ฝ่ายหญิงโต้เดือดไม่ได้ถูกฉุด เต็มใจแต่งเอง แฉยับวีรกรรมอดีตแฟน

จากกรณีหนุ่มใจสลายเล่าเหตุการณ์แฟนสาวถูกฉุดไปทำมิดีมิร้ายก่อนถูกบังคับให้แต่งงานกับชายที่ฉุดไปอ้างว่าเป็นประเพณี และหนุ่มรายนี้บอกว่าอดีตแฟนสาวจำใจแต่งงานเพราะต้องทำตามประเพณีจนได้รับความเห็นใจจากชาวเน็ตและหลายๆคนต่างเข้าไปรุมตำหนิทางฝ่ายหญิง
 

โดยมีหนุ่มรายหนึ่งอัดคลิปเล่าเหตุการณ์ว่า ตอนนี้ตัวเองอยู่บนดอยมูเซอ ซึ่งได้ขับรถมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมาตามแฟนซึ่งเป็นสาวม้ง ที่กลับบ้านมาแต่โดนลักพาตัว ทางพ่อแม่ไม่สามารถช่วยอะไรได้ สุดท้ายแฟนที่ตนคบกันมา 2 ปี ต้องถูกยกให้แต่งงานกับคนที่มาลักพาตัวไป

"ผมเลยต้องขับรถจากกรุงเทพฯ เพื่อมาตาม สรุปต้องกลับบ้านตัวเปล่า เพราะแฟนเลือกที่จะแต่งงานกับคนม้ง คนที่ฉุดไปตามประเพณีม้ง ส่วนผมที่คบมา 2 - 3 ปี ทำอะไรไม่ได้ ที่แฟนต้องแต่งงาน เพราะพ่อแม่ยกให้เขาแล้วตามประเพณีคนที่โดนฉุด จะต้องแต่งงานกับคนที่ฉุดไป มีการคุยเรื่องสินสอดเรียบร้อยแล้ว ตนจึงต้องกลับ แฟนผมก็ไม่ได้เลือกผม เลือกคนที่ฉุดตามประเพณี"

พร้อมเผยแชทที่คุยกับแฟนสาว ซึ่งแฟนสาวม้งได้ทักมาขอโทษบอกว่า "พี่หนูขอโทษนะ พี่กับหนูอาจคบต่อกันไปไม่ได้แล้ว เนื่องตามประเพณีของพวกหนู ไม่สามารถเดินออกจากจุดๆ นี้ได้แล้ว หนูรู้สึกผิดหวังและขอโทษพี่จริงๆ นะคะ วันนี้อาจเป็นวันสุดท้ายแล้วที่หนูจะได้พิมพ์แชทหาพี่ หนูก็รักพี่มากนะ แต่หนูไม่สามารถเดินออกจากจุดๆ ที่หนูยืนอยู่ได้ ต่อไปนี้ไม่มีหนูแล้ว ดูแลตัวเองดีๆ นะคะ"

ล่าสุดฝ่ายหญิงโต้กลับ โดยสาวม้งคนดังกล่าวโพสต์ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น เหตุการณ์เหมือนหนังคนละม้วน ยืนยันไม่ได้โดนฉุด และแต่งงานกับสามีด้วยความเต็มใจไม่ได้ถูกบังคับพร้อมแฉวีรกรรมอดีตแฟน

เธอบอกว่าสามีที่แต่งงานกันไม่ได้ฉุดเธอ ที่เธอเต็มใจแต่งงานกับเขาเพราะเขามีความต้องการชัดเจนว่าอยากแต่งงานด้วยจึงใจอ่อน และการที่อดีตแฟนอ้างว่าส่งเสียตนเรียนนั้นไม่จริง ตนทำงานหาเงินจ่ายค่าเทอมเอง ทุกอย่างจ่ายเอง นอกจากไม่ส่งเสียแล้วยังติดหนี้เธออีก

นอกจากนี้ยังแฉว่าอดีตแฟนหนุ่มเคยขู่เอาชีวิตพ่อแม่เธอ จึงทำให้เธอรู้สึกว่าคิดถูกแล้วที่เลิกรากันได้ ก่อนหน้านี้เธอเคยบอกแล้วว่าหากอยากแต่งงานกับเธอก็ให้มาสู่ขอ ถึงไม่มีเงินก็ให้มาสู่ขอกับพ่อแม่ก่อน แต่เขาไม่ทำ วันนี้เธอเลือกชีวิตใหม่ก็อย่ามารบกวนอีก

"#ประเพณีม้งเป็นสิ่งที่ดีงาม หนูไม่เห็นด้วยกับการฉุดผู้หญิงมาแต่งงาน แต่กรณีของหนู หนูเต็มใจมากับพี่เขา ไม่ใช่ถูกพี่เขาฉุดมา การฉุดถือเป็นการลักพาตัว ย่อมเป็นคดีอาญาค่ะ"

และยังฝากถึงคนที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงแล้วมาใส่ร้ายป้ายสีว่าเธอจะดำเนินคดี รับคำขอโทษเป็นเงิน พร้อมประกาศตามหาทนายความช่วยคดีนี้อีกด้วย