เปิดตำนาน!!?  “พระปางนาคปรก”  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ “เสก โลโซ” มีไว้ครอบครองนับถือบูชา !!

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

หลังจากกระแสของ "เสก โลโซ"  ที่มีประเด็น เรื่องของการยิงปืนขึ้นฟ้า แล้วโดนจับกุม แล้วซึ่งต่อมาได้มีการเผยภาพระหว่างการจับกุมตัวเสก ที่บ้านพัก ทางเจ้าหน้าได้พบว่าเสก ได้มีการวางวัตถุมงคลบางอย่าง ไว้บนเตียง
และวัตถุมงคลนั้น ก็คือ "พระพุทธรูปปรางนาคปรก" และได้พูดบอกกับ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. ดูว่า “พระพุทธรูปดังกล่าวคือ เพชร ผมทำให้เป็นเพชรขึ้นมา”

เปิดตำนาน!!?  “พระปางนาคปรก”  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ “เสก โลโซ” มีไว้ครอบครองนับถือบูชา !!

โดยส่วนตัวแล้วเสกก็ได้มีความเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์และสิ่งลี้ลับว่ามีจริง ต่อมาก็ได้โดสเฟสบุ๊คส่วนตัวว่า ....{ว่าด้วยเรื่องพระนาคปรก} จะพิสูจน์ไหมจ๊ะว่าพระสรรค์เพชรของเฮียมีเพชรจริงๆ พรุ่งนี้เชิญนักข่าวที่บ้านได้เลย 
ส่วนเรื่องที่เจ้าแฮร์ร็อดไปนั่งตรงนั้น เพราะพอประตูพังคนก็กรูกันเข้ามา เฮียโดนล็อกตัว แล้วแฮร์ร็อดก็เลยไปรู้ว่าจะไปอยู่ตรงไหน? ปล.ถ้าเฮียพิสูจน์ว่าพระนาคปรกเฮียมีเพชรจริงๆ ให้หยุดเขียนข่าวเสียๆหายๆของเฮียตลอดไป 
โอเคเปล่า?

 

จากนั้นได้ไลฟ์ให้ชมพระนาคปรก ว่าเมื่อองค์พระกระทบกับแสงจะมีประกายคล้ายเพชรออกมาระยิบระยับสวยงาม ซึ่งสร้างความฮือฮาจากผู้คนในกระแสโซเชียลและบรรดาแฟนคลับของ เสก โลโซ เองด้วยความเห็นที่แตกต่างกันไป

 

เปิดตำนาน!!?  “พระปางนาคปรก”  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ “เสก โลโซ” มีไว้ครอบครองนับถือบูชา !!

 

เปิดตำนาน!!?  “พระปางนาคปรก”  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ “เสก โลโซ” มีไว้ครอบครองนับถือบูชา !!

เราจึงมาหยิบนำเอาประว้ติความเป็นมาของ"พระนาคปรก" มาให้รู้จักกันว่า ประวิตความเป็นมา เป็นอย่างไร ......
นาคปรก เป็นชื่อเรียกพระพุทธรูปลักษณะนั่งสมาธิ และมีพญานาคแผ่หัวเป็นพังพานขึ้นจากไหล่ไปปรกพระเศียรของพระพุทธรูป แต่เดิมทำเป็นรูปพญานาคเป็นมนุษย์ มีรูปงู 7 หัวเป็นพังพานขึ้นจากไหล่ไปปรกพระเศียร (ศีรษะ) 
ในกิริยาที่พญานาคทำท่านมัสการพระพุทธเจ้า ต่อมาภายหลังทำพญานาคเป็นรูปงูขดตัวเป็นฐานตั้งพระพุทธรูปนั่งสมาธิบนตัวพญานาค และมีพังพานและหัวของพญานาค 7 เศียรปรกอยู่

 

ประวัติ
หลังจากที่พระพุทธโคตมได้ทรงตรัสรู้ พระพุทธองค์ได้แปรที่ประทับเพื่อเสวยวิมุติสุขยังสถานที่ต่างๆ ในอาณาบริเวณที่ไม่ห่างจากต้นพระศรีมหาโพธิ์นักโดยประทับแต่ละที่สัปดาห์ละ 7 วัน และในสัปดาห์ที่ 6 ในขณะที่พระพุทธองค์ทรงประทับ 
ณ ใต้ต้นมุจลินท์ (ต้นจิก) ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของต้นพระศรีมหาโพธิ์ เมื่อพระพุทธองค์เสด็จมาประทับอยู่ที่นี่ ได้บังเกิดมีฝนและลมหนาวตกพรำตลอดเจ็ดวันไม่ขาดสาย ผู้รจนาปฐมสมโพธิได้แต่งเล่าเรื่องไว้ว่า พญานาคชื่อ 
มุจลินทร์ ได้ขึ้นจากสระน้ำที่อยู่ในบริเวณแห่งเดียวกันนี้ เข้าไปวงขนด 7 รอบ แล้วแผ่พังพานปกพระพุทธเจ้า เพื่อป้องกันลมฝนมิให้พัดและสาดกระเซ็นมาต้องพระวรกาย ครั้นฝนหาย ฟ้าสาง พญานาคจึงคลายขนดออก 
แล้วจำแลงเป็นเพศมาณพยืนเฝ้าพระพุทธเจ้าทางเบื้องพระพักตร์ ลำดับนั้นพระพุทธองค์จึงทรงเปล่งอุทานว่า

"ความสงัดคือความสุขของบุคคลผู้มีธรรมอันได้สดับแล้วได้รู้เห็นสังขารทั้งปวงตามเป็นจริงอย่างไร ความสำรวมไม่เบียดเบียนในสัตว์ทั้งหลาย และ ความเป็นผู้ปราศจากกำหนัดหรือสามารถก้าวล่วงพ้นซึ่งกามทั้งปวงเสียได้ เป็นสุขอันประเสริฐในโลก
 ความขาดจากอัสมิมานะหรือการถือตัวตนหากกระทำให้ (การถือตัว) หมดสิ้นไปได้นั้นเป็นความสุขอย่างยิ่ง"

 

เปิดตำนาน!!?  “พระปางนาคปรก”  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ “เสก โลโซ” มีไว้ครอบครองนับถือบูชา !!

ความสำคัญ
ครั้นพระพุทธองค์เสด็จประทับเสวยวิมุตติสุข ณ ร่มไม้อชปาลนิโครธสิ้น ๗ วัน แล้วพระองค์ก็เสด็จไปประทับนั่งเสวยวิมุตติสุขยังร่มไม้จิก อันมีชื่อว่า มุจจลินท์ ซึ่งตั้งอยู่ด้านทิศอาคเนย์ของต้นพระศรีมหาโพธิ์ วันนั้นเกิดฝนตกพรำอยู่ไม่ขาดสายตลอด 
๗ วัน พญานาคมุจจลินท์ ผู้เป็นราชาแห่งนาค ได้ออกจากนาคพิภพ ทำขนดล้อมพระวรกาย ๗ ชั้น แล้วแผ่พังพานใหญ่ปกคลุมเบื้องบน เหมือนกั้นเศวตฉัตรถวายพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยความประสงค์มิให้ฝนและลมหนาวสาดต้องพระวรกาย 
ทั้งป้องกันเหลือบ ยุง บุ้ง ร่าน ริ้น และสัตว์เลื้อยคลานทั้งมวลด้วย ครั้งฝนหายแล้ว พญามุจจลินท์นาคราชจึงคลายขนดจากที่ล้อมพระวรกายพระพุทธเจ้า จำแลงเพศเป็นมาณพน้อยยืนทำอัญชลีถวายนมัสการพระพุทธองค์ในที่เฉพาะพระพักตร์ 
ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงเปล่งอุทานว่า "สุโข วิเวโก ตุฏฺฐัสสะ สุตะธัมมัสสะ ปัสสะโต อัพยาปัชชัง สุขัง โลเก ปาณะภูเตสู สัญญะโม สุขา วิราคะตา โลเก กามานัง สะมะติกฺกะโม อัสมิมานัสสะ วินะโย เอตัง เว ปะระมัง สุขัง ฯ" 
ความว่า "ความสงัดเป็นสุขของบุคคลผู้มีธรรมอันได้สดับแล้ว รู้เห็นสังขารทั้งปวงตามเป็นจริงอย่างไร ความเป็นคนไม่เบียดเบียน คือความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย และความเป็นคนปราศจากความกำหนัด คือความก้าวล่วงกามทั้งปวงเสียได้ 
เป็นสุขในโลกความนำออกเสียซึ่งอัสมินมานะ คือความถือตัวตนให้หมดได้นี้เป็นสุขอย่างยิ่ง"

พระพุทธจริยาที่เสด็จประทับนั่งเสวยวิมุตติสุขภายในวงขนดของพญานาคมุจจลินท์นาคราชที่ขดแวดล้อมพระกายอยู่นี้ เป็นเหตุให้สร้างพระพุทธรูปปางนี้ขึ้นมา เรียกว่า ปางนาคปรก เรื่องพระปางนาคปรกนี้ 
นิยมสร้างเป็นพระนั่งบนขนดตัวพญานาคเหมือนเอานาคเป็นบัลลังก์ดูสง่า องอาจเป็นพระเกียรติอำนาจของพระองค์อย่างหนึ่ง ได้ลักษณะเป็นอย่างพระเจ้าของพราหมณ์ ถ้าจะรักษาลักษณะของพระพุทธรูปตามประวัติ ก็จะเป็นไปอีกในลักษณะหนึ่งคือ
 พระพุทธรูปจะมีพญานาคพันรอบพระวรกายด้วยขนดตัวพญานาคถึง ๔-๕ ชิ้น จนบังพระวรกายมิดชิด เพื่อป้องกันฝนและลม จะเห็นได้ก็เพียงพระเศียร พระศอ และพระอังสาเป็นอย่างมาก ทั้งเบื้องบนก็มีหัวพญานาคแผ่พังพานปกคลุมอีกด้วย

ความเชื่อและคตินิยม
-เป็นพระพุทธรูปประจำวันเกิดของคนเกิดวันเสาร์
-พระคาถาบูชา สวด 10 จบ (องคุลีมาลปริตร) ดังนี้ "ยะโตหัง ภะคินิ อะริยายะ ชาติยา ชาโต นาภิ ชานามิ สัญจิจจะ ปาณัง ชีวิตา โวโรเปตา เตนะ สัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ โสตถิ คัพภัสสะ"
-มีบางความเชื่อ เชื่อว่าที่มาของพระพุทธรูปปางนี้ เป็นการผสมผสานความเชื่อของสองศาสนา คือ ศาสนาพุทธ และศาสนาฮินดู โดยมีที่มาจากพระวิษณุหรือพระนารายณ์ ขณะที่บรรทมประทับบนอาสน์พญานาคที่สะดือสมุทร

 

ที่มา SEK LOSO, wikipedia