ลูกชายผู้เสียชีวิต ซัด หมอตร. เมาแล้วขับ ไม่มีความจริงใจ ต้องได้โทษต้องหนักกว่านี้ มีเงิน7ล้านซื้ออรถ แต่วางเงินค่าชีวิต ไว้แค่ 2.5 ล้านบาท

   จากกรณี ร.ต.อ.แพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลตำรวจ เมาแล้วขับปอร์เช่ คาเยน ป้ายแดง ชนท้ายรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ บนถนนราชพฤกษ์ ใต้สถานีบีทีเอสบางหว้า ทำให้ผู้ที่นั่งมาในรถเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย โดยอุบัติเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 ส.ค. 64   ผู้ขับปอร์เช่คาเยนป้ายเเดง คือ ร.ต.อ.นพ.ภาณุรักษ์ รัตนไพศร นายแพทย์(สบ1) กลุ่มงานศัลยกรรม รพ.ตำรวจ 

ลูกชายผู้เสียชีวิต ซัด หมอตร. เมาแล้วขับ ไม่มีความจริงใจ โทษต้องหนักกว่านี้

คืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่7 พ.ย. 65 ที่ศาลอาญาธนบุรี น.ส.ผ่องเพชร สิริอิสสระนันท์ พร้อมด้วย นายกานต์พงศ์ สิริอิสสระนันท์ ซึ่งเป็นญาติของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และ ทนายความ เดินทางมาฟังคำพิพากษาคดีดังกล่าว 

ลูกชายผู้เสียชีวิต ซัด หมอตร. เมาแล้วขับ ไม่มีความจริงใจ โทษต้องหนักกว่านี้
   ภายหลังการฟังคำตัดสิน นายกานต์พงศ์ สิริอิสสระนันท์ ลูกชายผู้เสียชีวิตกล่าวว่า  เปิดเผยว่า  ศาลตัดสินให้ ร.ต.อ.นพ.ภาณุรักษ์ รัตนไพศร  จำคุก 3 ปี รอลงอาญา2 ปี และเสียค่าปรับ 1แสน 1พันบาท และคู่กรณีได้วางเงินสินไหมทดแทนไว้ 2.5 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.5 ล้านบาทสำหรับพ่อที่เสียชีวิต และ 1 ล้านบาท สำหรับน้องสาวซึ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บ

ลูกชายผู้เสียชีวิต ซัด หมอตร. เมาแล้วขับ ไม่มีความจริงใจ โทษต้องหนักกว่านี้

   โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรม อยากให้ผู้กระทำความผิด ได้รับโทษที่แรงกว่านี้ หรืออย่างน้อยอยากให้ติดคุกในทันที เนื่องจากเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตทันที2ราย และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย
 

 

ลูกชายผู้เสียชีวิต ซัด หมอตร. เมาแล้วขับ ไม่มีความจริงใจ โทษต้องหนักกว่านี้
  นายกานต์พงศ์ กล่าวต่ออีกว่า คู่กรณี ไม่มีความจริงใจในความรับผิดชอบเลย เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการปฏิเสธข้อกล่าวหามาตลอด และเพิ่งมาแก้คำให้การเป็นรับสารภาพในชั้นศาล และที่สำคัญคือ ครอบครัวของคู่กรณี สามารถซื้อรถยนตร์ในราคากว่า 7 ล้านบาทได้ แต่วางเงินค่าชีวิต ไว้แค่ 2.5 ล้านบาท ซึ่งตนมองว่าไม่มีความจริงใจเลย

ลูกชายผู้เสียชีวิต ซัด หมอตร. เมาแล้วขับ ไม่มีความจริงใจ โทษต้องหนักกว่านี้
 
น.ส.ผ่องเพชร สิริอิสสระนันท์ กล่าวว่า นับแต่เหตุการณ์ ในวันนั้นจนถึงวันนี้ เป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ตนยังบาดเจ็บอยู่เลย และยังเดินไม่สะดวก ทั้งนี้ตนมองว่าอยากให้คู่กรณีได้รับโทษหนักกว่านี้ รวมถึง อยากให้ปรับปรุงกฏหมายเกี่ยวกับเรื่องเมาแล้วขับ มีโทษหนักกว่านี้ เพื่อให้กรณีแบบนี้ลดน้อยลงไป ด้านทนายความของผู้เสียหายกล่าวว่า หลังจากนี้ จะทำการอุทธรณ์คดีนี้ต่อไป

ลูกชายผู้เสียชีวิต ซัด หมอตร. เมาแล้วขับ ไม่มีความจริงใจ โทษต้องหนักกว่านี้

  ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainews