เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายพันนายบุกจับ เจ้าชายแห่งรอยส์ ด้วยข้อหาร้ายแรง

เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายพันนายบุกจู่โจม "เจ้าชายแห่งรอยส์" ผู้นำรัฐประหาร พร้อมสมาชิกขบวนการหัวรุนแรงขวาจัด

เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายพันนายบุกจับ เจ้าชายแห่งรอยส์ ด้วยข้อหาร้ายแรง มีรายงานว่า ตำรวจเยอรมันหลายพันนายบุกจู่โจมจับกุมสมาชิกขบวนการหัวรุนแรงขวาจัด ที่วางแผนก่อรัฐประหาร โค่นอำนาจของรัฐบาลปัจจุบันเพื่อหวังนำระบอบกษัตริย์กลับมา โดยจับกุมผู้อยู่เบื้องหลังได้ราว 25 คน และขยายผลไปถึงประเทศออสเตรียและอิตาลี และพบว่าแผนการรัฐประหารของกลุ่มนี้เลียนแบบวิธีการของพวกขวาจัดในสหรัฐฯ ที่บุกยึดรัฐสภาเมื่อหลายปีก่อน

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายพันนายบุกจับ เจ้าชายแห่งรอยส์ ด้วยข้อหาร้ายแรง

โดย ตำรวจเยอรมนีหลายพันนายใช้ปฏิบัติการบุกจู่โจมทั่วประเทศ เพื่อกวาดล้างกลุ่มหัวรุนแรงขวาจัดสุดโต่ง "พลเมืองไรช์" (Reich Citizens) ที่พยายามจะก่อรัฐประหาร เพื่อโค่นรัฐบาลเยอรมันของนายกรัฐมนตรี โอลาฟ ชอลซ์ แล้วนำการปกครองด้วยระบอบกษัตริย์กลับคืนมา โดยมีผู้ถูกจับกุมไปแล้วราว 25 คน หนึ่งในจำนวนคนที่ถูกจับกุมคือ "ไฮน์ริชที่ 13 เจ้าชายแห่งรอยส์" (Heinrich XIII, Prince of Reuss

 


เจ้าชายแห่งรอยส์ วัย 71 ปี ที่สืบเชื้อสายมาจากราชสกุลรอยซ์ โดยเขายังคงใช้ฐานันดร "เจ้าชาย" อยู่ถึงทุกวันนี้ แม้ว่าเยอรมนีจะลดบทบาทราชวงศ์ไปตั้งแต่ 100 กว่าปีก่อน แต่สมาชิกในราชสกุลรอยซ์ (House of Reuss) ที่เคยปกครองบางส่วนของเยอรมันตะวันออกเมื่อศตวรรษที่ 12 ได้ตีตัวออกห่างจากไฮน์ริชที่ 13 เพราะฝักใฝ่ทฤษฎีสมคบคิดและมีแนวคิดขวาจัด


ทั้งนี้ คณะอัยการแห่งสหพันธ์ระบุว่า ไฮน์ริชที่ 13 เป็นหนึ่งใน 2 แกนนำของพลเมืองไรช์ ที่วางแผนใช้ปฏิบัติการ "Day X" บุกยึดอาคารรัฐสภาไรชส์ทาค (Reichstag Building) แต่หน่วยข่าวกรองในประเทศที่จับตามองการเคลื่อนไหวของขบวนการนี้มาตั้งแต่ปี 2016  ได้ล้มแผนและนำไปสู่การบุกจู่โจมเข้าจับกุมผู้ร่วมขบวนการใน 11 รัฐ ทั่วประเทศ 

เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายพันนายบุกจับ เจ้าชายแห่งรอยส์ ด้วยข้อหาร้ายแรง

เจ้าหน้าที่ข่าวกรองประเมินด้วยว่ากลุ่มนี้มีสมาชิกประมาณ 21,000 คน และพวกเขาเชื่อว่าเยอรมนีในปัจจุบันปกครองด้วยระบบ "รัฐลึก" (Deep State) หรือ รัฐซ้อนรัฐ ซึ่งเป็นการปกครองลับรูปแบบหนึ่ง ประกอบด้วยเครือข่ายอำนาจที่ดำเนินการอย่างเป็นอิสระจากคณะผู้นำทางการเมืองของประเทศ เพื่อผลักดันระเบียบวาระหรือเป้าหมายของตนเอง ตัวอย่างของรัฐลึกที่ชัดเจนคือหน่วยข่าวกรองและตำรวจลับ 

 

ทั้งนี้ แผน "DAY X" ถูกระบุว่าเลียนแบบการบุกยึดอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ (Capital Hill) เมื่อวันที่ 6 มกราคม ปี 2554 ในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อขัดขวางการนับผลคะแนนเลือกตั้ง

 


คณะอัยการฯ ระบุด้วยว่าไฮน์ริชที่ 13 ซึ่งเตรียมตัวจะเป็นประมุขคนใหม่ถ้าแผนโค่นรัฐบาลปัจจุบันสำเร็จ ได้ติดต่อกับหญิงชาวรัสเซียชื่อ วิตาเลีย บี (Vitalia B) โดยมีวัตถุประสงค์จะขอการสนับสนุนจากทางการรัสเซียเพื่อกำหนดระเบียบประเทศใหม่ แต่ไม่มีข้อบ่งชี้ว่ารัสเซียตอบโต้ในเชิงบวก นอกจากนี้ ยังพบว่าทางกลุ่มมีแกนนำคนสำคัญอีกคน คือ เบอร์กิต เอ็ม ดับเบิลยู (Birgit M W) ผู้พิพากษาหญิงและอดีตสมาชิกรัฐสภาในสังกัดพรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี (Alternative fur Deutschland) หรือ อาเอฟเด (AfD) ที่มีแนวคิดชาตินิยมขวาจัด และไฮน์ริชที่ 13 ก็สังกัดพรรคนี้เช่นกัน


ในจำนวนกองกำลังเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงราว 3,000 นาย ที่บุกจู่โจมแบบสายฟ้าแลบ 130 จุด ใน 11 รัฐ จากทั้งหมด 16 รัฐ และขยายถึงออสเตรียกับอิตาลี มีหน่วยคอมมานโด GSG9 (หน่วยปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายแห่งปิตุภูมิ) รวมอยู่ด้วย เชื่อว่าแผนโค่นรัฐบาลถูกวางแผนมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2011 โดยมีการสั่งสมเครื่องมือและรวบรวมกำลังพล ที่เน้นคนที่มีภูมิหลังทางการทหารและตำรวจ ทั้งยังมีการเทรนนิงเรื่องการยิงปืนให้กับสมาชิกด้วย


นิตยสารรายสัปดาห์ แดร์ ชปีกัล (Der Spiegel) รายงานว่า ในบรรดาจุดที่ถูกตรวจค้น มีค่ายของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ KSK (Kommando Spezialkrafte) ในเมืองไคฟ์ (Calw) รวมอยู่ด้วย ซึ่ง KSK เคยถูกตรวจสอบกรณีต้องสงสัยว่ามีทหารบางส่วนเกี่ยวข้องกับพวกขวาจัด แต่คณะอัยการฯ ไม่ได้ยืนยันว่ามีการตรวจค้นค่ายทหารแห่งนี้ด้วยหรือไม่


อย่างไรก็ตาม ยังมีรายงานอีกว่า ตามแผนการโค่นล้ม "DAY X" นั้นเกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธกลุ่มเล็กบุกยึดอาคารรัฐสภาบุนเดสทากเยอรมัน (Bundestag) เลียนแบบการบุกยึดรัฐสภาสหรัฐฯเมื่อวันที่ 6 ม.ค ปี 2011 ในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำเพื่อขัดขวางการนับผลคะแนนเลือกตั้ง

เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายพันนายบุกจับ เจ้าชายแห่งรอยส์ ด้วยข้อหาร้ายแรง

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline