"หมอเจด" เตือนแล้วนะ 5 อาหารต้องเลี่ยง กินแล้วเสี่ยงโรคเกาต์

เตือนแล้วนะ! "หมอเจด" ให้ความรู้ด้านสุขภาพ เปิดชัดๆ 5 อาหารที่ต้องเลี่ยง ถ้ากรดยูริกสูง หรือเสี่ยงโรคเกาต์!

วันที่ 18 พ.ย. 2568 "หมอเจด" นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ให้ความรู้ด้านสุขภาพ เผย 5 อาหารต้องเลี่ยง กินแล้วเสี่ยงเกาต์! โดยระบุว่า เชื่อว่ามีหลายคนกลัว "ไก่–แอลกอฮอล์" แล้วคิดว่าแค่นี้คือสาเหตุเกาต์ทั้งหมด ทั้งที่จริงแล้วมีอาหารอีกหลายชนิดที่พิวรีนสูงมาก กินบ่อย ๆ ก็ทำให้กรดยูริกพุ่งแบบไม่รู้ตัว วันนี้ผมเลยรวม 5 อาหารที่ต้องเลี่ยงถ้ากรดยูริกสูงหรือเสี่ยงเกาต์ พร้อมบอกปริมาณพิวรีนต่อ 100 กรัม เพื่อให้เลือกกินได้ง่ายขึ้นครับ

 

หมอเจด เตือนแล้วนะ 5 อาหารต้องเลี่ยง กินแล้วเสี่ยงโรคเกาต์

1. เครื่องในสัตว์ทุกชนิด
นี่คือกลุ่มที่พิวรีนสูงที่สุดแบบไม่ต้องสงสัยครับ พวกตับ ไต ไส้ หัวใจ กึ๊น หลอดลม ล้วนทำให้กรดยูริกพุ่งแรงมากภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังมื้อ (เฉลี่ย 300–500 mg/100 กรัม) คนที่เป็นเกาต์ส่วนใหญ่มักกำเริบหลังมื้อที่มีเครื่องในล้วน ๆ โดยไม่รู้ตัว ถ้ามีประวัติปวดข้อ บวม แดง ต้องเลี่ยงแบบเด็ดขาดครับ


2. เนื้อแดง–เนื้อส่วนติดมัน
เนื้อแดงพวกหมูสามชั้น เนื้อวัวติดมัน เนื้อแกะ หรือสเต็กเนื้อแดง (เฉลี่ย 160–230 mg/100 g) ล้วนเป็นตัวสะสมพิวรีนแบบเรื้อรัง ถึงแม้ไม่สูงเท่าเครื่องใน แต่ถ้ากินบ่อยหรือกินหนัก ๆ มื้อล่ะหลายร้อยกรัม ยูริกจะเพิ่มต่อเนื่องไม่หยุด แถมไขมันอิ่มตัวในเนื้อแดงยังเพิ่มการอักเสบ ทำให้เกาต์กำเริบง่ายขึ้น หลายคนคิดว่ากินไก่ทำให้เกาต์ แต่จริง ๆ ภาวะยูริกสูงมักมาจาก “เนื้อแดง + กินซ้ำหลายมื้อ” มากกว่าครับ


3. ปลา/อาหารทะเลพิวรีนสูง
ปลากลุ่มนี้พิวรีนสูงจนหลายคนไม่รู้ เช่น ปลาซาร์ดีน ปลากะตัก ปลาแอนโชวี่ ปลาดุก และปลาทูต้มเค็ม(เฉลี่ย 200–400 mg/100 g) โดยเฉพาะส่วนหนัง-ก้าง-อวัยวะในกระป๋อง ซึ่งสูงกว่าเนื้อแดงหลายเท่า ส่วนพวก กุ้ง ปู หอยแมลงภู่ หอยลาย ปลาหมึก เป็นทะเลกลุ่มพิวรีนจัดเต็ม (เฉลี่ย 150–260 mg/100 g) ยิ่งกินรวดเดียวเยอะ ๆ จะกระตุ้นยูริกพุ่งแบบฉับพลัน เพราะโปรตีนจากสัตว์น้ำบางชนิดมีโครงสร้างไนโตรเจนสูง ร่างกายเลยเปลี่ยนเป็นยูริกเร็วกว่าเนื้อสัตว์บก ถ้าอยากกินปลา แนะนำเปลี่ยนเป็นปลานิล ปลาดอร์รี หรือปลากะพงแทนครับ

4. ผักพิวรีนสูง
ผักบางชนิดก็พิวรีนสูงพอจะกระตุ้นยูริกได้ โดยเฉพาะ หน่อไม้ เห็ดเข็มทอง เห็ดหอม ผักโขม กระถิน (เฉลี่ย 110–170 mg/100 กรัม) ซึ่งหลายคนคิดว่ากินผักยิ่งดี แต่ถ้ากินในปริมาณมาก โดยเฉพาะหน่อไม้ดอง หน่อไม้ต้ม หรือแกงหน่อไม้ สามารถทำให้ค่ากรดยูริกกระโดดขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว แต่ยังไม่แรงเท่าเครื่องใน–ปลากลุ่มเสี่ยง ดังนั้นเลี่ยงปริมาณมากก็เพียงพอครับ ไม่จำเป็นต้องงด 100%


5. ถั่วเมล็ดแห้งบางชนิด
หลายคนคิดว่าถั่วดีต่อสุขภาพทุกอย่าง แต่ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วลันเตา ถั่วลูกไก่ กลับมีพิวรีนสูง (เฉลี่ย 140–200 mg/100 กรัม) และถ้ากินในปริมาณมาก เช่น แกงถั่ว สมูตตี้ถั่ว หรือถั่วต้มหนึ่งถุงใหญ่ ก็สามารถดันยูริกขึ้นได้ทันทีครับ


จริง ๆ แอลกอฮอล์นี่ตัวดีเลยนะ เพราะนอกจากยับยั้งการขับกรดยูริกแล้ว ยังเพิ่มการผลิตกรดยูริกด้วย แต่ไม่ใช่แค่งดแอลกอฮอล์แล้วจะไม่เสี่ยงเกาต์นะ อาหารรอบตัวที่บอกมาข้างต้น ถ้ากินเยอะเกินไปจะทำให้ยูริกพุ่งแบบเงียบ ๆ เสี่ยงเกาต์กำเริบได้ง่ายเช่นกันครับ เคล็ดลับคือ “ลดอาหารพิวรีนสูง–เพิ่มน้ำ–เน้นโปรตีนพิวรีนต่ำ” เช่น ไข่ เต้าหู้ อกไก่ไม่ติดหนัง ปลานิล พร้อมหลีกเลี่ยงมื้อหนักตอนดึก จะช่วยให้ค่ายูริกกลับมานิ่งและลดโอกาสปวดข้อได้มากขึ้นครับ!

 

ขอบคุณ FB : หมอเจด