หลายช่องดังทยอยปลดพนักงานเพิ่ม แต่ยังส่อเค้าทรุดกว่าเดิม

ธุรกิจสื่อ - บันเทิง เลือดไหลไม่หยุด หลายช่องดังทยอยปลดพนักงานเพิ่ม แต่ยังส่อเค้าทรุดกว่าเดิม เพราะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น

หลายช่องดังทยอยปลดพนักงานเพิ่ม แต่ยังส่อเค้าทรุดกว่าเดิม หลังสิ้นสุดการระบาดของโควิดทำให้บรรดาบริษัทให้บริการข่าว, อุตสาหกรรมบันเทิง โดยเฉพาะผู้ให้บริการสตรีมมิ่งพากันรายได้หดหาย เพราะผู้คนที่หันไปใช้ชีวิตตามปกติพากันบอกเลิกสมาชิก และส่วนหนึ่งเป็นเพราะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น และยังส่อเค้าทรุดกว่าเดิม 

 

หลายช่องดังทยอยปลดพนักงานเพิ่ม แต่ยังส่อเค้าทรุดกว่าเดิม

 

รวมทั้ง CNN ที่โฆษณาหดหายและคู่แข่งเรตติ้งดีกว่าจนต้องปลดพนักงาน และมีรายงานด้วยว่า CEO ต้องจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยส่วนตัว ซึ่งโฆษณาที่ชะลอตัว, ความวิตกเรื่องเศรษฐกิจ, การบอกเลิกรับสมาชิก และการยกเลิกสมาชิกสตรีมมิ่ง สร้างความกระทบกระเทือนให้กับองค์กรสื่อและอุตสาหกรรมบันเทิง 


จนต้องลดต้นทุนและเลิกจ้างพนักงานภายใต้คำพูดที่เป็นทางการว่า "ปรับโครงสร้าง" เฉพาะแค่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Warner Bros. Discovery ได้ตัดสินใจปลดพนักงานในบริษัทลูกอย่าง CNN ที่รวมทั้งในส่วนออกอากาศและทีมงานเบื้องหลัง จากนั้นบริษัทอื่นก็ทยอยทำตาม ส่วนใหญ่เป็นพวกที่ลงทุนไปมากกับบริการสตรีมมิ่ง 

 


Wallstreet Journal รายงานว่า Walt Disney Co., Warner Bros. Discovery และ Paramount Global สูญเสียรายได้ไตรมาสล่าสุดรวมกัน 2,500 ล้านดอลลาร์ และกำลังพยายามจะกอบกู้สถานการณ์ ขณะที่ AMC Networks Inc. เจ้าของสื่อทีวี, เคเบิลทีวี และสตรีมมิ่ง ก็เตรียมจะลดพนักงานลง 20% โดยอ้างขาดทุนจากบริการสตรีมมิ่ง

หลายช่องดังทยอยปลดพนักงานเพิ่ม แต่ยังส่อเค้าทรุดกว่าเดิม  

ส่วน Gannett Co., ที่ผลิตหนังสือพิมพ์หลายหัวรวมทั้ง USA Today ก็เริ่มปลดพนักงานมากกว่า 200 คน หลังจากปลดไปมากถึง 400 คน เมื่อต้นปี และ Washington Post ก็ประกาศจะยุติการพิมพ์นิตยสารฉบับวันอาทิตย์เพราะขาดพนักงานไปถึง 10 คน

 

ทั้งนี้ มีรายงานว่า HLN ที่ได้ชื่อว่าเป็นบริษัทน้องของ CNN ก็กำลังเตรียมยุติการทำงานสด เพื่อประหยัดงบประมาณเช่นกัน แต่ในทางกลับกัน คริส ลิชต์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ต้องจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยส่วนตัวเป็นพิเศษในสัปดาห์นี้ 


หลังตัดสินใจปลดพนักงานเกือบ 10% โดยมีการวางกำลังทั้งด้านสำนักงานของลิชต์ที่อยู่บนชั้น 17 และคอยเดินตามประกบเวลาเขาเดินอยู่ภายในเครือข่ายสำนักงาน ซึ่งเชื่อว่าเป็นเพราะเขารู้ดีว่าได้สร้างความไม่พอใจให้พนักงานจากการปรับโครงสร้างครั้งนี้และก่อนหน้านี้ 

 

ในจำนวนผู้ที่ถูกปลดได้รวมทั้งคนหน้าจอที่มีชื่อเสียง เช่น พรีท บาราร่า (Preet Bharara) ที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เคยแต่งตั้งให้เป็นอัยการนิวยอร์ก, พอล เบกาลา (Paul Begala) ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญอย่าง คริส ซิลลิซซา (Chris Cillizza), ผู้สื่อข่าว เช่น แดน เมอริกา (Dan Merica) และอลิสัน โคซิค (Alison Kosik) 


แม้จะจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยส่วนตัวเพราะกลัวสถานการณ์จะบานปลาย แต่พนักงานบางคนก็ยกย่องเขา ที่เลือกจะเปิดประตูห้องทำงานเอาไว้ตลอดวันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพื่อให้พนักงานที่ยังเหลืออีก 4,000 คน สามารถสอบถามพูดคุยกับเขาเรื่องการปลดพนักงานได้

หลายช่องดังทยอยปลดพนักงานเพิ่ม แต่ยังส่อเค้าทรุดกว่าเดิม
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline