ลูกหม่อน แก้ไขข้ออักเสบ ท้องผูก ขับเสมหะได้จริงหรือไม่

ประโยชน์ลูกหม่อน ลูกหม่อนเป็นแหล่งขุมทรัพย์ของ วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรดโฟลิก ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาสมองและระบบประสาท

ประโยชน์ลูกหม่อน ลูกหม่อน แก้ไขข้ออักเสบ ท้องผูก ขับเสมหะได้จริงหรือไม่ ในบรรดาผลไม้สีสันสดใสที่ธรรมชาติมอบให้ "ลูกหม่อน" หรือ "มัลเบอร์รี" อาจเป็นหนึ่งในอัญมณีที่หลายคนมักมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย แม้จะเป็นพืชอาหารตามธรรมชาติชนิดเดียวของหนอนไหม แต่คุณค่าทางโภชนาการที่ซ่อนอยู่ในผลเล็ก ๆ สีม่วงเข้มนี้กลับยิ่งใหญ่เกินตัว

ลูกหม่อน แก้ไขข้ออักเสบ ท้องผูก ขับเสมหะได้จริงหรือไม่

ลูกหม่อนเป็นแหล่งขุมทรัพย์ของ วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรดโฟลิก ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาสมองและระบบประสาท นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระทรงพลัง เช่น แอนโธไชยานิน และ เควอซิติน ซึ่งงานวิจัยชี้ว่ามีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคร้ายแรงอย่างมะเร็งได้

 

ยิ่งไปกว่านั้น ตำรับยาไทยโบราณยังใช้ประโยชน์จากผลหม่อนในการช่วยบรรเทาอาการไขข้ออักเสบ ท้องผูก โลหิตจาง และช่วยขับเสมหะ ด้วยงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับจากหลายสถาบันทางการแพทย์ทั้งในและต่างประเทศ จึงถึงเวลาแล้วที่เราจะหันมาให้ความสนใจกับผลไม้มากประโยชน์ชนิดนี้ ที่มีคุณสมบัติในการบำรุงสุขภาพแบบองค์รวมอย่างแท้จริง

 

ลูกหม่อน แก้ไขข้ออักเสบ ท้องผูก ขับเสมหะได้จริงหรือไม่

ลูกหม่อนช่วยป้องกันเส้นเลือดในสมองแตก และอัมพาต


หม่อน หรือ มัลเบอร์รีเป็นพืชอาหารตามธรรมชาติชนิดเดียวของหนอนไหม ซึ่งลูกหม่อน เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ อาทิ กรดโฟลิก ซึ่งพบว่า ทารกที่เกิดจากมารดาที่ขาดกรดโฟลิก มีความเสี่ยงที่จะพิการทางสมองและประสาท ไขสันหลัง นอกจากนั้นยังพบสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แอนโธไชยานิน เควอซิติน ที่มีส่วนลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ตำรับยาโบราณมีการใช้ผลหม่อนต้มบริโภคทั้งเนื้อและน้ำแก้โรคไขข้ออักเสบ ท้องผูก โลหิตจาง และขับเสมหะ มีผลงานวิจัยหลายสถาบันในประเทศไทย มหาวิทยาลัยทางการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต และงานวิจัยหลายประเทศของลูกหม่อน หรือ มัลเบอร์รี่ ดังนี้

 

ประโยชน์จากลูกหม่อน

มีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ชื่อ Anthyocyanin ซึ่งเป็นสารสีม่วงแดง ช่วยป้องกันโรคหัวใจ และป้องกันโรคมะเร็ง

 

  1. มีวิตามินบี 6 ช่วยบำรุงเลือด ตับ ไต ลดการเกิดสิว ลดอาการปวดประจำเดือน
  2. ป้องกันและยับยั้งการเกิดลิ่มเลือด ป้องกันเส้นเลือดแตก สาเหตุของโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต
  3. มีวิตามินซี สูง ช่วยป้องกันหวัด โรคภูมิแพ้ โรคปอด วัณโรค ป้องกันเชื้อไวรัส
  4. มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันการเกิดต้อกระจก (ป้องกันแสงสีน้ำเงินเข้าทำลายเลนส์ตา) บำรุงเหงือกและฟัน สร้างภูมิให้ระบบหายใจ บำรุงผิว ลดการอักเสบของสิว
  5. มีกรดโฟลิค หรือวิตามินใบไม้ หรือวิตามินเอ็ม ป้องกันโรคโลหิตจาง ป้องกันทารกพิการ ช่วยการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ หญิงแรกตั้งครรภ์เดือนแรกต้องการกรดโฟลิค
  6. ช่วยแก้อาการเมาค้าง ผ่อนคลายความเครียด
  7. ช่วยบำรุงเส้นผมให้ดกดำ ป้องกันผมหงอกก่อนวัย

  

หน่วยงานที่ตรวจสอบ

  • กองส่งเสริมความรอบรู้และสื่อสารสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
  • ขอบคุณ : ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม