- 26 ก.ย. 2559
ติดตามเรื่องราวดีๆได้ที่ http://panyayan.tnews.co.th/
หนึ่งในพ่อแม่ครูอาจารย์ที่มีโอกาสได้สัมผัสพบเห็นหลวงปู่สรวงและมีประสบการณ์น่าสนใจอย่างยิ่ง ก็คือ “หลวงพ่อทองพูน วัดป่าโคกชาติ” จากการได้สัมภาษณ์ท่านเกี่ยวกับที่มาที่ไปจนได้ผูกพันกับหลวงปู่สรวงนั้น ท่านได้เมตตาเปิดเผยให้ฟังว่า
ตัวของท่านนั้นเป็นคนพื้นเพเมืองสุรินทร์ มีพี่น้อง ๑๓ คน ตัวของท่านเป็นคนสุดท้อง เมื่อบวชอยู่ในบวรพระพุทธศาสนานั้น แต่เดิมท่านไปศึกษาเล่าเรียนด้านการปฏิบัติกรรมฐานกับหลวงปู่ดุลย์ อตุโลและหลวงปู่ฝั้น อาจาโร
ในขณะที่ท่านอยู่สุรินทร์นั้นหลายครั้งได้ยินเขาร่ำลือเกี่ยวกับหลวงปู่สรวงแต่ไม่มีโอกาสได้ไปกราบจนกระทั่งประมาณปี ๒๕๓๑-๒๕๓๒ พวกคณะญาติโยมได้พาหลวงพ่อทองพูนไปกราบหลวงปู่สรวงที่อำเภอภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ
ขณะนั้นพบหลวงปู่สรวงอยู่ในเถียงนากลางทุ่ง เมื่อหลวงพ่อทองพูนเข้าไปกราบหลวงปู่ท่าน ท่านก็ชวนคุยธรรมะนิดๆหน่อยๆ จากนั้นท่านก็ยื่นผ้าสบงให้ ซึ่งก็แปลความหมายได้ว่าท่านต้องการให้เราอยู่เป็นพระไปนานๆ เป็นพุทธบุตรอยู่ในบวรพระพุทธศาสนานี้ อย่าไปใช้เสื้อไปใช้กางเกง ให้บวชเป็นพระเรื่อยไป
(หลวงปู่สรวง)
รู้วันตายแต่ไม่ตายด้วยบารมีหลวงปู่สรวง
เมื่อปี ๒๕๔๔หลวงพ่อทองพูน ท่านทราบด้วยญาณของท่านว่าจักต้องตายแน่ในปี ๒๕๔๕ นี้ ท่านจึงได้ทำบุญถวายสังฆทานครั้งใหญ่ เพื่อต่ออายุให้ได้ปฏิบัติธรรมต่อไป ท่านจึงผ่านพ้นช่วงปี ๒๕๔๕ มาได้ในปีนั้นเองท่านก็ทราบอีกว่า ว่าท่านจักต้องตายแน่ในปี ๒๕๔๗ เมื่อออกพรรษาปี ๒๕๔๖จึงได้บอกลาชาวให้นิมนต์พระมาจำพรรษาดูแลวัดต่อไปท่านประสงค์จะไปมรณะ ที่จังหวัดสุรินทร์ แต่ชาวบ้านไม่ยอม
(หลวงปู่สรวง)
พอเข้าถึงปี ๒๕๔๗ วันที่ ๙ มกราคม ๒๕๔๗ ในวันนั้นท่านมีงานนิมนต์จึงนั่งรถลูกศิษย์ออกจากวัดไป ในวันดังกล่าวลูกศิษย์ที่เป็นคนขับรถมีอาการไข้จึงรับประทานยาแก้ไข้ประกอบทานยาแก้แพ้ ผลจากการรับประทานยาทำให้มีอาการง่วง และหลับในที่สุด จึงเป็นเหตุให้รถของท่านพุ่งลงข้างทาง ชนรั้วชาวบ้านระเนระนาด รถบุบไปหมด ในวันนั้นผู้ที่ไปด้วยกันรวมทั้งคนขับไม่มีใครเป็นอะไรมีแต่หลวงพ่อทองพูนเท่านั้นที่กระโหลกศรีษะแตก ที่ว่ากระโหลกศรีษะแตกนั้นมันแตกเป็นเสี่ยงเหมือนลูกมะพร้าวเลยทีเดียว
จนใครเข้ามาดูเหตุการณ์ก็คิดว่าท่านคงมรณะภาพไปแล้วพอเข้าไปรักษาในโรงพยาบาล เพียง ๙วันท่านก็ดีขึ้นอย่างรวดเร็วขึ้นอย่างน่าประหลาดจนหมอตกใจปกติต้องรักษากันหลายเดือนทีเดียว ที่น่าแปลกกว่านั้นคือไม่มีอาการเจ็บปวดแต่อย่างใดตั้งแต่วันแรกที่บาดเจ็บและวันต่อๆมา ก็นับเป็นเรื่องที่น่าแปลกเรื่องหนึ่งเหมือนกัน
วันที่เกิดอุบัติเหตุแล้วทำให้ท่านรอดมาได้ ท่านบอกว่าวันนั้นท่านได้นำเสื้อแดงออกศึกและช้อนที่เป็นของหลวงปู่สรวง ติดตัวไปด้วยท่านเชื่อว่าที่รอดมาได้ก็เพราะบารมีหลวงปู่สรวง ได้ปกปักษ์รักษาคุ้มครองให้มีชีวิตรอด เพื่อยู่สืบทอดพระศาสนา นั้นเอง






