เผยวิธีแยก "มะเร็งกระดูก-ออฟฟิศซินโดรม" หมอ เผยชัด สำคัญมาก

ปวดหลัง ปวดคอ ปวดไหล่ อย่าคิดแค่ว่า “ออฟฟิศซินโดรม” หมอเตือน ถ้าเจอสัญญาณแบบนี้ เสี่ยงมะเร็งกระดูก! อย่ามองข้ามเด็ดขาด

"หมอเจดนพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า 

1. อาการปวดที่ดูคล้าย แต่จริง ๆ ไม่เหมือนกัน

ใครที่ทำงานออฟฟิศ นั่งหน้าคอมทั้งวัน ก็คงเคยปวดคอ ปวดหลัง ปวดไหล่ จนแอบคิดในใจว่า "เอ๊ะ! หรือเราจะเป็นโรคร้ายแรงอย่างมะเร็งกระดูก?"

จริง ๆ แล้ว ออฟฟิศซินโดรม มันเกิดจากท่านั่งไม่ถูกต้อง ใช้กล้ามเนื้อนานเกินไป เลยปวดเมื่อย ตึง ๆ แบบที่พอพัก ลุกเดิน ขยับตัว หรือนวดแล้วอาการก็ดีขึ้น

ส่วน มะเร็งกระดูก ปวดจะต่างออกไป คือ ปวดลึก ปวดเฉพาะจุด ปวดกลางคืนจนตื่น

หรือแม้พักก็ไม่หาย บางคนปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่รู้สาเหตุ → ต้องเริ่มสงสัยแล้วครับ

แต่อยากบอกว่า ปวดจากกล้ามเนื้อเจอบ่อยกว่ามะเร็งกระดูกหลายเท่า เพราะฉะนั้นไม่ต้องตกใจจนเกินไป

2. จุดสังเกตที่ช่วยแยกได้

ออฟฟิศซินโดรม

•ปวดเมื่อใช้งาน นั่งนาน ๆ

•พอเปลี่ยนท่า ยืดเส้น ลุกเดินแล้วดีขึ้น

•ปวดกระจายไปทั่วกลุ่มกล้ามเนื้อ (เช่น ทั้งหลัง ทั้งไหล่)

•ไม่ค่อยปวดตอนกลางคืน

มะเร็งกระดูก:

•ปวดต่อเนื่อง โดยเฉพาะตอนกลางคืน (อาจตื่นจากการปวด)

•ปวดลึก เฉียบขาด และเฉพาะจุดมากกว่า

•บางทีมีก้อนแข็ง ๆ โผล่มาตามกระดูก

•อยู่ ๆ กระดูกก็หักง่าย ทั้งที่ไม่ได้ล้มแรงอะไร (pathologic fracture)

•ปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะพักผ่อน

•บางทีปวดเมื่อสัมผัสหรือกดที่กระดูก

พูดง่าย ๆ คือ ถ้าปวดแบบ "มีเหตุผลชัดเจน" และ "พักแล้วดีขึ้น" มักจะเป็นออฟฟิศซินโดรม

แต่ถ้าปวดแบบ "ค่อยเป็นค่อยไป ทวีความรุนแรงขึ้น" และ "ไม่มีเหตุ ไม่มีผล" ต้องไม่มองข้าม

3. ทำไมถึงต่างกัน?

ออฟฟิศซินโดรม = กล้ามเนื้อถูกใช้งานผิดวิธีนานเกินไป กลายเป็นอักเสบเล็ก ๆ หรือเกิดจุดกดเจ็บ เวลาพักมันก็คลายลง

มะเร็งกระดูก = เป็นเรื่องของเซลล์ที่ผิดปกติ มันโตเป็นก้อนแล้วไปทำลายเนื้อกระดูกปกติ → เลยทำให้ปวดลึก ๆ และกระดูกอ่อนแอ เปราะกว่าปกติ

จะเห็นว่าต้นเหตุต่างกันชัดเจน อันหนึ่งคือกล้ามเนื้อเมื่อยล้า แต่อีกอันคือโรคร้ายที่เกิดจากเซลล์

4. การตรวจที่หมอใช้แยก

เวลาไปหาหมอด้วยอาการปวดหลัง ปวดคอ หมอจะเริ่มจากซักประวัติและตรวจร่างกายก่อน ถ้าดูแล้วเข้าข่ายออฟฟิศซินโดรม ก็มักไม่ต้องตรวจอะไรเพิ่ม

แต่ถ้ามีอาการเข้าข่ายมะเร็งกระดูก หมอจะส่งตรวจ

•X-ray เพื่อดูโครงสร้างกระดูก

•MRI หรือ CT scan เพื่อดูรายละเอียดเนื้อเยื่อ

•บางรายต้องเจาะชิ้นเนื้อ (biopsy) มายืนยันเลย

เพราะฉะนั้นถ้าเป็นออฟฟิศซินโดรม ผลตรวจจะปกติ แต่ถ้าเป็นมะเร็งกระดูก มักจะเจอความผิดปกติให้เห็นตั้งแต่แรก ๆ

5. แล้วเราควรทำยังไง?

ถ้าปวดแบบรู้สาหตุเช่น นั่งนาน พิมพ์งานเยอะ

•ลองปรับท่านั่ง ขยับตัวบ่อย ๆ

•ยืดเส้น นวด ออกกำลังเบา ๆ

•สังเกตอาการ 1-2 สัปดาห์ ว่าดีขึ้นไหม

แต่ถ้าเจออาการเหล่านี้ ต้องรีบไปหาหมอ

•ปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่รู้สาเหตุ

•ปวดกลางคืนจนตื่น หรือปวดแม้ขณะพัก

•มีก้อนแข็งคลำได้ตามกระดูก

•กระดูกหักง่าย โดยไม่ได้มีการกระทบกระเทือนรุนแรง

•ปวดเมื่อสัมผัสหรือกดที่กระดูก

•มีอาการอื่น ๆ ร่วม เช่น ไข้ น้ำหนักลด

อย่าลืม: การไปหาหมอเพื่อ "ตัดความกังวล" ออกไปก็สำคัญมาก ถ้าเป็นจริง ๆ จะได้เจอตั้งแต่ระยะแรก ซึ่งมีโอกาสรักษาได้ผลดีกว่าเยอะ

สรุปนะครับว่า อาการปวดกล้ามเนื้อจาก ออฟฟิศซินโดรม พบได้บ่อยกว่ามะเร็งกระดูกมาก ๆ

และส่วนใหญ่แก้ได้ด้วยการปรับพฤติกรรม เช่น ขยับบ่อย ๆ ยืดเส้น ออกกำลังเบา ๆ

แต่สิ่งที่อยากย้ำคือ อย่ามองข้ามสัญญาณผิดปกติ โดยเฉพาะปวดแบบลึก ปวดกลางคืน ปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ หรือมีก้อนที่กระดูก อันนี้ต้องรีบไปหาหมอ

เพราะสุดท้ายแล้ว การตรวจให้แน่ชัดจะช่วยตัดความกังวลออกไป บางทีสิ่งที่เราคิดว่าเป็นโรคร้าย

อาจเป็นแค่กล้ามเนื้อเมื่อยล้าธรรมดา แต่ถ้าเผื่อไว้แล้วเจอตั้งแต่เนิ่น ๆ จริง ๆ ก็ยิ่งมีโอกาสรักษาได้ผลดีครับ

เพราะฉะนั้น ถ้าปวดแบบรู้สาเหตุ ก็อย่าเพิ่งเครียดเกินไป แต่ถ้าอาการมันแปลกกว่าที่เคย ให้รีบไปหาหมอครับ

ใครมีคำถามคอมเมนต์ไว้ได้เลยนะ

เผยวิธีแยก มะเร็งกระดูก-ออฟฟิศซินโดรม หมอ เผยชัด สำคัญมาก