กินฟักทองทุกวัน ส่งผลดีต่อร่างกายอย่างไร? คุณอาจไม่เคยรู้

กินฟักทองประจำ ส่งผลดีต่อร่างกายอย่างไร?

ฟักทอง (Pumpkin) เป็นพืชตระกูลน้ำเต้าที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาเหนือและอเมริกากลาง โดดเด่นด้วยสีเหลืองส้มและผิวเรียบหรือขรุขระเล็กน้อย นอกจากจะนิยมทำอาหารทั้งคาวและหวาน เช่น ซุป สลัด หรือพาย ฟักทองยังอุดมไปด้วย วิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพอย่างมาก

1. ช่วยระบบขับถ่ายและสุขภาพลำไส้
ฟักทองอุดมไฟเบอร์สูง 1 ถ้วยมีไฟเบอร์ถึง 7 กรัม ซึ่งช่วยควบคุมแบคทีเรียในลำไส้และทำให้การขับถ่ายเป็นปกติ นอกจากนี้ เปลือกฟักทองยังมีสารโพลีแซคคาไรด์ที่ไม่ละลายในแอลกอฮอล์ ซึ่งช่วยส่งเสริมการเติบโตของจุลินทรีย์ดีในลำไส้

2. อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง
สารต้านอนุมูลอิสระในฟักทองช่วยลดความเครียดออกซิเดชัน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็ง การศึกษาพบว่าการบริโภคเมล็ดฟักทองมากขึ้นอาจช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม ลำไส้ใหญ่ ปอด และอาจยับยั้งการพัฒนาของมะเร็งต่อมลูกหมาก แม้ว่าจะยังต้องการงานวิจัยเพิ่มเติมในมนุษย์

3. เสริมระบบภูมิคุ้มกัน
ฟักทองมีวิตามินซี สังกะสี ซีลีเนียม และน้ำสูงถึง 90% ซึ่งช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ ไฟเบอร์ยังช่วยดูแลสุขภาพลำไส้ ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันโดยรวม

 

4. ตัวช่วยควบคุมน้ำหนัก
ฟักทองมีแคลอรี่ต่ำและไฟเบอร์สูง ทำให้รู้สึกอิ่มนาน ลดการกินจุกจิกระหว่างวัน จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

5. บำรุงสายตาและลดความเสี่ยงโรคตา
ฟักทองอุดมด้วยวิตามินเอ และสารแคโรทีนอยด์ เช่น ลูทีนและซีแซนทีน สารเหล่านี้สะสมในจอประสาทตา ช่วยกรองแสงอันตราย และลดความเสี่ยงโรคจอประสาทตาเสื่อมตามวัย

6. ช่วยควบคุมความดันโลหิต
ฟักทองเป็นแหล่งโพแทสเซียม แคลเซียม และแมกนีเซียม ซึ่งช่วยควบคุมความดันโลหิตตามหลัก DASH Diet และยังมีปริมาณโซเดียมต่ำ ดีต่อผู้ที่ต้องการควบคุมความดัน

ข้อควรระวัง
แม้ว่าฟักทองจะมีประโยชน์มาก แต่ควรระวังการปรุงรสด้วยน้ำตาลมาก ๆ สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานควรปรับปริมาณให้เหมาะสม และควรกินผักผลไม้อื่น ๆ ร่วมด้วยเพื่อความสมดุล

สรุป
ฟักทองเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ กินเป็นประจำช่วยระบบขับถ่าย เสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงสายตา และอาจช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง หากบริโภคในปริมาณพอดีและหลากหลาย จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน
 

แหล่งที่มาอ้างอิง

Harvard T.H. Chan School of Public Health: “Pumpkin Nutrition”

WebMD: “Health Benefits of Pumpkin”

National Center for Biotechnology Information (NCBI): “Pumpkin and Human Health”