ปภ. เร่งรับมืออุทกภัยทั่วประเทศ – ภาคกลางยังท่วมหนัก ลุ่มเจ้าพระยาได้รับผลกระทบต่อเนื่อง

ปภ. เร่งรับมืออุทกภัยทั่วประเทศ – ภาคกลางยังท่วมหนัก ลุ่มเจ้าพระยาได้รับผลกระทบต่อเนื่อง ขณะภาคใต้เริ่มมีฝนตกหนักหลายพื้นที่

ปภ. เร่งรับมืออุทกภัยทั่วประเทศ – ภาคกลางยังท่วมหนัก ลุ่มเจ้าพระยาได้รับผลกระทบต่อเนื่อง วันนี้ (18 พ.ย. 68) เวลา 13.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาและเตรียมพร้อมรับอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ กำชับเร่งระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ช่วยเหลือและจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยให้จังหวัดภาคกลางลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกและน้ำล้นตลิ่ง ในส่วนของภาคใต้ให้จังหวัดเตรียมพร้อมส่งเครื่องจักรกลสาธารณภัยช่วยเหลือประจำพื้นที่ และติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็ว โดยมีผู้แทนกรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนัก/กองส่วนกลาง ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เข้าร่วมประชุม ณ ห้องกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ 

 

ปภ. เร่งรับมืออุทกภัยทั่วประเทศ – ภาคกลางยังท่วมหนัก ลุ่มเจ้าพระยาได้รับผลกระทบต่อเนื่อง

นายชัยรัตน์ แก้วเพียงเพ็ญ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีพื้นที่ที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดจากฝนตกหนักและน้ำล้นตลิ่งในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคกลางบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย การดำรงชีวิตเป็นไปด้วยความยากลำบาก

 

ปภ. เร่งรับมืออุทกภัยทั่วประเทศ – ภาคกลางยังท่วมหนัก ลุ่มเจ้าพระยาได้รับผลกระทบต่อเนื่อง

 

ขณะที่ภาคใต้เริ่มมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ติดตามสถานการณ์และให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในระยะนี้ที่บริเวณภาคเหนือและภาคกลางยังคงมีฝนตกในพื้นที่แต่มีแนวโน้มลดลง ขณะที่มวลอากาศเย็นจากประเทศจีนเข้าปกคลุมเพิ่มขึ้นจะทำให้อากาศหนาวเย็นลง ในส่วนของภาคใต้ โดยเฉพาะภาคใต้ตอนบนที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช มีฝนตกหนัก และกลุ่มฝนจะเคลื่อนลงไปภาคใต้ตอนล่างบริเวณจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และจังหวัดยะลา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้บูรณาการหน่วยงานในพื้นที่ให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ยังคงมีสถานการณ์ทั้งการดำรงชีพ และการเร่งจ่ายเงินเยียวยาตามมติคณะรัฐมนตรี พร้อมเตรียมรับมือกับอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นในภาคใต้

 

ปภ. เร่งรับมืออุทกภัยทั่วประเทศ – ภาคกลางยังท่วมหนัก ลุ่มเจ้าพระยาได้รับผลกระทบต่อเนื่อง

สำหรับพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคกลาง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานพื้นที่ให้เร่งระบายน้ำ เพื่อให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว พร้อมส่งเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าไปให้การช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ประสบอุทกภัยมาตั้งแต่ช่วงฤดูฝน ซึ่งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 3 ปราจีนบุรี ได้ส่งรถสูบส่งระยะไกล เครื่องสูบน้ำ ขนาด 14 นิ้ว ไปช่วยเหลือในพื้นที่เพิ่มเติม ในส่วนของภาคใต้ที่เริ่มมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง และมีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 สุราษฎร์ธานี ได้สนับสนุนและติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดท่อส่ง 14 นิ้ว เพื่อเร่งสูบระบายน้ำในพื้นที่จังหวัด
สุราษฎร์ธานีและพัทลุง ขณะเดียวกันได้วางแผนสนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยไปประจำพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยในจังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช ตามที่จังหวัดร้องขอ

 

ปภ. เร่งรับมืออุทกภัยทั่วประเทศ – ภาคกลางยังท่วมหนัก ลุ่มเจ้าพระยาได้รับผลกระทบต่อเนื่อง

 

พร้อมกันนี้ ปภ. ได้เน้นย้ำให้จังหวัดที่ยังมีสถานการณ์อุทกภัยให้ช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ ทั้งด้านการดำรงชีพ การแพทย์และสาธารณสุข การเฝ้าระวังโรค การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงการป้องกันอาชญากรรม พร้อมเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็ว และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ให้เจ้าหน้าที่เร่งนำเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าฟื้นฟู ทำความสะอาดบ้านเรือนและเปิดเส้นทางคมนาคมให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ สำหรับพื้นที่ที่ได้รับแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินโคลนถล่ม ให้จังหวัดติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และสำรวจความพร้อมเครื่องจักรกล วัสดุ อุปกรณ์ตามแผนเผชิญเหตุ หากไม่เพียงพอให้ขอรับการสนับสนุนไปยังศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่รับผิดชอบ และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อจะได้สนับสนุนให้ทันต่อสถานการณ์ นอกจากนี้ให้พิจารณาประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านการช่วยเหลือและเยียวยาให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

 

ในส่วนของพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ในภาคใต้ ได้กำชับให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ทั้ง 4 ศูนย์เขต ได้แก่  ศูนย์ ปภ. เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ เขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 12 สงขลา และเขต 18 ภูเก็ต เตรียมความพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถสนับสนุนจังหวัดได้ทันทีที่ได้รับการร้องขอ และประสานการทำงานกับจังหวัดอย่างใกล้ชิด โดยให้สำรวจความต้องการเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงเพื่อจะได้วางแผนสนับสนุนได้อย่างตรงจุดและทันเวลา

 

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในทุกพื้นที่ โดยประชาชนสามารถติดตามข่าวสารสาธารณภัย ได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews รวมถึงติดตามการประกาศแจ้งเตือนภัยได้ทางแอปพลิเคชัน “Thai Disaster Alert” และหากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง