จับอาการ "แมวบ้า-หมาบ้า" ให้ทัน เช็กสัญญาณเตือน 3 ระยะโรคพิษสุนัขบ้า ก่อนสายเกินแก้

เตือน 3 ระยะโรคพิษสุนัขบ้า เพราะโรคพิษสุนัขบ้าอันตรายถึงชีวิต การรู้จักสังเกตพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของสัตว์เลี้ยงและสัตว์จรจัด จึงเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดให้กับตัวคุณเองและคนที่คุณรัก

เตือน “3 ระยะโรคพิษสุนัขบ้า” มาดูกันว่า "หมาบ้า" หรือ "แมวบ้า" ที่ติดเชื้อไวรัสนี้ จะมีอาการเตือนอย่างไรในแต่ละระยะ เพื่อให้คุณหลีกเลี่ยงและรับมือได้อย่างถูกต้อง

เช็กสัญญาณเตือน 3 ระยะโรคพิษสุนัขบ้า ก่อนสายเกินแก้

วิธีสังเกตอาการโรคพิษสุนัขบ้าในสุนัขและแมว (แบ่งตามระยะ)

อาการของสัตว์ที่ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลัก คือ แบบดุร้าย และ แบบซึม โดยแสดงออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้

 

1. ระยะเริ่มแรก (Prodromal Stage)

เป็นระยะที่สังเกตยากที่สุด กินเวลาประมาณ 2-3 วัน สัตว์จะมีอาการคล้ายป่วยทั่วไป:

อารมณ์เปลี่ยน: สัตว์ที่เคยเป็นมิตรอาจเริ่มเก็บตัว ซึม หรือหลบซ่อน ในขณะที่สัตว์ขี้อายอาจกล้าแสดงออกมากขึ้น

อ่อนเพลีย: มีไข้ต่ำ ๆ เบื่ออาหาร ไม่ยอมกินน้ำ หรือกินอาหารลำบาก

คันผิดปกติ: สัตว์อาจเลียหรือกัดบริเวณที่เคยถูกกัดอย่างซ้ำ ๆ แม้แผลจะหายแล้ว

 

2. ระยะตื่นเต้น/ดุร้าย (Furious Stage)

เป็นระยะที่อันตรายที่สุด กินเวลาประมาณ 1-7 วัน สัตว์จะแสดงอาการทางระบบประสาทที่ชัดเจน:

ก้าวร้าวรุนแรง: หงุดหงิดง่าย กระสับกระส่าย พยายามไล่กัดคน สัตว์อื่น หรือแม้กระทั่งสิ่งของโดยไม่มีสาเหตุ

หวาดกลัวผิดปกติ: ไวต่อแสง เสียง หรือการสัมผัสเนื้อตัว

น้ำลายไหล: น้ำลายไหลยืดหรือมีฟองที่ปาก เนื่องจากกล้ามเนื้อที่ใช้ในการกลืนเป็นอัมพาต ทำให้ไม่สามารถกลืนน้ำลายได้

เสียงเปลี่ยน: เสียงเห่าหรือเสียงร้องจะแหบพร่า หรือเปลี่ยนไปจากเดิม
 

เช็กสัญญาณเตือน 3 ระยะโรคพิษสุนัขบ้า ก่อนสายเกินแก้

3. ระยะอัมพาต (Paralytic Stage)

เป็นระยะสุดท้ายที่นำไปสู่การเสียชีวิต กินเวลา 2-4 วัน (ในบางรายอาจข้ามระยะดุร้ายและเข้าสู่ระยะนี้อย่างรวดเร็ว คือ แบบซึม):

กล้ามเนื้ออ่อนแรง: เริ่มจากขาหลังเดินเซ ไม่มีแรง เดินโซเซ หรือล้มแล้วลุกไม่ขึ้น

ขากรรไกรห้อย: ขากรรไกรล่างอ่อนแรง ทำให้ปิดปากไม่ได้ หรือ ลิ้นห้อยแห้ง

กลืนไม่ได้: อาการน้ำลายไหลยิ่งชัดเจนขึ้น

เสียชีวิต: เมื่ออัมพาตลามไปยังกล้ามเนื้อที่ควบคุมระบบหายใจ สัตว์จะเสียชีวิตในที่สุด โดยปกติจะไม่เกิน 10 วันนับจากเริ่มแสดงอาการ

 

สิ่งที่ต้องทำเมื่อพบสัตว์สงสัย

หากคุณสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ในสุนัขหรือแมว ทั้งสัตว์เลี้ยงของคุณหรือสัตว์จรจัด:

ห้ามเข้าใกล้/สัมผัสเด็ดขาด: เนื่องจากไวรัสจะอยู่ในน้ำลายของสัตว์

กักบริเวณ: หากเป็นสัตว์เลี้ยงของคุณ ให้กักบริเวณไว้เพื่อสังเกตอาการ

แจ้งเจ้าหน้าที่: รีบแจ้งปศุสัตว์อำเภอ หรือหน่วยงานควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ทันที

 

และที่สำคัญที่สุดคือ อย่าลืมนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นประจำทุกปี เพื่อความปลอดภัยของทุกคนในบ้าน