แพทย์วอนหยุดใช้ความรุนแรง หลังผู้ป่วย-รพ.รอบอนุสาวรีย์ชัยฯ ได้รับผลกระทบจากเหตุชุมนุม

แพทย์วอนทุกฝ่ายหาทางออกอย่างสันติ หยุดใช้ความรุนแรง หลังเหตุการณ์ชุมนุมเริ่มกระทบผู้ป่วย-เจ้าหน้าที่บุคลากรโรงพยาบาลบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 64  นายแพทย์สุรเวช น้ำหอม อาจารย์แพทย์หน่วยศัลยศาสตร์ตกแต่ง คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Dr.Surawej Numhom นายแพทย์สุรเวช น้ำหอม" ถึงสถานการณ์การชุมนุมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งมักจะมีการชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยบริเวณดังกล่าวเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลราชวิถี และ ยังมี รพ.ใกล้เคียงอีกหลายแห่ง ทำให้เจ้าหน้าที่เริ่มเกิดความเสี่ยงในการเดินทาง จึงอยากขอให้มีการหาทางออกด้วยวิธีที่สันติ โดยมีการระบุข้อความว่า

แพทย์วอนหยุดใช้ความรุนแรง

 

"การชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เหตุการณ์ความรุนแรงเป็นอย่างไร หลายท่านคงจะได้เห็นแล้วจากสำนักข่าวต่างๆที่รายงานออกมา แต่หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบเช่นกันว่าโรงแรมบางแห่งบริเวณรอบอนุสาวรีย์ชัย ก็ได้ถูกใช้เพื่อเป็น Hospitel เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดมาตั้งแต่ที่การระบาดเริ่มมากและโรงพยาบาลเริ่มเตียงเต็ม และได้มีคนไข้ที่รักษาจนหายกลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวได้หลายพันคนแล้ว

ลาซาด้าแจกคูปองส่วนลด
 

Hospitel เป็นสถานที่ช่วยดูแลคนไข้ที่ติดเชื้อโควิดที่อาการยังไม่หนัก โดยจะได้รับการดูแลจากทีมแพทย์และพยาบาลตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งในสถานการณ์ีที่การระบาดหนักเหมือนทุกวันนี้ คนไข้ที่รักษาที่ Hospitel ก็มีอาการค่อนข้างหนักเมื่อเทียบกับช่วงแรกของการระบาด กล่าวคือมีคนไข้ที่ต้องการการให้ Oxygen และการดูแลอย่างใกล้ชิดจำนวนมากขึ้น

แพทย์วอนหยุดใช้ความรุนแรง

 

ทีมแพทย์และพยาบาลและเจ้าหน้าที่ของรามาได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างเหนื่อยยากมาตลอด เวรที่ Hospitel จะทำงานกันผลัดละ 12 ชั่วโมง ด้วยที่คนไข้มีจำนวนมากและเจ้าหน้าที่มีจำนวนจำกัด ทำให้เจ้าหน้าที่ในแต่ผลัด ทำงานกันแบบไม่ได้หยุดพักเลย เมื่อครบ 12 ชั่วโมงจึงเหนื่อยล้ามาก

แต่จากสถานการณ์ที่มีการชุมนุมและมีความรุนแรงเกิดขึ้นโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทำให้ทีมแพทย์และพยาบาลไม่สามารถผลัดเวรกันได้ คือเดินทางออกจาก hospitel ก็ไม่ได้และเดินทางเข้ามายัง Hospitel ก็ไม่ได้ ทำให้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องอยู่เวรกันต่อเนื่อง เพราะไม่สามารถทิ้งคนไข้ไปไหนได้ 


การทำงานที่ต้องเสี่ยงด้วยตัวเองอยู่แล้วเพราะต้องรักษาคนไข้ติดเชื้อโควิด และต้องเสี่ยงจากการเดินทางและความไม่แน่นอนในเรื่องการปลอดภัยอีก ทำให้บุคลากรทุกคนจึงมีความวิตกกังวลในการทำงานอย่างมาก เพราะมีโอกาสทั้งอันตรายจากลูกหลงที่เกิดขึ้นจากความรุนแรง ที่ก็ไม่มีทางทราบว่ามาจากฝ่ายไหน ตอนนี้สถานการณ์โควิดก็ยังมีการติดเชื้อในจำนวนมาก คนไข้ต้องการเตียง Hospitel ก็ยังมีตลอดเวลา แต่จากความรุนแรงและความไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้น ทำให้การตัดสินใจการรับคนไข้และการทำงานของทุกฝ่ายเป็นไปได้อย่างยากลำบาก

แพทย์วอนหยุดใช้ความรุนแรง


ดังนั้นหากทุกฝ่ายสามารถหาทางออกที่ปราศจากความรุนแรงได้ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี คนไข้ติดเชื้อโควิดทุกคนที่ทำการรักษาอยู่และยังต้องการเตียง Hospitel ก็ล้วนแต่เป็นญาติพี่น้องของใครสักคน ไม่ว่าจะเป็นผู้มาชุมนุมหรือเจ้าหน้าที่ที่มาปฎิบัติงานหรือแม้แต่ผู้ที่สร้างความรุนแรงเองก็ตาม จึงขอความเห็นใจจากทุกฝ่าย ช่วยพิจารณาเรื่องความปลอดภัยในการทำงานและดูแลคนไข้โควิดไว้ด้วยอีกประการหนึ่งนะครับ"

 

ขอบคุณ FB : Dr.Surawej Numhom นายแพทย์สุรเวช น้ำหอม

ลาซาด้าแจกคูปองส่วนลด