- 31 ต.ค. 2568
ชุดไทยพระราชนิยม วธ. ยื่นเสนอ "ชุดไทย" สู่มรดกโลกอย่างเป็นทางการ ยกระดับภูมิปัญญาผ้าไทยและงานช่างฝีมือสู่สากล ตอกย้ำความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ
ชุดไทยพระราชนิยม ประเทศไทยได้ดำเนินการเสนอ “ชุดไทย” เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Cultural Heritage) ต่อองค์การยูเนสโก (UNESCO) โดยคาดว่าจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในปี พ.ศ. 2569
กำเนิดแห่งความสง่างาม "ชุดไทยพระราชนิยม"
ชุดไทยประจำชาติเกิดจากพระวิสัยทัศน์อันยาวไกลของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
จุดเริ่มต้น ในปี 2503 เมื่อตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จฯ เยือนต่างประเทศ ทรงตระหนักว่าคนไทยยังไม่มีเครื่องแต่งกายประจำชาติที่เป็นแบบแผนสากล
การสร้างสรรค์เอกลักษณ์ จึงมีพระราชดำริให้ศึกษาและค้นคว้าเครื่องแต่งกายของสตรีในราชสำนักสยามโบราณ จากยุคทวารวดีจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อนำมา ประยุกต์และสร้างสรรค์ ให้เป็นเอกลักษณ์ของชาติ
สู่ 8 รูปแบบอมตะ จากการค้นคว้าและดัดแปลงแก้ไขอย่างประณีต จนได้ "ชุดไทยพระราชนิยม" ขึ้นถึง 8 แบบหลัก โดยพระราชทานชื่อตามพระที่นั่งและพระตำหนัก เพื่อให้เลือกใช้ในวาระและโอกาสที่แตกต่างกัน
8 ชุดไทยพระราชนิยม ความงามที่มีเรื่องราว
ชุดไทยทั้ง 8 แบบ ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อบ่งบอกถึงสถานะ โอกาส และพิธีการที่ใช้ ดังนี้
- ชุดไทยเรือนต้น: สำหรับโอกาสลำลอง งานที่ไม่เป็นพิธีการ ลักษณะเสื้อคนละท่อนกับซิ่น แขนสามส่วน คอกลมตื้น
- ชุดไทยจิตรลดา: สำหรับพิธีกลางวัน งานกึ่งทางการ เสื้อแขนยาว ผ่าอก คอกลมมีขอบตั้งน้อยๆ
- ชุดไทยอมรินทร์: สำหรับงานพิธีตอนค่ำ ไม่คาดเข็มขัด ใช้ผ้ายกไหมมีทองแกม
- ชุดไทยดุสิต: สำหรับงานราตรีสโมสร/ฉลองสมรส เสื้อคอกว้าง ไม่มีแขน เข้ารูป ปักลายไทย ใช้กับซิ่นหน้านางมีชายพก
- ชุดไทยบรมพิมาน: สำหรับงานพระราชพิธีและงานพิธีกลางคืนเต็มยศ ชุดติดกัน ซิ่นมีจีบยกข้างหน้า/ชายพก คาดเข็มขัด
- ชุดไทยจักรี: สำหรับพิธีเต็มยศ/งานราตรี ห่มสไบ เปิดบ่าข้างหนึ่ง นุ่งซิ่นจีบยกข้างหน้า/ชายพก คาดเข็มขัด
- ชุดไทยศิวาลัย: สำหรับโอกาสพิเศษที่แต่งเต็มยศ ชุดติดกัน ห่มผ้าปักลายไทยทับ
- ชุดไทยจักรพรรดิ: สำหรับงานเต็มยศ นุ่งซิ่นยกทั้งตัว ห่มแพรจีนทับชั้นแรกและห่มผ้าปักทับอีกชั้น
พระอัจฉริยภาพเหนือกาลเวลา
ต้นแบบผู้นำ: สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงใช้ชุดไทยพระราชนิยมอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ
การเผยแพร่ระดับโลก: ในการเสด็จฯ เยือนต่างประเทศปี 2503 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ มร.ปิแอร์ บัลแมง ดีไซเนอร์ชื่อดัง นำผ้าไหมไทยไปตัดเย็บฉลองพระองค์
ผลลัพธ์: นี่คือ กุศโลบายอันชาญฉลาด ที่ทำให้ ผ้าไหมไทยและชุดไทย ขจรขจายไปทั่วโลก ในฐานะงานศิลป์ทรงคุณค่า ที่ทั้งสง่างามและเป็นการเจริญสัมพันธไมตรีอย่างสมพระเกียรติ
ขอเชิญชวนคนไทยร่วมภาคภูมิใจและสืบสานมรดกอันล้ำค่านี้ไปด้วยกัน






