- 22 ส.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
เรื่องหลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้วนี้ หลายคนยังสงสัยว่า เขี้ยวแก้วนั้นหมายความว่าอย่างไร บางท่านคิดว่าเป็นฟันที่งอกกลางเพดานปาก แต่ในความจริงแล้ว หลวงปู่กาหลงท่านมีเขี้ยวแก้ว ซึ่งมีลักษณะเป็นเขี้ยวแก้ว ลักษณะขาวใสเหมือนแก้วจริงๆ ไม่ใช่ฟันที่งอกกลางเพดานปากแต่อย่างใด ได้สอบถามจากลูกศิษย์ก้นกุฏิของหลวงปู่ท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ตนเองก็เคยขอดูเขี้ยวแก้วของหลวงปู่เขี้ยวแก้วที่ตนเห็นนั้นอยู่กลางเพดานปากจริงๆ มีลักษณะคล้ายเม็ดข้าวสารขึ้นอยู่กลางเพดานพอดี มีลักษณะขาวใสคล้ายหินเขี้ยวหนุมาน นับเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดมหัศจรรย์ ที่น่าแปลกคือ บางวันยาวบางวันสั้นไม่เท่ากันเป็นเรื่องแปลกแต่จริงที่ตนเห็นมาเองกับตา
เรื่องเขี้ยวแก้วนี้ต้องถือว่าเป็นบุญบารมีของหลวงปู่กาหลงท่านเพราะถือเป็นของกายสิทธิ์ติดตัวมาแต่เกิด ในแผ่นดินยากที่จะหาผู้ที่มีเขี้ยวแก้วเช่นหลวงปู่ท่านได้ ความมีเขี้ยวแก้วของหลวงปู่นั้นแสดงให้เห็นว่าท่านได้บำเพ็ญทางพระโพธิสัตว์บารมีมาแต่อดีตชาติ จนบังเกิดลักษณะพิเศษของความเป็นมหาบุรุษเช่นนี้ขึ้น
ตามตำราต่างๆ ที่กล่าวถึงเขี้ยวแก้วนั้นเราพบได้ว่าผู้ที่มีเขี้ยวแก้วในตำนานนั้นจะมีเพียงท่านเดียวเท่านั้น คือ หนุมาน ผู้ทำหน้าที่เป็นทหารเอกของพระราม ในเรื่องรามเกียรติ์นั้นหนุมานเกิดขึ้นโดยเทวโองการของพระศิวะ พระศิวะเจ้าได้แบ่งกำลังของพระองค์มาส่วนหนึ่ง เป็นพลังทิพย์หรือไอธาตุปราณแห่งพระองค์ฝากให้พระพายพัดเข้าสู่ท้องนางสวาหะที่ถูกสาปให้อ้าปากกินลม
เมื่อนั้นก็บังเกิดเป็นหนุมานด้วยฤทธิ์แห่งพระเป็นเจ้าโจนทะยานเหาะออกมาจากปากนางสวาหะโดยปาฏิหาริย์ หนุมานเกิดมานั้นมีร่างกายขาวสะอาด เป็นการบ่งบอกว่าเกิดโดยบริสุทธิ์ด้วยอำนาจจากพระเป็นเจ้านั่นแล และยังมีลักษณะสำคัญอีกสองประการคือ มีขนตามร่างกายเป็นขนเพชร คงกระพันชาตรี ศัตราวุธใดๆ มาทำอันตรายไม่ได้ และยังมีเขี้ยวแก้วกลางเพดานปากเป็นของกายสิทธิ์ใครฆ่าไม่ตาย หาวออกมาเป็นดาวเป็นเดือน
สัญลักษณ์เขี้ยวแก้วจึงถือเป็นของสำคัญที่เกิดขึ้นแต่เฉพาะผู้ที่มีบุญเท่านั้น เล่ากันว่าเมื่อแรกๆ สมัยที่หลวงปู่ยังเป็นเด็กนั้นท่านรู้สึกรำคาญกับเขี้ยวแก้วกลางเพดานปากของตนเอง จนวันหนึ่งท่านยกมือไหว้เทวดาขอให้เขี้ยวแก้วนี้สั้นลงทีเถอะเพราะทำให้พูดไม่สะดวก ปรากฏว่าหลังจากคืนที่ท่านอธิษฐานนั้นเอง พอตื่นเช้าขึ้นมาเขี้ยวแก้วกลางเพดานปากของท่านกลับหดสั้นลงอย่างไม่น่าเชื่อ เหลือแต่เพียงปุ่มเขี้ยวแก้วเล็กกลางเพดานปากของท่านเท่านั้นและทุกวันนี้ลูกศิษย์ใกล้ชิดของหลวงปู่ได้เล่าให้ฟังว่าเขี้ยวแก้วของหลวงปู่ท่านนั้นแต่ละวันจะสั้นยาวไม่เท่ากันเป็นเรื่องแปลกแต่จริงที่น่าอัศจรรย์มากๆ เวลาใครไปกราบท่านแล้วให้ท่านปลุกเสกของท่านก็มักจะเอามือล้วงไปในปากท่านแตะที่เขี้ยวแก้วของท่านแล้วนำมาคลึง ที่พระหรือ ของที่มาให้ท่านปลุกเสกเป็นการเพิ่มพลังพุทธคุณ ท่านมักกล่าวอยู่เสมอว่า
"ของๆฉันตั้งใจทำมากับมือต่อไปจะมีค่ายิ่งกว่าทองคำจะหายากยิ่งกว่าเพชร"
ความศักดิ์สิทธิ์ของเขี้ยวแก้วที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็นสิ่งคู่บารมีสำหรับผู้มีบุญวาสนาเป็นกายสิทธิ์ประจำองค์ของหลวงปู่ ในสมัยก่อนผู้เขียนเคยได้ยินว่าของกายสิทธิ์นั้นมักเกิดขึ้นในต้นไม้ หรือในสัตว์เรียนว่าคด เป็นของขลัง เช่นเกิดในผลทับทิม ก็เรียนว่าคดทับทิม เกิดในวัว ก็เรียกคดสมองวัว ของกายสิทธิ์ที่เรียกว่าคดนี้จะมีลักษณะเป็นหินหรือหินแก้วที่เกิดในพืชและสัตว์เป็นหลัก มีอำนาจวิเศษทำให้อยู่ยงคงกระพัน และเป็นเมตตามหานิยม รวมทั้งบันดาลโชคลาภแก่ผู้บูชาด้วย
เขี้ยวแก้วกลางเพดานปากของหลวงปู่กาหลง นับเป็นของกายสิทธิ์เช่นกัน ที่หาได้ยากมาก ไม่ได้เกิดขึ้นกับคนธรรมดาทั่วไป ทั้งเขี้ยวแก้วก็เป็นเขี้ยวจริงๆ หาใช่ฟันที่งอกผิดที่ผิดทางแต่อย่างใด เขี้ยวแก้วของหลวงปู่จึงเป็นของกายสิทธิ์ที่เกิดจากอำนาจบุญวาสนาของหลวงปู่โดยแท้ ตามความเชื่อนั้นกล่าวว่า เขี้ยวแก้วเช่นนี้เป็นสิ่งที่มีเทวดารักษาอยู่ และทำให้ผู้ที่มีเขี้ยวแก้ว เป็นผู้ที่อยู่ยงคงกระพันแต่กำเนิด มีความเก่งกล้าทางพระเวทย์คาถาอาคม เป็นเจ้าคนนายคน คล้ายกับอำนาจของ เขี้ยวหมูตัน เขี้ยวเสือกลวง แต่มีอิทธิฤทธิ์บุญฤทธิ์สูงกว่ามากมายนัก เพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวกันกับองค์หนุมานซึ่งเป็นทหารเองแห่งพระนารายณ์จึงพร้อมด้วยอานุภาพอันสูงส่ง
ที่มาจาก : หนังสือ หลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว
ภาพจาก : เว็บ-พระ , เพจ พิพิธภัณฑ์ หลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว Luang pu Kalong museum






