นักร้องดัง ป่วย "เกาต์" ตั้งแต่อายุน้อย "หมอเจด" เผยแล้ว เพราะอะไร

มิว MEYOU นักร้องดัง เผยป่วยเกาต์ตั้งแต่อายุน้อย น้ำหนักลดเกือบ 10 กิโลจนขึ้นคอนเสิร์ตแทบยืนไม่ไหว โรคนี้ไม่ได้เกิดกับคนแก่เท่านั้น!

"หมอเจดนพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า 

ช่วงนี้หลายคนคงเห็นข่าวและคลิปสัมภาษณ์ของ มิว MEYOU ที่ออกมาเล่าเรื่องสุขภาพของตัวเองว่าเป็น “เกาต์

ทั้งที่ยังอายุไม่มาก เขาเล่าว่าต้องคอยระวังเรื่องอาหาร กินมั่วไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะปวดตามข้อทันที

แถมมีช่วงหนึ่งน้ำหนักลดไปเกือบ 10 กิโลจากโรคนี้ จนบางครั้งขึ้นคอนเสิร์ตแทบเดินไม่ไหว ต้องนั่งเก้าอี้ร้องเพลงแทน

เรื่องนี้ทำให้หลายคนตกใจว่า “เกาต์ไม่ใช่โรคของคนแก่เหรอ?”

จริงๆ อายุน้อยก็เป็นเกาต์ได้จริง ๆ และอาการอาจรุนแรงจนกระทบชีวิตประจำวันเลยทีเดียว

วันนี้ผมจะเล่า 5 เรื่องง่าย ๆ ที่ควรรู้เกี่ยวกับ “เกาต์ในคนอายุน้อย”

1. เกาต์คืออะไร แล้วทำไมหนุ่มสาวก็เป็นได้

เวลาได้ยินว่า “เกาต์” หลายคนคงนึกถึงลุง ๆ ป้า ๆ ที่ข้อบวมแดง

แต่ความจริงเกาต์คือ โรคข้ออักเสบที่เกิดจากกรดยูริกในเลือดสูง จนตกผลึกไปสะสมตามข้อ ทำให้ข้ออักเสบ เจ็บ บวม

กรดยูริกเกิดจากการสลายสารที่ชื่อว่า พิวรีน ซึ่งมีทั้งในอาหาร (เช่น เนื้อแดง เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล)

และที่ร่างกายเราสร้างเอง พอร่างกายสร้างเยอะหรือไตขับออกไม่ทัน เลือดยูริกก็สูงขึ้น

แล้วทำไมคนอายุน้อยก็เป็นได้?

•ชอบกินปิ้งย่าง ชาบู เบียร์ → ยูริกพุ่ง

•กินน้ำหวานและขนมบ่อย ๆ โดยเฉพาะที่มี ฟรุกโตสสูง (น้ำอัดลม น้ำผลไม้กล่อง เครื่องดื่มชูกำลัง) → เรื่องนี้ผมอยากเน้นนะครับ

พวกนี้มันกระตุ้นให้ร่างกายสร้างยูริกมากขึ้นแบบรวดเร็ว หลายคนไม่รู้ว่าน้ำหวานก็เป็นตัวการเหมือนกัน

•นอนดึก เครียด ทำให้ไตทำงานไม่ดี

•ถ้าในครอบครัวมีประวัติ → โอกาสสูงขึ้น อย่างมิว MEYOU เคยให้สัมภาษณ์ว่า

ตรวจพบกรดยูริกในเลือดสูงจากกรรมพันธุ์ จนป่วยเป็นเกาต์นะครับ

•คนที่น้ำหนักเกินหรืออ้วนลงพุง → อินซูลินสูง ทำให้ยูริกขับออกไม่ดี

2. อาการมันเจ็บแบบไหน?

บางคนอาจคิดว่า “ก็ปวดข้อธรรมดาแหละ”

แต่จริง ๆ ไม่ใช่เลย อาการเกาต์เฉียบพลันคือ เจ็บแบบสุด ๆ จนเดินไม่ได้

เหมือนที่น้องมิวเล่าว่า เวลาขึ้นคอนเสิร์ตบางครั้งถึงขั้นต้องนั่งเก้าอี้ร้องเพลง เพราะเจ็บข้อจนเดินไม่ไหว

และที่น่าตกใจคือ ช่วงหนึ่งน้ำหนักลดไปเกือบ 10 กิโล เพราะต้องคุมอาหาร

แต่ไม่ได้จะให้กลัวนะ ถ้าเราเลือกกินดีๆ จะไม่เกิดปัญหาอะไร

ลักษณะอาการหลัก ๆ คือ

•ข้อบวม แดง ร้อน เจ็บมาก มักเริ่มที่โคนนิ้วโป้งเท้า

•มักเกิดตอนกลางคืน → ตื่นมาเดินไม่ไหว

•เจ็บแบบเฉียบพลัน แตกต่างจากข้อเสื่อมหรือข้อรูมาตอยด์ที่ค่อย ๆ เป็น

3. การรักษา = ไม่ใช่แค่กินยาเวลาเจ็บ

หลายคนพอหายปวดก็หยุดยา แต่จริง ๆ เกาต์เป็นโรคเรื้อรัง ต้องคุมระยะยาว

•ช่วงปวดเฉียบพลัน: หมอมักให้ยาลดอักเสบ เช่น NSAIDs, Colchicine หรือบางครั้งสเตียรอยด์ เพื่อลดบวมแดงทันที

•การคุมระยะยาว: ใช้ยาลดยูริก เช่น Allopurinol หรือ Febuxostat เพื่อลดความเสี่ยงการกำเริบ

สิ่งที่คนชอบพลาดคือ “กินยาตอนเจ็บ แล้วหยุดเอง” → ยูริกยังสูงอยู่ ผลึกก็ยังสะสมอยู่ → สุดท้ายปวดซ้ำ และข้อจะเสียหายเรื่อย ๆ

4. อาหารกับเกาต์ = ไม่ได้ห้ามทุกอย่าง แต่ต้องเลือกให้ถูก

สิ่งที่ทำให้หลายคนเครียดคือ “เป็นเกาต์แล้วกินอะไรไม่ได้เลย”

แต่จริง ๆ ไม่ได้โหดขนาดนั้น เพียงแค่ต้อง เลือกกินอย่างมีสติ

อย่างมิวก็เล่าว่า หลังเป็นเกาต์ต้องลดปริมาณอาหารลง และคอยระวังเมนูที่เสี่ยง

ถ้าวันไหนเผลอกินมั่ว ๆ ก็ปวดข้อขึ้นมาทันที นี่แหละคือภาพชัด ๆ ว่าการเลือกกินสำคัญจริง ๆ

• ที่ควรเลี่ยงจริง ๆ: เครื่องในสัตว์, เนื้อแดงเยอะ ๆ, กุ้ง หอย, เบียร์และเหล้า,

รวมถึงน้ำหวานและเครื่องดื่มที่มีฟรุกโตสสูง (เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้กล่อง)

• ที่ยังโอเค: ข้าวกล้อง, อกไก่, ปลา (ส่วนใหญ่กินได้), ผักผลไม้, ถั่วบางชนิด

• เคล็ดลับ: ดื่มน้ำเยอะ ๆ ช่วยให้ยูริกถูกขับออกง่ายขึ้น

5. เกาต์ไม่ใช่แค่เรื่องข้อ แต่เป็นสัญญาณสุขภาพ

หลายคนมองว่าเกาต์คือโรคข้ออย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้วมันเชื่อมโยงกับโรคเรื้อรังอื่น ๆ ด้วย

•คนที่เป็นเกาต์มักมีความเสี่ยง ความดัน เบาหวาน ไขมันสูง

•เสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดมากกว่าคนปกติ

•ถ้าไม่คุมเรื้อรัง อาจมี ก้อนโทฟัส (Tophus) ข้อผิดรูป และไตเสื่อมได้

พูดง่าย ๆ เกาต์คือ “สัญญาณเตือน” ว่าร่างกายเรามีปัญหาด้านเมตาบอลิซึม ไม่ใช่แค่ข้อเท่านั้น

เคสของ มิว MEYOU เป็นตัวอย่างชัด ๆ ว่าเกาต์ไม่ใช่โรคของคนแก่เท่านั้น

แต่อายุน้อยก็เป็นได้ และอาการอาจหนักจนใช้ชีวิตลำบากจริง ๆ

สิ่งสำคัญคือ เกาต์เป็นโรคเรื้อรังที่ต้องคุมต่อเนื่อง ไม่ใช่รอให้เจ็บแล้วค่อยกินยา

การเลือกอาหาร การพักผ่อน และการดูแลสุขภาพโดยรวมมีผลต่ออาการมากพอ ๆ กับการใช้ยาเลย

ถ้าช่วงนี้ใครเริ่มมีอาการข้อบวมแดง เจ็บเฉียบพลัน อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็กนะครับ

แนะนำให้ไปหาหมอ ตรวจเลือดยูริก และรับคำแนะนำที่ถูกต้อง จะได้เริ่มดูแลตั้งแต่ต้น

ไม่ต้องรอให้เป็นหนักจนข้อเสียหายหรือกระทบชีวิตประจำวัน

เกาต์ดูน่ากลัว แต่ถ้าเข้าใจและจัดการถูกวิธี มันก็เป็นโรคที่ควบคุมได้ครับ

ใครมีคำถามคอมเมนต์ได้เลยนะ

นักร้องดัง ป่วย เกาต์ ตั้งแต่อายุน้อย หมอเจด เผยแล้ว เพราะอะไร