- 11 ต.ค. 2559
รู้จริง...รู้แจ้ง...ทุกเรื่องราวแห่งพระอริยสงฆ์ http://panyayan.tnews.co.th
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต) ได้อธิบายถึงความหมายและประวัติความเป็นมาของ "โพชฌงค์" หรือ "โพชฌังคปริตร" ไว้ในหนังสือเรื่อง "โพชฌงค์ : พุทธวิธีเสริมสุขภาพ" ว่า ...
"โพชฌงค์" เป็นหลักธรรมสำคัญหมวดหนึ่ง ซึ่งรู้จักในชื่อที่เป็นบทสวดมนต์ว่า "โพชฌังคปริตร" และนับถือกันมาว่าเป็นพุทธมนต์สำหรับสวดสาธยายเพื่อให้คนป่วยได้สดับตรับฟังแล้วจะได้หายจากโรค
ที่เชื่อกันอย่างนี้ก็เพราะมีเรื่องเล่ามาในพระไตรปิฎกว่า พระมหากัสสปะซึ่งเป็นพระเถระผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเคยอาพาธ แล้วพระพุทธเจ้าเสด็จไปเยี่ยมและทรงแสดงเรื่องโพชฌงค์นี้ สุดท้ายพระมหากัสสปะก็หายจากโรค!
อีกคราวหนึ่ง พระโมคคัลลานะซึ่งเป็นอัครสาวกฝ่ายซ้ายได้อาพาธ พระพุทธเจ้าเสด็จไปเยี่ยมและก็ทรงแสดงโพชฌงค์นี้อีก แล้วพระโมคคัลลานะก็หายจากโรค!
อีกคราวหนึ่ง พระพุทธเจ้าเองทรงอาพาธจึงตรัสให้พระมหาจุนทะซึ่งเป็นพระเถระผู้ใหญ่รูปหนึ่งแสดงโพชฌงค์ถวาย แล้วพระพุทธเจ้าก็หายประชวร!
จากเรื่องราวที่กล่าวถึงนี้ พุทธศาสนิกชนก็เลยเชื่อกันว่า บทโพชฌงค์นั้นสวดแล้วจะช่วยให้หายจากโรค!!
โพชฌังคปริตรที่เราสวดกันนี้เป็นการสวดบาลี ผู้ฟังก็ฟังไป ซึ่งบางทีอาจจะไม่เข้าใจเนื้อความก็ได้ แต่ที่ท่านแสดงไว้ในพระไตรปิฎกนั้น ท่านแสดงเนื้อหาคือตัวหลักธรรม และธรรมะที่แสดงนั้นเป็นธรรมะเกี่ยวกับปัญญา เป็นธรรมะชั้นสูง ซึ่งความจริงก็เป็นเรื่องของการทำใจให้สว่าง สะอาด ผ่องใส เป็นการรักษาใจ
เป็นธรรมดาว่า กายกับใจนั้นเป็นสิ่งที่อาศัยกันและกัน พอกายเจ็บป่วย ไม่สบาย คนทั่วไปก็มักจะพาลจิตใจไม่สบาย เศร้าหมอง กระวนกระวาย กระสับกระส่ายไปด้วย และในทำนองเดียวกัน เมื่อจิตใจไม่สบายก็พลอยให้กายไม่สบายไปด้วย เริ่มต้นตั้งแต่รับประทานอาหารไม่ได้ ร่างกายเศร้าหมอง ผิวพรรณซูบซีด ซึ่งเป็นสิ่งที่เนื่องอาศัยกัน
ในทางตรงข้าม คือในทางที่ดี ถ้าจิตใจดี สบาย บางทีก็กลับมาช่วยกาย เช่น ในยามเจ็บป่วย ถ้าจิตใจสบาย เช่น มีกำลังใจหรือจิตใจผ่องใสเบิกบาน โรคที่เป็นมากก็กลายเป็นน้อย หรือที่จะหายยากก็หายง่ายขึ้น ยิ่งถ้าหากว่ากำลังใจที่ดีนั้นมีมากถึงระดับหนึ่งก็ไม่เพียงแต่ทำให้โรคบรรเทาเท่านั้น แต่อาจจะช่วยรักษาโรคไปด้วยเลย ทั้งนี้ก็อยู่ที่ว่าจะช่วยทำใจของเราหรือรักษาใจของเราได้มากแค่ไหน
ในกรณีของพระพุทธเจ้าและพระมหาสาวกนั้น ท่านมีจิตใจที่พัฒนาให้ดีงามเต็มที่ มีสุขภาพด้านจิตที่สมบูรณ์แล้ว เมื่อถึงเวลาที่ต้องการก็จึงเรียกเอาด้านจิตมาช่วยด้านกายได้เต็มที่ ถ้าไม่เหลือวิสัยของเหตุปัจจัยก็เอาของดีที่มีในใจออกมารักษากายที่เป็นโรคให้หายได้
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต)
บทสวดโพชฌังคปริตร
โพชฌังโค สะติสังขาโต ธัมมานัง วิจะโย ตะถา
วิริยัมปีติปัสสัทธิ- โพชฌังคา จะ ตะถาปะเร
สะมาธุเปกขะโพชฌังคา สัตเตเต สัพพะทัสสินา
มุนินา สัมมะทักขาตา ภาวิตา พะหุลีกะตา
สังวัตตันติ อะภิญญายะ นิพพานายะ จะ โพธิยา
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ
เอกัสมิง สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง
คิลาเน ทุกขิเต ทิสวา โพชฌังเค สัตตะ เทสะยิ
เต จะ ตัง อะภินันทิตวา โรคา มุจจิงสุ ตังขะเณ
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ
เอกะทา ธัมมะราชาปิ เคลัญเญนาภิปิฬิโต
จุนทัตเถเรนะ ตัญเญวะ ภะณาเปตวานะ สาทะรัง
สัมโมทิตวา จะ อาพาธา ตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ
ปะหีนา เต จะ อาพาธา ติณณันนัมปิ มะเหสินัง
มัคคาหะตะกิเลสาวะ ปัตตานุปปัตติธัมมะตัง
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ
--------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : หนังสือ "โพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพ", พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต)






