สาวจีนสุดประหยัด เผยเคล็ดไม่ลับ ใช้เงินปีละ 500 จนซื้อบ้านได้ 2 หลัง

เชื่อว่าหลายคนมีความฝัน ฝันอันยิ่งใหญ่ ซึ่งความฝันของแต่ละคนกับเป้าหมายในชีวิตอาจจะไม่เหมือนกัน บางคนขอแค่ได้ความสุขในทุกๆ วันบางคนอาจจะอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง เชื่อว่าหลายๆ คนสามารถทำตามความฝันของตนเองได้ด้วยความมุ่งมั่นและพยายาม อย่างเช่นสาวจีนรายนี้ ที่เก็บ ประหยัด อดออม จนได้บ้านหลังงามมาถึง 2 หลัง

ทว่าเรื่องราวดังกล่าวกลับเป็นที่ถกเถียงอย่างมาก เนื่องจากเรื่องราวของ หวังเซินอ้าย หญิงวัย 32 ปี จากเมืองหนานจิง ของประเทศจีน ออกมาแชร์เรื่องราวการใช้ชีวิตแบบประหยัดสุดๆ ของเธอ ที่ทำให้เธอสามารถซื้อบ้านได้ 2 หลังภายในเวลา 9 ปี แต่ความคิดและไลฟ์สไตล์การประหยัดแบบสุดโต่งของเธอกลับเรียกเสียงวิจารณ์หนักจากนั้นทั่วไป บ้างก็ว่าเธอขี้ตระหนี่ บางคนถึงขั้นมองว่าเธอมีการอาการป่วยทางจิตด้วยซ้ำ

หวังเซินอ้าย นับเป็นหนึ่งในคนดังของ สมาพันธ์สตรีจอมประหยัด ซึ่งมีสมาชิกในกลุ่มเฟซบุ๊กกว่า 400,000 คน โดยในกลุ่มดังกล่าวจะมีสมาชิกคนต่าง ๆ มาร่วมแบ่งปันเคล็ดลับในการเก็บออมเงิน รวมถึง หวังเซินอ้าย ซึ่งคนในกลุ่มให้การยอมรับจนถึงขั้นยกให้เป็นเมนเทอร์สำหรับผู้ที่ต้องการเก็บออมเงิน

ชื่อของเธอเพิ่งจะกลายมาเป็นที่สนใจของคนทั่วไป เมื่อทางรายการ Talking to Strangers ได้ชวนเธอมาสัมภาษณ์ พูดคุยเกี่ยวกับแนวคิดเรื่องบริโภคนิยมและมินิมอลลิสต์ ซึ่งในรายการเธอยังบอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง ที่พยายามใช้เงินจำนวนน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้จะต้องเสียสละความสุขเล็กๆ น้อยๆ บางอย่างไปก็ตาม

โดยหญิงสาวเปิดใจเล่าว่า เธอเติบโตมาจากครอบครัวที่ยากจน ซึ่งพ่อแม่ก็พยายามจะเก็บเงินให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม่ของเธอยังมักจะนำเงินออมไปเก็บไว้ในตู้เย็น และเมื่อใดก็ตามที่ต้องให้เงินลูก แม่ก็มักจะโยนเศษเหรียญเหล่านั้นลงบนพื้น เพื่อจะสอนลูกว่าเงินทองนั้นหามาได้ยาก และประสบการณ์ในวัยเด็กก็ยังฝังใจเธอมาจนถึงตอนโต

ชีวิตของเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะการโตมาในบ้านหลังเล็กๆ ที่ไม่มีแม้ผ้าม่าน ไม่มีความเป็นส่วนตัวใดๆ กลายเป็นแรงผลักดันให้เธอต้องการมีบ้านเป็นของตัวเอง ดังนั้นทันทีที่เธอหางานทำได้ เธอก็ตั้งใจเก็บเงินเหล่านั้นไว้เพื่อซื้อบ้านตามที่ต้องการ แม้ว่าตอนนี้หวังเซินอ้ายจะแต่งงานแล้ว และมีลูกให้ดูแลถึง 2 คน แต่การมีครอบครัวไม่ได้ขวางการใช้ชีวิตแบบประหยัดสุดขั้วของเธอเลย 

ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา เธอกับสามีสามารถประหยัดและเก็บออมเงินได้ประมาณ 90% ของรายได้ในแต่ละเดือน กระทั่งตอนนี้พวกเธอสามารถซื้อบ้านได้ถึง 2 หลัง ในแต่ละปี หวังเซินอ้ายจะใช้เงินจ่ายค่าชุดชั้นในเพียงปีละ 100 หยวน หรือราว 500 บาท ขณะที่เสื้อผ้าอื่นๆ นั้นล้วนเป็นเสื้อผ้าที่คนรู้จักบริจาคมาให้ 

เมื่อพวกเขาไม่ต้องการใช้เสื้อผ้าเหล่านี้แล้ว เธอไม่อายที่จะเก็บของเก่าอย่างพวกเฟอร์นิเจอร์มาใช้ซ้ำ ถ้านั่นหมายถึงการประหยัดเงิน และเธอก็มองว่าการออกไปกินดื่มกับเพื่อนฝูง คือเรื่องที่สิ้นเปลืองเกินไป ส่วนของใช้อื่นๆ เธอก็จะพิจารณาให้รอบคอบก่อนว่ามีความจำเป็นแค่ไหน อย่างเช่นครั้งหนึ่งที่เธออยากได้แท็บเล็ต แต่ก็ต้องมาคิดซ้ำว่ามันไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับเธอมากนัก

เมื่อพิธีกรรายการถามเธอว่า ถ้าเธอไม่เลือกที่จะมีความสุขตอนนี้ แล้วจะมีความสุขได้เมื่อไหร่ หญิงสาวก็ตอบเพียงว่า ปัญหาคือบางคนมีความสุขตอนที่พวกเขาได้ใช้จ่ายเงิน แต่ความสุขของเธอไม่ใช่สิ่งนั้น เธอมีความสุขมากที่สุดตอนที่ได้เก็บเงิน ในทางกลับกันการใช้เงินทำให้เธอรู้สึกเครียดและเปราะบาง การเก็บเงินต่างหากที่ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย

 

 

แต่เรื่องราวของเธอกลับกลายมาเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์ ผู้คนมากมายไม่เห็นด้วยกับไลฟ์สไตล์ประหยัดแบบสุดโต่งของเธอ แต่ถึงอย่างนั้นหวังเซินอ้ายก็ไม่ได้สนใจ เธอโต้กลับคำวิจารณ์เหล่านั้น โดยชี้ว่าเธอไม่เคยสนับสนุนให้ใครยึดเธอเป็นแบบอย่าง ทุก ๆ คนนั้นล้วนแตกต่าง และมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ

ทั้งนี้ หวังเซินอ้ายชี้ว่าการได้ทำงานในบริษัทโฆษณาและการตลาด ทำให้เธอเรียนรู้ว่าแบรนด์ต่าง ๆ มักจะสร้างความต้องการเทียมขึ้นเพื่อเพิ่มพฤติกรรมในการใช้จ่าย พร้อมยกตัวอย่างถึงเด็กสาวที่เริ่มต้นจากการซื้อเครื่องสำอางในแบรนด์ที่ได้รับความนิยม แต่จากนั้นทุก ๆ ครั้งที่เด็กคนนี้ซื้อ เธอก็จะมีข้อกำหนดเกี่ยวกับของที่มีคุณภาพสูงขึ้น จนลงเอยด้วยการจ่ายเงินซื้อสินค้าที่เกินกำลังของตัวเอง เพียงเพื่อจะได้รับความรู้สึกถูกเติมเต็ม
 

มูลจาก odditycentral