ดื่มทุกวันต้องดู 7 กลุ่มโรคที่ควร "เลี่ยงหรือจำกัด" กาแฟ

กลุ่มโรคที่ควร "เลี่ยงหรือจำกัด" กาแฟ อาจส่งผลร้ายแรงต่ออาการที่เป็นอยู่ได้ หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีโรคเหล่านี้ ควรจำกัดปริมาณหรือปรึกษาแพทย์ก่อนดื่ม

กลุ่มโรคที่ควร "เลี่ยงหรือจำกัด" กาแฟ  สำหรับกาแฟเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่หลายคนขาดไม่ได้ แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางประการ สาร คาเฟอีน และ สารประกอบอื่น ๆ ในกาแฟ อาจส่งผลร้ายแรงต่ออาการที่เป็นอยู่ได้ หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีโรคเหล่านี้ ควรจำกัดปริมาณหรือปรึกษาแพทย์ก่อนดื่ม

 

ดื่มทุกวันต้องดู 7 กลุ่มโรคที่ควร เลี่ยงหรือจำกัด กาแฟ

1. ความดันโลหิตสูงที่ควบคุมอาการไม่ได้

ความเสี่ยง: คาเฟอีนมีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้อีก โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่ได้ดื่มกาแฟเป็นประจำ ซึ่งอาจทำให้ความดันสูงขึ้นได้นานถึง 12 ชั่วโมง


ข้อแนะนำ: ควร ปรึกษาแพทย์ และหลีกเลี่ยงการดื่มก่อนทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงเยอะ

 

 

2. ไขมันในเลือดสูง

ความเสี่ยง: ในกาแฟสดหรือกาแฟต้มที่ไม่ผ่านการกรอง มีสารกลุ่ม ไดเทอร์พีน (Diterpenes) ซึ่งสามารถเพิ่มระดับ คอเลสเตอรอล (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ ในเลือดได้


ข้อแนะนำ: ควรเลือกดื่ม กาแฟดริป (Drip Coffee) หรือกาแฟที่ผ่านกระดาษกรอง เพื่อช่วยกรองสารเหล่านี้ออก

 

 

3. โรคกระดูกพรุน

ความเสี่ยง: คาเฟอีนมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ซึ่งจะ เร่งการขับแคลเซียมออก ทางไต และยังรบกวนการดูดซึมแคลเซียมในลำไส้ ทำให้มวลกระดูกลดลง


ข้อแนะนำ: จำกัดปริมาณ ไม่เกิน 2-3 แก้วต่อวัน และต้องบริโภคแคลเซียมจากแหล่งอาหารอื่น ๆ ให้เพียงพอ

 

 

4. โรคขาดวิตามินบี 1

ความเสี่ยง: กาแฟจะเข้าไป ลดการดูดซึม และกระตุ้นการขับ วิตามินบี 1 ออกจากร่างกาย ซึ่งจำเป็นต่อระบบประสาท สมอง และหัวใจ


ข้อแนะนำ: หากมีภาวะขาดวิตามินบี 1 ควรงดดื่มกาแฟโดยเด็ดขาด

 

ดื่มทุกวันต้องดู 7 กลุ่มโรคที่ควร เลี่ยงหรือจำกัด กาแฟ

5. โรคต้อหิน

ความเสี่ยง: คาเฟอีนอาจส่งผลให้ ความดันลูกตา (IOP) เพิ่มสูงขึ้นชั่วคราว ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำลายเส้นประสาทตาของผู้ป่วยต้อหิน


ข้อแนะนำ: ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเฉพาะบุคคลเกี่ยวกับปริมาณคาเฟอีน

 

 

6. โรคเบาหวาน (ที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้)

ความเสี่ยง: คาเฟอีนกระตุ้นการหลั่งอะดรีนาลีน ซึ่งส่งผลให้ ตับปล่อยกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือดมากขึ้น ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น


ข้อแนะนำ: ควรดื่ม กาแฟดำในปริมาณพอเหมาะ (1-2 แก้วต่อวัน) และ งดส่วนผสมที่มีน้ำตาล/ครีมเทียม

 

 

7. ผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นเร็ว/วิตกกังวลง่าย

ความเสี่ยง: แม้จะยังไม่ป่วยเป็นโรคหัวใจ แต่หากคุณมีอาการ หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ, ใจสั่น, หรือวิตกกังวลอย่างรุนแรง หลังดื่มกาแฟ นั่นแสดงว่าร่างกายคุณมีความไวต่อคาเฟอีนสูงมาก ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้

ข้อแนะนำ: สังเกตปฏิกิริยาของร่างกาย หากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น ควรลดปริมาณหรือเปลี่ยนไปดื่มเครื่องดื่มที่ไม่มีคาเฟอีน