- 26 มิ.ย. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
การเสด็จออกมหาสมาคม เป็นพระราชพิธีที่พระมหากษัตริย์เสด็จออกที่ประชุมใหญ่เพื่อการสำคัญ โดยในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร มีการเสด็จออกมหาสมาคม ทั้งเป็นพระราชพิธีประจำปี และพระราชพิธีในโอกาสพิเศษ แต่ละครั้งมีขึ้นในสถานที่ต่าง ๆ อาทิ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน พระที่นั่งไพศาลทักษิณมหินทรพิมาน สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท มุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และพระที่นั่งองค์พิเศษ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ทั้งนี้ เพื่อพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าทูลละอองธุลีพระบาท คณะองคมนตรี คณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา คณะทูตานุทูต ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ตลอดจนพสกนิกรทุกหมู่เหล่า เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท
"เรื่องเล่าผ่านวิวไฟน์เดอร
"เมื่อพระราชพิธีดำเนินเสร็
"เรื่องเล่าผ่านวิวไฟน์เดอร
เมื่อครั้งในหลวงเสด็จออกมห
ในฐานะช่างภาพที่ต้องเข้าถว
เมื่อพระราชพิธีได้เริ่มขึ้
ในท้ายสุดของราชพิธี เมื่อทุกอย่างดำเนินไปเสร็จ
โอ้พระองค์ ... กับเครื่องทรงที่มีน้ำหนักม
หลังวิวไฟน์เดอร์ ที่เคยมีน้ำตาที่แค่เอ่อๆ แต่ไม่ไหลล้น คราวนี้มันไหลล้นออกมาพร้อม
ในวันพระราชพิธี วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๕ ในหลวงเสด็จออกมหาสมาคม สีหบัญชร และได้มีพระราชดำรัสความตอนหนึ่งว่า
"ความเมตตาปรารถนาดีต่อกันนี้ เป็นปัจจัยอย่างสำคัญ ที่จะยังความพร้อมเพรียงให้เกิดมีขึ้น ทั้งในหมู่คณะและในชาติบ้านเมือง และถ้าคนไทยเรา ยังมีคุณธรรมข้อนี้ประจำอยู่ในจิตใจ ก็มีความหวังได้ว่า บ้านเมืองไทย ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ๆ ก็จะอยู่รอดปลอดภัย และดำรงความมั่นคงต่อไปได้ ตลอดรอดฝั่งอย่างแน่นอน"
การเสด็จออก ณ สีหบัญชร ในครั้งนี้ มีการต่อเติมขยายสีหบัญชรให้มีบริเวณกว้างขวางขึ้น เพื่อให้พระบรมวงศานุวงศ์สามารถยืนประทับที่สีหบัญชรได้ พร้อมทั้งติดตั้งพระวิสูตร และเลื่อนพระราชอาสน์ออกสู่สีหบัญชรเป็นครั้งแรก
ในโอกาสนี้ พสกนิกรที่มาเข้าเฝ้าฯ เต็มพระลานพระราชวังดุสิต เรื่อยไปจนตลอดแนวถนนราชดำเนินนอก แต่งกายด้วยเสื้อสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำวันพระบรมราชสมภพ และในการเสด็จออกมหาสมาคม ในครั้งนี้ เป็นการเสด็จออกมหาสมาคมต่อหน้าพสกนิกรครั้งสุดท้ายของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวง รัชกาลที่ ๙ อีกด้วย
ขอบคุณที่มา : เพจ ตามรอยพ่อ
เจ้าของเรื่อง คุณวสันต์ วณิชชากร






