่ไม่แนะนำให้ปัสสาวะขณะอาบน้ำ “ห้ามปัสสาวะ ในขณะแช่อ่างอาบน้ำ” เนื่องจากน้ำอุ่นเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรียและเชื้อรา หากปัสสาวะขณะแช่น้ำ จะทำให้แบคทีเรียเข้าสู่ท่อปัสสาวะ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในท่อปัสสาวะ