พ่อแร็พเปอร์ดัง โดนทำร้ายเลือดออกในสมอง พร้อมเปิดคำสารภาพคนก่อเหตุ

นายหนุ่ย อายุ 37 ปี และ นายชา อายุ 32 ปี ผู้ก่อเหตุรุมทำร้ายร่างกาย พ่อแร็พเปอร์หนุ่มไฮฮอต ที่ร้านสะดวกซื้อซอยบางแวก 79  ย่านภาษีเจริญ จนได้รับบาดเจ็บจนสมองเลือดออก และมีภาพปรากฏใน โซเชียล เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางเสาธง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกาย สาเหตุมาจากทั้งคู่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อนซึ่งฝ่ายผู้ก่อเหตุเคยถูกกลุ่มคู่กรณีใช้อาวุธมีดฟันแขนเกือบขาด และเมื่อมาเจอกันมีความแค้นฝังใจอยู่แล้วจึงเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น 

นายหนุ่ย ระบุว่ากรณีการทะเลาะวิวาทล่าสุด เกิดขึ้นเพราะพ่อของไฮฮอต แร็พเปอร์คู่กรณีเดินเข้ามาหาเรื่อง โดยทำทีว่ามาขอยืมไฟแช็ก ซึ่งตนเองก็ไม่เข้าใจว่าคนที่ไม่ถูกกัน  เหตุใดจึงมาขอยืมไฟแช็กกัน แต่ยังไม่ทันไรคู่กรณีก็เริ่มพูดจาถากถางถึงเรื่องกรณีเก่าที่ตนถูกเพื่อนของไฮฮอตคู่กรณีฟันแขน จนเอ็นเกือบขาด ในทำนองว่า คดีดังกล่าวจะไม่ยอมจบ จึงทำให้ตนเองเริ่มไม่พอใจ และทำให้เกิดการชกต่อยกัน 

ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ตนเองยอมรับว่าเป็นฝ่ายลงมือก่อน พร้อมกับน้องชายอีกคนเท่านั้นไม่ได้มีคนอื่นเขามาร่วมด้วย ซึ่งตนได้ตบไปที่พ่อของไฮฮอต 2 ครั้งและต่อย 1 ครั้งเพียงเท่านั้น จึงไม่เชื่อว่าอาการจะสาหัสตามที่คู่กรณีมีการออกมาโพสต์ในโซเชียล อยากให้รอผลการตรวจของแพทย์ 

ทั้งนี้ตนเองยังอยากขอพูดถึงเหตุกาณ์ก่อนหน้านี้  ที่ตนเองถูกฟันแขน  ทางคู่กรณีได้อ้างว่าตนเองพาพวกไปล้อมรถคู่กรณี  ซึ่งตนยืนยันได้เลยว่าไม่เป็นความจริง   เหตุการณ์ในตอนนั้น คือพ่อของแร็ปเปอร์หนุ่ม  ทะเลาะอยู่กับป้าขายหมูปิ้ง  ตนเห็นเหตุการณ์จึงยืนฟังและกลัวว่าป้าหมูปิ้งจะถูกทำร้ายเพราะป้าอายุเยอะแล้ว จึงเข้าไปห้ามและตนเองได้ไล่เพื่อนของแร๊พเปอร์ที่ชื่อ เจมส์ หรือจามาร ให้เข้าบ้านไปโดนการปาขวดพลาสติกไปเพื่อให้แยกย้าย ก่อนที่นายเจมส์ จะเข้าบ้านไปและเปิดประตูกลับมาพร้อมดาบซามูไร และเริ่มฟันใส่ตนเอง พอตนเองโดนฟันจนเอ็รที่แขนเกือบขาด เสียเลือดมาก มีคนช่วยไปโรงพยาบาล ซึ่งไปในสภาพสาหัสจะหมดสติเพราะเสียเลือด และไม่สามารถโทรตามใครมาล้อมคู่กรณีได้ 
ส่วนคนที่มาล้อมรถของคู่กรณีเป็นเพียงพลเมืองดีที่เข้ามาดูและมาช่วยล้อมไม่ให้คนก่อเหตุหนี  เท่านั้นขนาดมีพลเมืองดีช่วยกันล้อมแล้วยังมีทางฝั่งคู่กรณีหลบหนีไปได้ 1 คน  ส่วนเรื่องรถคู่กรณีที่อ้างว่าถูกรื้อค้นรถ ตนยืนยันว่าพวกตนเองไม่ได้เป็นคนรื้อและไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ ภายหลังเกิดเหตุขณะที่ตนรักษาตัวอยู่ คู่กรณี และพ่อของไฮออต และตัวแร็พเปอร์หนุ่มไม่เคยมาเยี่ยม มีดูแลค่ารักษาพยาบาลอะไรเลย 

วันนี้ก็เดินทางเข้ามาเพื่อรับทราบข้อหา ส่วนเรื่องว่าจะมีปัญหาอะไรกับคู่กรณีต่อหรือไม่ ทางฝั่งตนเองยืนยันว่าถ้าไม่ถูกหาเรื่องก็จะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เพราะฝั่งตนเองไม่ใช่คนเริ่มก่อนอยู่แล้ว  และขอฝากไปถึงไฮฮอตว่า ตนเองเป็นพลเมืองดีที่เข้าไปห้ามไม่อยากให้ทำร้ายกันแต่ถูกเพื่อนของไฮฮอตฟันจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนหน้านี้ตนก็เคยช่วยเหลือไฮฮอตหลายเรื่อง และเป็นลูกค้าที่ใช้บริการวินของตนไม่มีปัญหาอะไรกัน ทำไมถึงเอาตนไปโพสต์และกล่าวหาในลักษณะนั้น  เรื่องนี้เจ้าตัวรู้ดี ถ้าเรื่องแค่นี้ยังพูดออกไม่เป็นความจริงก็ไม่ควรทำเพลงออกมาแล้ว  ส่วนเรื่องที่ว่าหนักใจหรือไม่ เพราะคู่กรณีมีชื่อเสียง ตนมองว่าถึงเขาจะเป็นคนมีชื่อเสียง แต่ทำตัวแบบนี้ สังคมไม่ยอมรับก็ไม่น่าจะมีผลอะไร

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainewsonline