กรรมใครกรรมมัน!! จาก "สนธิญาณ" ถึง "ทักษิณ" ... วันนี้กฎหมายตามไม่ทัน วันหนึ่ง "กฎแห่งกรรม" จะจัดการเอง!!

รู้จริง...รู้แจ้ง...ทุกเรื่องราวแห่งปาฏิหาริย์ http://www.tnews.co.th

จากการที่ “สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม” แห่งสำนักข่าวทีนิวส์ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “Sontiyan Tnews” นัยจะสนทนาธรรมกับ “ทักษิณ” (และฝากแชร์ไปถึงสมุนทั้งหลายที่ร้อนตัวแทนนายด้วย) ความว่า...
“ ‘กฎแห่งกรรม’ เที่ยงแท้เสมอ!!!
ไม่ต้องมีตำรวจ...อัยการ...ทนายความและศาล มาคอยพิจารณาหา ‘พยานหลักฐาน’ มาแก้ต่างกัน!!!
‘กรรม’ อันถูกบันทึกไว้ใน ‘จิต’ ของแต่ละคน จะส่งผลออกไปอย่างเที่ยงธรรม!!!
ไม่ต้องมาเถียงกันหรอกครับว่า ‘ใครถูก’ ‘ใครผิด’ ‘ใครดี’ ‘ใครชั่ว’!!!
ถึงเวลานั้นเราจะรู้ได้ด้วยตนเอง”

ข้อความที่สนธิญาณโพสต์นี้ดูผิวเผินเหมือนจะโพสต์เพื่อตอบโต้ทักษิณและสมุนที่ขู่จะฟ้องร้องดำเนินคดี  แต่สังเกตให้ดีจะเห็นว่าเป็นข้อความที่แฝงไว้ด้วย “ความเชื่อมั่นในกฎแห่งกรรม” อย่างหนักแน่นและมีพลัง ...
สมควรจะต้องนำมาขยายความกันสักหน่อยเพื่อให้เข้าใจร่วมกันถึงหลักการอันเป็นที่มาของสิ่งที่สนธิญาณโพสต์

 

กรรมใครกรรมมัน!! จาก "สนธิญาณ" ถึง "ทักษิณ" ... วันนี้กฎหมายตามไม่ทัน วันหนึ่ง "กฎแห่งกรรม" จะจัดการเอง!!

สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม

เรื่องของเรื่องคืออย่างนี้ ...
“กฎแห่งกรรม” นอกจากจะหมายถึง “ทำดีได้ดี-ทำชั่วได้ชั่ว” อย่างที่รู้ๆ กันแล้ว ยังหมายความอีกด้วยว่า “ใครทำ...คนนั้นก็ต้องรับ”
จุดนี้สำคัญมาก เพราะนั่นแสดงให้เห็นว่าหัวใจสำคัญของกฎแห่งกรรมคือ “ความยุติธรรม”!!
แต่ความยุติธรรมในที่นี้คงไม่ใช่ “ความยุติธรรมตามกฎหมาย” หรือ “ความยุติธรรมแบบโลกๆ” ซึ่งเป็นความยุติธรรมที่เกิดจากกำหนดของมนุษย์และตัดสินโดยมนุษย์ (Justice by Man) เพราะสติปัญญาของมนุษย์มีขีดจำกัดและอาจจะเจือด้วยอคติก็ได้
ความยุติธรรมที่เป็นหัวใจของกฎแห่งกรรมจะต้องเป็น “ความยุติธรรมตามธรรมชาติ” (Justice by Nature) ซึ่งอิงอยู่กับกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ เพราะธรรมชาตินั้นทำงานอย่างเที่ยงธรรม เป็นกลาง ไม่มีอคติ ไม่เข้าใครออกใคร
ศาสนาพุทธนั้นเชื่อใน “กฎธรรมชาติ” ... เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลดำเนินไปภายใต้การควบคุมดูแลของกฎธรรมชาติซึ่งถูกแบ่งออกเป็นห้าข้อตามบทบาทการทำงาน คือ ๑. อุตุนิยาม (กฎทางฟิสิกส์) ๒. พีชนิยาม (กฎทางชีววิทยา) ๓. จิตตนิยาม (กฎเกี่ยวกับจิตใจของมนุษย์และสัตว์ในภพภูมิอื่น) ๔. กรรมนิยาม (กฎเกี่ยวกับกรรมและการให้ผล) และ ๕. ธรรมนิยาม (กฎธรรมชาติอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือจากกฎสี่ข้อแรก)
ในกฎธรรมชาติห้าข้อนี้มีสองข้อที่เกี่ยวข้องกับความยุติธรรมโดยตรง
ข้อแรกคือ “จิตตนิยาม”  กฎข้อนี้บอกว่า ภายในจิตใจของมนุษย์มีโครงสร้างสองส่วน  ส่วนแรกคือความรู้สึกนึกคิดทั่วไป (เรียกว่า “วิถีจิต”) อันเป็นส่วนที่เราควบคุมได้ ใช้อคติก็ได้ หรือแม้แต่หลอกตัวเองก็ได้  ส่วนที่สองคือส่วนที่ทำหน้าที่บันทึก “ข้อมูลกรรม” ทุกอย่างที่มนุษย์ได้ทำลงไป (เรียกว่า “ภวังคจิต”) ซึ่งความรู้สึกนึกคิดของจิตส่วนแรกก็นับเป็นกรรมทางใจที่จะถูกบันทึกเข้าไปในจิตส่วนนี้ด้วย
จิตส่วนที่สองนี้มีความพิเศษตรงที่ว่า การทำงานของมันอยู่นอกเหนือการควบคุมของมนุษย์ และเป็นไปอย่างเที่ยงตรงชนิดที่มนุษย์ไม่สามารถหลอกมันได้  ต่อให้มนุษย์หาเหตุผลเข้าข้างการกระทำของตัวเองเก่งแค่ไหน จิตส่วนนี้ก็ไม่รับฟัง  สิ่งเดียวที่มันทำก็คือบันทึกข้อมูลกรรมอย่างตรงไปตรงมา พร้อมทั้งเป็นประจักษ์พยานรู้เห็นการกระทำนั้นๆ ไปด้วยในตัว
คราวนี้ก็มาถึงกฎธรรมชาติอีกข้อ คือ “กรรมนิยาม” (กฎแห่งกรรม) ซึ่งจะทำงานประสานกับกฎจิตตนิยามในลักษณะที่ว่า  เมื่อข้อมูลกรรมถูกบันทึกลงไปในจิตแล้ว กฎแห่งกรรมก็จะทำหน้าที่แปรข้อมูลเหล่านั้นให้เป็นวิบากหรือผลของกรรมที่มนุษย์จะต้องได้รับในรูปแบบต่างๆ สุดแล้วแต่ว่าข้อมูลกรรมนั้นๆ มีรายละเอียดอย่างไร และสภาพแวดล้อมในการแสดงผลมีความเหมาะสมเพียงใด
และนั่นก็คือที่มาของคำสอนเรื่อง “กรรม ๑๒” ของศาสนาพุทธ ซึ่งจัดรูปแบบการให้ผลเป็นสามกลุ่ม
กลุ่มแรก-ให้ผลตามระยะเวลา ... ๑. ให้ผลชาตินี้ ๒. ให้ผลชาติหน้า ๓. ถ้ายังไม่ให้ผลชาติหน้าก็จะให้ผลในชาติต่อๆ ไป ๔. ถ้าหมดโอกาสให้ผลก็เป็นอโหสิกรรม ไม่มีผลอีกต่อไป
กลุ่มที่สอง-ให้ผลตามหน้าที่ ... ๕. นำไปเกิดในภพภูมิต่างๆ ๖. สนับสนุนหรือเสริมกำลัง ๗. บั่นทอนให้อ่อนกำลัง ๘. ตัดกระแสกรรมที่กำลังส่งผลให้ขาดสะบั้น
กลุ่มที่สาม-ให้ผลตามความรุนแรง ... ๙. กรรมหนัก (ให้ผลก่อน) ๑๐. กรรมที่ทำจนเคยตัว (ให้ผลต่อจากกรรมหนัก) ๑๑. กรรมขณะสุดท้ายก่อนตาย (ให้ผลต่อเมื่อไม่มีกรรมหนัก หรือให้ผลต่อจากกรรมเคยตัว) ๑๒. กรรมที่ทำด้วยเจตนาอ่อนหรือไม่มีเจตนา (ให้ผลเป็นคิวสุดท้าย)

 

กรรมใครกรรมมัน!! จาก "สนธิญาณ" ถึง "ทักษิณ" ... วันนี้กฎหมายตามไม่ทัน วันหนึ่ง "กฎแห่งกรรม" จะจัดการเอง!!

ก็อย่างที่สนธิญาณโพสต์ไว้นั่นแหละว่า “ไม่ต้องมีตำรวจ ไม่ต้องมีอัยการ ไม่ต้องมีทนายความ ไม่ต้องมีศาล ไม่ต้องหาพยานหลักฐาน มาตัดสินกันให้ยุ่งยาก” ... เพราะเป็นไปได้ว่ากฎหมายจะมีช่องโหว่ เป็นไปได้ว่าผู้บังคับใช้กฎหมายจะถูกอคติบังตา และเป็นไปได้ที่ “ตราชั่งจะเอียง”!!
ที่สำคัญ... ระบบยุติธรรมของมนุษย์ที่สร้างโดยมนุษย์และเพื่อมนุษย์นั้นเป็นกระบวนการที่มีข้อจำกัดเรื่อง “การให้ผล” ซึ่งตรงนี้ต่างจากระบบยุติธรรมตามธรรมชาติอย่างเห็นได้ชัด
อธิบายง่ายๆ ก็คือว่า  ต่อให้คนผิดถูกตัดสินลงโทษตามกฎหมายก็ไม่แน่ว่า “ความยุติธรรมที่แท้จริง” จะเกิดขึ้นแล้ว  คนบางคนทำความผิดร้ายแรง แต่กลับติดคุกแค่ไม่กี่ปีแล้วก็ออกมาลอยหน้าลอยตาก่อกรรมทำเข็ญกับคนอื่นซ้ำซาก  หรือต่อให้ติดคุกตลอดชีวิตก็ยังกินอยู่อย่างสบายในเรือนจำ แล้ววันหนึ่งก็ตายไปพร้อมกับบาปกรรมที่สะสมมาทั้งชีวิตโดยไม่เกิดความสำนึกผิดใดๆ  แย่กว่านั้นก็พวกนักการเมืองที่ทำลายชาติบ้านเมืองเสียจนบั้นปลายชีวิตต้องระหกระเหินไปอยู่ต่างแดน แต่ก็ปรากฏภาพตามสื่อต่างๆ ว่ายังมีชีวิตสุขสบายดี
นี่คือตัวอย่างความไร้ประสิทธิภาพของระบบยุติธรรมโดยมนุษย์!!
แต่ระบบยุติธรรมโดยธรรมชาตินั้นไม่ใช่!! ... เพราะกฎแห่งกรรมเป็นระบบยุติธรรมที่ทำงานลงลึกถึง “ก้นบึ้ง” ในจิตใจของมนุษย์ และเป็นกระบวนการที่สืบทอดไปได้ยาวนานข้ามภพข้ามชาติ สามารถให้ผลได้เสมอไม่วันใดก็วันหนึ่ง ไม่ชาติใดก็ชาติหนึ่ง
ไม่เท่านั้น... กฎแห่งกรรมยังเป็นกฎที่มีพลานุภาพรุนแรง เด็ดขาด มีอำนาจเหนือมนุษย์อย่างสิ้นเชิง ไม่มีใครฝ่าฝืนได้ ไม่มีใครต่อรองได้  แม้แต่พระพุทธเจ้าเองก็ยังได้รับเศษกรรมบางอย่างที่ตกทอดมาจากอดีตชาติ  หรือพระโมคคัลลานะที่มีฤทธิ์แค่ไหนก็ต้องถูกฆาตกรรมอย่างโหดร้ายเพราะกรรมหนักที่เคยทำกับพ่อแม่
จากที่สาธยายมาทั้งหมดนี้ ใครจะชี้แจงอย่างไร จะโกหกออกสื่อ จะพูดอะไรให้สวยหรูดูดีขนาดไหน ก็เอาที่สบายใจ ... แต่อย่าลืมว่าตัวเองเท่านั้นที่รู้อยู่แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไร  หรือถ้าคิดว่าหลอกตัวเองได้ก็อย่ามั่นใจว่าจะหลอกจิตได้  เพราะพลันที่ข้อมูลกรรมได้รับการบันทึกลงในจิตใจ ตัวเองก็จะกลายสภาพจากคนธรรมดาไปเป็นคนที่ถูกพลังลึกลับดึงดูดเข้าหาความหายนะทันที ...
คำถามอยู่ที่ว่าเมื่อไหร่เท่านั้น!!

 

กรรมใครกรรมมัน!! จาก "สนธิญาณ" ถึง "ทักษิณ" ... วันนี้กฎหมายตามไม่ทัน วันหนึ่ง "กฎแห่งกรรม" จะจัดการเอง!!

พระพุทธเจ้าถูกพระเทวทัตลอบทำร้ายเพราะผลของเศษกรรม

 

กรรมใครกรรมมัน!! จาก "สนธิญาณ" ถึง "ทักษิณ" ... วันนี้กฎหมายตามไม่ทัน วันหนึ่ง "กฎแห่งกรรม" จะจัดการเอง!!

พระโมคคัลลานะถูกโจรรุมฆาตกรรมเพราะผลของกรรมเก่า

-----------------------------------------------------------------------