- 16 ต.ค. 2568
“หมอเจด” โพสต์ข้อความ เตือนอาการ “เยี่ยวไม่สุด” อย่ามองข้าม! อาจเป็นสัญญาณมะเร็งทางเดินปัสสาวะ หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน
"หมอเจด" นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า
ช่วงนี้มีใครรู้สึกไหมครับว่า เวลาเยี่ยวทีไร...มันไม่สุด ต้องเบ่งนาน
หลายคนมักคิดว่า “แค่กลั้นบ่อย ดื่มน้ำน้อย เดี๋ยวก็หาย”
จริง ๆ แล้ว “เยี่ยวไม่สุด” อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าระบบทางเดินปัสสาวะของเรากำลังมีปัญหา บางเคสถึงขั้นเป็นโรคที่ต้องรีบรักษาเลยก็มี โดยเฉพาะถ้าเกี่ยวข้องกับ “มะเร็ง”
วันนี้ผมจะเล่าให้ฟังครับว่า อาการแบบไหน “น่ากลัว” และควรรีบไปหาหมอ
พร้อมแนวทางดูแลตัวเองเบื้องต้นแบบเข้าใจง่ายครับ
1. อาการแบบไหน...ที่ควรเริ่มกังวล
ลองเช็กดูครับ ถ้ามีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ ไม่ควรปล่อยไว้เด็ดขาด
• ปัสสาวะขัด มีเลือดปน ถ้าเป็นแม้แค่ครั้งเดียวอย่าปล่อยไว้ครับ
→ เสี่ยง “มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ” หรือ “มะเร็งไต”
• ปัสสาวะค้าง ต้องเบ่งแรงทุกครั้ง
→ อาจมีภาวะ “ทางเดินปัสสาวะอุดตัน” เช่น ต่อมลูกหมากโต นิ่ว หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก
• ปวดหลังหรือเอวร่วมกับปัสสาวะขัด
→ มีโอกาสเกิด “นิ่วในท่อไต” หรือก้อนเนื้อกดทับ
• มีไข้ หนาวสั่น ปัสสาวะขุ่น มีกลิ่นแรง
→ เป็นสัญญาณของ “การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ” ที่อาจลามถึงไตได้
• ปวดหน่วงท้องน้อย เจ็บตอนสุดปัสสาวะ
→ ต้องระวัง “กระเพาะปัสสาวะอักเสบ” หรือมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
ถ้าอาการเหล่านี้เกิดซ้ำ หรือเป็นนานกว่า 2–3 สัปดาห์
อย่ารอให้ปวดมาก รีบตรวจเลยครับ
2. สาเหตุที่พบบ่อย (ยังไม่ร้ายแรง แต่ไม่ควรนิ่งเฉย)
บางครั้งอาการ “เยี่ยวไม่สุด” ก็อาจมาจากปัญหาทั่วไป เช่น
• ต่อมลูกหมากโต (BPH) เยี่ยวสะดุด เบา ต้องเบ่งนานมักจะเจอในผู้ชายวัย 50 ปีขึ้นไป
• นิ่วในกระเพาะปัสสาวะหรือต่อมลูกหมาก ทำให้ทางเดินปัสสาวะอุดตันครับ
• ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTI) เยี่ยวบ่อย แสบ ขุ่น พบมากในผู้หญิง
• กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะเสื่อม มักเป็นกับคนเป็นเบาหวาน หรือโรคระบบประสาท ทำให้เยี่ยวออกไม่หมด
• ยาบางชนิด เช่น ยาแก้แพ้ หรือยาคลายกล้ามเนื้อ อาจลดการบีบตัวกระเพาะปัสสาวะได้ครับ
3. โรคที่ต้อง “ระวังเรื่องมะเร็ง”
บางอาการแม้ดูเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นเรื้อรังหรือมีเลือดปนในปัสสาวะ ต้องระวัง 3 โรคนี้เลยครับ
1. มะเร็งต่อมลูกหมาก(Prostate Cancer)
พบบ่อยในผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป ถ้าเกิดเยี่ยวไม่สุด เบ่งนาน หรือเยี่ยวเป็นเลือด น้ำหนักลด หาหมอด่วนเลยครับ
2. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ(Bladder Cancer)
อาการเริ่มต้นคือ เยี่ยวเป็นเลือดโดยไม่เจ็บ อาการนี้มักเสี่ยงในคนที่สูบบุหรี่ หรือคนที่ทำงานสัมผัสสารเคมีครับ
3. มะเร็งไต (Renal Cell Carcinoma)
มักไม่มีอาการจนกว่าจะโต ถ้ามีอาการเยี่ยวเป็นเลือด ปวดเอวข้างเดียว และคลำได้ก้อนในท้อง หาหมอเลยครับ อย่ารอ
4. แนวทางตรวจเบื้องต้น
ไม่ต้องรอให้ปวดมากครับ แค่ตรวจพื้นฐานก็ช่วยหาสาเหตุได้เยอะแล้ว
• ตรวจปัสสาวะ (UA) → ดูเลือดหรือการติดเชื้อ
• อัลตราซาวด์ช่องท้อง → ดูไต กระเพาะปัสสาวะ และต่อมลูกหมาก
• ตรวจ PSA (สำหรับผู้ชาย 45 ปีขึ้นไป) → คัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก
• ตรวจแรงดันปัสสาวะ (Uroflowmetry) → ดูว่ามีปัสสาวะค้างหรือไม่
5. ดูแลตัวเองยังไงดี ถ้าเริ่มมีอาการ
1. ดื่มน้ำให้พอวันละ 1.5–2 ลิตร
2. ถ้าเป็นไปได้อย่าอั้นเยี่ยวบ่อย
3. เลี่ยงกินกาแฟ แอลกอฮอล์ และอาหารรสจัด
4. ถ้าเป็นผู้ชายอายุเกิน 45 ปี ควรตรวจ PSA + อัลตราซาวด์ต่อมลูกหมากปีละครั้งดูครับ
5. ถ้ามีเลือดปนในปัสสาวะ หรือปวดหลังร่วมด้วย ให้รีบพบแพทย์ด่วนเลยครับ
อย่ามองว่า “เยี่ยวไม่สุด” เป็นเรื่องเล็กนะครับ
เพราะมันอาจเป็น “สัญญาณแรกของโรคร้าย” โดยเฉพาะมะเร็งในระบบทางเดินปัสสาวะ
ดูแลตัวเองง่าย ๆ แค่ไม่กลั้นปัสสาวะ ดื่มน้ำเยอะ ๆ และตรวจสุขภาพปีละครั้ง
ก็ช่วยลดความเสี่ยงได้มากแล้วครับ






