ปภ. แจ้งเตือนพื้นที่เฝ้าระวัง เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม

ปภ. ส่ง Cell Broadcast แจ้งเตือนเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม เตือน 4 อำเภอใน จ.ปทุมธานี-นนทบุรี เฝ้าระวังและยกของขึ้นที่สูง ด้านเจ้าหน้าที่เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเตรียมรับมือพายุ

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ส่ง Cell Broadcast แจ้งเตือนเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม โดยระบุว่า เขื่อนเจ้าพระยามีแผนจะทยอยระบายน้ำเพิ่มไม่เกิน 2,700 ลบ.ม./วินาที ในวันที่ 5 พ.ย. 68 เวลา 17.00 น. จะระบายน้ำที่ 2,600 ลบ.ม./วินาที 

อาจทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่นอกคันกั้นน้ำได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น พื้นที่ จ.ปทุมธานี (อ.เมืองฯ อ.สามโคก) จ.นนทบุรี (อ.ปากเกร็ด อ.เมืองฯ) และพื้นที่ต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตรวจสอบระดับน้ำอย่างใกล้ชิด หากระดับน้ำมีแนวโน้มสูงจนส่งผลกระทบ ให้ยกของขึ้นที่สูง ดูแลกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

ปภ. แจ้งเตือนพื้นที่เฝ้าระวัง เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม

ปภ. จึงได้ร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ AIS True และ NT ส่งข้อความแจ้งเตือนผ่าน Cell Broadcast แจ้งเตือนเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม

อ.เมืองปทุมธานี อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

อ.ปากเกร็ด อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี

โดยเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 พ.ย. 68 นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี นายวรุตม์ ปันยารชุน นายประวี่ แสงแก้ว รองนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี นายสมศักดิ์ ลามอ รองนายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด แขวงทางหลวงชนบทจังหวัดนนทบุรี สำนักงานป้องกันจังหวัดนนทบุรี สำนักการช่างเทศบาลนครนนทบุรี ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำ บริเวณสถานีสูบน้ำคลองส่วย ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างเทศบาลนครนนทบุรี เทศบาลนครปากเกร็ด และกรุงเทพมหานคร 

โดยทุกภาคส่วนเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และได้เตรียมพร้อมรับมือพายุคัลแมกี ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่ม เพื่อเร่งระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ให้เกิดน้ำท่วมขังตามถนนสายหลัก และหมู่บ้าน ชุมชน 

ปภ. แจ้งเตือนพื้นที่เฝ้าระวัง เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม

ด้านกรมชลประทานได้มีการระบาย เพื่อรองรับน้ำเหนือ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณสูง เทศบาลไม่สามารถเปิดประตูระบายน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้ ต้องใช้วิธีสูบออกผ่านคลองส่วยและคลองสาขาต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือหากฝนตกหนัก

ขณะที่ทางด้าน จ.ปทุมธานี กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.คลองสาม ได้ดำเนินการเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง เนื่องจากฝนหนักในพื้นที่ ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ติดต่อกันมาหลายวัน ส่งผลให้หมู่บ้านจัดสรรกว่า 50 โครงการ น้ำท่วมขังสูงและระบายไม่ทัน และเตรียมรับมือพายุลูกใหม่ที่จะเข้ามาในประเทศไทยในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้ ในขณะที่ระดับน้ำภายในคลองระพีพัฒน์และคลองชลประทานที่ 3 มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนเกือบจะล้นตลิ่งแล้ว

รศ.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายก อบต.คลองสาม กล่าวว่า ด้วยมีการออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาเรื่อง พายุ "คัลแมกี" ซึ่งจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย จะส่งผลให้ในช่วงวันที่ 7-9 พ.ย. 68 ประเทศไทยตอนบน มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยจะเริ่มจากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตามลำดับ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งนั้น ซึ่งในพื้นที่ ต.คลองสาม ได้รับผลกระทบจากพายุฝนกระหน่ำติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้น้ำท่วมขังในหมู่บ้านจัดสรรจำนวนหลายสิบโครงการ

ดังนั้นทาง อบต. จึงได้เตรียมแนวทางการแก้ไขปัญหาโดยการประสานกรมชลประทาน ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ม. 16 เพื่อระบายน้ำคลองสามออกสู่คลองระพีพัฒน์อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังทำการเปิดประตูระบายน้ำ บริเวณ ม. 1 ระบายน้ำคลองชลประทานที่ 3 ออกสู่คลองรังสิตประยูรศักดิ์ พร้อมกับติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณทางลอดใต้สะพาน ม. 7 ที่เป็นปัญหาน้ำท่วมขังจนรถไม่สามารถกลับรถใต้สะพานได้ และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองป้องกันฯ ออกตรวจสอบเฝ้าระวังระดับน้ำตลอด 24 ชม. เพื่อดูสถานการณ์น้ำในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ปภ. ยังได้ส่งข้อความแจ้งเตือนผ่าน Cell Broadcast แจ้งเตือนเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม อีก 10 อำเภอในจังหวัดอ่างทอง และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่

อ.ป่าโมก อ.วิเศษชัยชาญ อ.เมืองอ่างทอง อ.ไชโย จ.อ่างทอง

อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.บางไทร อ.บางปะอิน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

และอีก 4 อำเภอ ในจังหวัดชัยนาท และจังหวัดสิงห์บุรี ได้แก่  

อ.สรรพยา จ.ชัยนาท

อ.อินทร์บุรี อ.เมืองสิงห์บุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี