เช็กอาการติดโควิดในเด็ก 2 แบบ ต้องดูแลอย่างไร อาการแบบไหนเข้าข่ายป่วยหนัก

เช็กอาการติดโควิดในเด็ก 2 แบบ ต้องดูแลอย่างไร อาการแบบไหนเข้าข่ายป่วยหนัก แนะผู้ปกครองสังเกตอาการอย่างวันละ 2 ครั้ง

เกาะติดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย โดยเฉพาะโควิดสายพันธุ์โอไมครอน หรือ โอมิครอน (Omicron) ทำให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สร้างความกังวลให้กับให้ประชาชนจำนวนมาก เพราะถึงแม้ว่าสายพันธุ์โอไมครอน ถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่แสดงอาการน้อย ลักษณะคล้ายไข้หวัด แต่ก็สามารถแพร่กระจายเชื้อได้อย่างรวดเร็ว

 

เช็กอาการติดโควิดในเด็ก 2 แบบ ต้องดูแลอย่างไร อาการแบบไหนเข้าข่ายป่วยหนัก

ขณะที่ ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ได้แนะนำวิธีสังเกตอาการติดโควิดในเด็ก อาการเบื้องต้นที่ผู้ปกครองจำเป็นต้องรู้ว่า ลูกน้อยป่วยติดโควิดอยู่ในระดับใด จะต้องปฏิบัติอย่างไร


- อาการแบบที่ 1 อาการในระดับที่สามารถเฝ้าสังเกตที่บ้านต่อไปได้ คือ มีไข้ต่ำ มีน้ำมูก มีอาการไอเล็กน้อย ไม่มีอาการหอบเหนื่อย ถ่ายเหลวยังคงกินอาหารหรือนมได้ปกติ และไม่ซึม ซึ่งเด็กที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย สามารถรับการรักษาแบบ HI ได้


- อาการแบบที่ 2 อาการที่ผู้ปกครองควรติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อนำเด็กส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว คือ ไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียล หายใจหอบเร็วกว่าปกติ ใช้แรงในการหายใจ ปากเขียว ระดับออกซิเจนปลายนิ้วน้อยกว่า 94% ซึมลง ไม่ดูดนม และไม่กินอาหาร

 

เช็กอาการติดโควิดในเด็ก 2 แบบ ต้องดูแลอย่างไร อาการแบบไหนเข้าข่ายป่วยหนัก

ทั้งนี้ อาการติดโควิดของเด็กที่พบมากที่สุด คือ มีไข้หลายวัน อาจจะมีไข้สูงหรือต่ำ ไอแห้งเจ็บคอ อ่อนเพลียคัดจมูก ซึ่งในกลุ่มนี้อาการจะคล้ายไข้หวัด นอกจากนั้นยังพบเด็กบางรายมีอาการผื่นแดง จมูกไม่ได้กลิ่นเบื่ออาหาร ในเด็กทารก อาจดื่มนมน้อยลง อาจมีอาการท้องเสียร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมืออย่างถูกวิธี หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก และไม่ใช้สิ่งของร่วมกับเด็กที่ติดเชื้อ